“สุเทพ” เผยคสช.คลายล็อกเมื่อไหร่-ลงพื้นที่ทันที ประกาศลั่นไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 27 ส.ค.เวลา 12.05 น. ที่อาคารทู แปซิฟิค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการคลายล็อกทางการเมืองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า พรรค รปช. รออยู่ว่า คสช.จะประกาศอนุญาตให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้อย่างไรบ้าง ตนเข้าใจคสช.ว่าต้องการให้บรรยากาศของประเทศ เกิดความสงบก่อนมีการเลือกตั้งทั่วไป แต่จากกระบวนการตั้งแต่ยื่นจดแจ้งตั้งพรรคกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เชื่อว่าประมาณช่วงเดือน ก.ย. 61 เขาจะอนุญาตให้เราสามารถดำเนินการทางการเมืองได้โดยสมบูรณ์ หากทำได้เมื่อไหร่หลังจากนั้น เราจะเริ่มออกประชาสัมพันธ์ทันที ซึ่งตนมีพื้นที่แรกที่จะลงไปไว้ในใจอยู่แล้ว และตั้งใจว่าจะไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรในขณะนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวเช่นนี้ มีการดำเนินการเกือบทุกพรรคทั้งเก่าและใหม่ แต่ขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มไหนทำแล้วจะเป็นข่าวหรือไม่เป็นข่าว ซึ่งทำในลักษณะเดียวกันนี้แต่ต่างรูปแบบกันไป โดยทำตามที่แต่ละคนถนัด แม้แต่พรรค รปช. เองก็เดินหน้าออกไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเช่นกัน เพราะถือว่านโยบายของพรรคต้องเป็นเสียงของประชาชนเป็นผู้กำหนด แต่เมื่อ คสช. ไม่ให้เดินทางประชาสัมพันธ์โดยการลงพื้นที่ เราก็ยังมีอีกช่องทางคือโซเชียลมีเดีย ที่สามารถเปิดรับฟังความเห็นของประชาชน ตนเชื่อว่าประชาชนต้องมีใจให้กันเพื่อจะปฏิรูปทางการเมือง
นายสุเพท กล่าวถึงการทำไพรมารีโหวตว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะทำไพรมารีอย่างไร สำหรับพรรค รปช. จะทำตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ โดยให้สมาชิกในเขตเป็นผู้เลือกให้ใครลงสมัครรับเลือกตั้ง ยืนยันว่าเราทำไพรมารีโหวตทันแน่นอน ทั้งนี้อยากเรียกร้องให้พรรคการเมืองต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เพราะการทำไพรมารีโหวตเรียกได้ว่าเป็นการปฏิรูปพรรคการเมืองรูปแบบหนึ่ง การจะเอาใครลงสมัครรับเลือกตั้งระดับเขต ก็ต้องให้คนในระดับเขตนั้นๆตัดสินใจ
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงความคืบหน้านโยบายหาเสียงของพรรครปช.ว่า เรามีโจทย์ คือจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจของประชาชนดีขึ้น ไม่เพียงคิดแต่เศรษฐกิจภาพใหญ่ของประเทศเท่านั้น ต้องคิดด้วยว่าจะมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างไร นอกจากนี้ตนตั้งใจจะนำประสบการณ์สมัยที่เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบดูแลเรื่องราคาผลผลิตทางการเกษตรภาคใต้ มาเป็นแนวทางให้พรรค รปช.ผลักดันแก้ปัญหา ซึ่งขณะนี้พรรคมีนโยบายชัดเจนเรียบร้อยแล้ว และไม่ใช่เฉพาะดูแลแต่เกษตรกรภาคใต้ แต่ดูแลเกษตรกรทั้งประเทศ เหลือเพียงรอวันขึ้นเวทีหาเสียงเท่านั้น
