ครบรอบ 7 ปี “องค์กรต่อต้านคอรัปชัน (ประเทศไทย)” ให้คะแนนเต็มร้อย! รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการต่อต้านคอรัปชัน

ให้คะแนนรัฐบาลตู่เต็มร้อย / นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT กล่าวในงานแถลงข่าว “7 ปี องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)” ที่ห้องศาลาแดง โรงแรมดุสิตธานี ว่า ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ACT ได้ปลุกกระแส ขับเคลื่อนให้คนไทย ร่วมเคลื่อนไหวต่อต้านคอร์รัปชัน ที่ฝังรากลึก อยู่ในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน จากการสำรวจของหอการค้าไทย ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในการแถลงดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยล่าสุด พบว่า ทัศนคติ และ จิตสำนึก ต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น ของประชาชนเปลี่ยนแปลงไป โดยทนไม่ได้เมื่อพบเห็นการโกง และ ไม่ยอมรับคอร์รัปชันโดยสิ้นเชิง

โดยร้อยละ 99 เห็นว่าคอร์รัปชันไม่ใช่เรื่องไกลตัวและ ไม่ยอมรับรัฐบาลที่เก่งมีผลงานดีเด่น แต่ทุจริต

นายประมนต์ กล่าวว่า ช่วง พ.ศ. ‪2557‬ -‬‪2560 ซึ่งเป็นช่วงรัฐบาลปัจจุบัน ACT พยามผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาครัฐและเอกชน เพื่อวางรากฐานการป้องกันการคอรัปชัน โดยใช้ยุทธศาสตร์ทำงานร่วมกับภาครัฐ ทำให้‬สถานการณ์คอร์รัปชันสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก จากการขับเคลื่อนขององค์กรฯ ภาคีเครือข่าย และความร่วมมือจากทุกฝ่าย มีผู้แทนเข้าร่วมเป็น สภาปฏิรูปแห่งชาติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ส่งผลให้ภาครัฐมีความจริงใจและให้ความร่วมมือ ภาคเอกชนมีส่วนร่วมมากกว่าที่ผ่านมา นำไปสู่การออกนโยบาย กฏหมาย ที่เอื้อต่อการปราบคอร์รัปชันได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบยิ่งขึ้น

อาทิ ร่วมกับกระทรวงการคลัง ร่าง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และกำหนดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ , พ.ร.บ. อำนวยความสะดวกในการพิจารณาขออนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 การผลักดันให้มีบทบัญญัติต่างๆ ในรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง พ.ศ.2560 และ ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการยุติธรรม มีการจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ตัดสินนักโทษหนีคดีโดยไม่หมดอายุความ และการมีบทลงโทษเอกชนและประชาชนที่ให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ

นายประมนต์ กล่าวต่อว่า ผลจากการที่องค์กรและภาคีเครือข่าย ร่วมผลักดันกฎหมายดังกล่าว พบว่าในโครงการข้อตกลงคุณธรรม มีหน่วยงานเข้าร่วม 73 โครงการ มูลค่ารวม 875,428 ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแล้ว จำนวน 45 โครงการ มูลค่ารวม 103,839 ล้านบาท ช่วยประหยัดงบประมาณให้รัฐได้สูงถึง 25,128 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 24.20 นับเป็นความสำเร็จ ที่เกิดจากทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันทำให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างเกิดความโปร่งใสยุติธรรม

นายประมนต์ กล่าวย้ำว่า ตลอด 7 ปี ที่องค์กรและภาคีเครือข่าย ได้ผนึกกำลังต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชัน สร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยหลายประการ ได้แก่ เกิดเครือข่ายคนไทย ทั้งประชาชน นักธุรกิจ นักวิชาการสื่อมวลชน และ ข้าราชการ ร่วมมือต่อต้านคอร์รัปชันอย่างมีพลัง รวมทั้งช่วยปลุกกระแสให้เห็นถึงความเลวร้ายของการโกงชาติ และได้ร่วมผลักดันให้เกิดกฎหมาย เปลี่ยนแปลงกระบวนการยุติธรรมและระบบราชการ ที่รวดเร็ว เอื้อต่อการต้านโกงและเอาผิดคนโกง ที่สำคัญคือ ทำให้คนไทยไม่ยอมทน กล้าออกมาเปิดโปงการทุจริตและการโกงมากขึ้น

ทั้งนี้ นายประมนต์ ยังได้ให้คะแนน 100% ในด้านภาพลักษณ์การต่อต้านคอรัปชัน ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ในขณะเดียวกันยอมรับว่ายังมีคนรอบตัวนายกฯ ที่ยังเป็นปัญหา เนื่องจากถูกสังคมได้ตั้งข้อสงสัย โดยเฉพาะกรณีคดีนาฬิกาหรู และคดียืมเงิน 300 ล้านบาท ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทาง ACT ได้ยื่นหนังสือทวงถาม ไปยังป.ป.ช. และคาดว่าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา อย่างไรก็ดี ป.ป.ช. ซึ่งมีหน้าที่ในการตอบเรื่องดังกล่าว และเชื่อว่ากระแสสังคมและสื่อมวลชน จะมีส่วนกดดันให้ป.ป.ช.มีความคืบหน้าผลการตรวจสอบปมคดีดังกล่าว

นายประมนต์ กล่าวด้วยว่าสำหรับโครงการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในหลายโครงการซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ทาง ACT ได้ส่งตัวแทนซึ่งเป็นบุคคลากรที่มีความรู้ และเชื่อถือได้ เข้าไปร่วมสังเกตการณ์แล้ว โดยคิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 9 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณให้รัฐได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน