ไก่อู โต้ มาร์ค ใช่งบไม่ผิดวินัยคลัง โว ‘รัฐบาลทหาร’ มีระบบกว่าปกติเยอะ ย้ำ ดำเนินการผ่าน พระราชบัญญัติ โอนงบประมาณ ข้ามห้วยได้ เพื่อความมีประสิทธิภาพ
ไก่อู – เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 ก.ย. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุการที่รัฐบาลใช้งบประมาณไม่หมด แล้วรวบรวมกลับมาเป็นงบกลางนั้น เป็นการทำขัดต่อกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ว่า ในอดีตก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาบริหารประเทศ เมื่อกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ได้รับการจัดสรรงบประมาณมา ก็จะดำเนินงานตามแผน ซึ่งแผนที่ว่านั้นมีความยืดหยุ่นจนหย่อนยาน ทำให้ไม่สามารถใช้เงินได้ตามแผนงาน แต่ก็ยังปล่อยให้มีเงินค้างท่ออยู่ในหลายกรณี หรือบางกรณีก็ดึงเงินกลับมา ก่อนจะนำไปใช้ในกรณีอื่น โดยที่ไม่มีกฎหมายรองรับ แต่ขึ้นอยู่กับการตกลงใจของคณะรัฐมนตรี จึงทำให้นักการเมืองมีอิทธิพลต่อพื้นที่
โว รัฐบารทหาร ทำเป็นระบบระเบียบกว่า
แต่ปัจจุบัน เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นทหาร ทำให้ติดคำพูดว่าเอามาเป็นเงินกองกลางหรืองบกลาง ซึ่งจริงๆ แล้วหมายถึง ‘เงินกองกลาง’ และโดยหลักการแล้ว สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำคือ หน่วยงานที่จะได้รับงบประมาณจะต้องมีแผนงานชัดเจน แต่หากไม่สามารถบริหารงานได้ตามแผน กล่าวคือไม่สามารถลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง และเบิกจ่ายเงินได้ตามกำหนดเวลา แสดงว่าแผนงานนั้นไม่ดี ซึ่งรัฐบาลนี้จะยืดหยุ่นเวลาให้เล็กน้อย
มี พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนงบประมาณ รองรับ
เนื่องด้วยกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างมีเรื่องการอุทธรณ์ แต่หากยืดเวลาให้แล้วก็ยังไม่สามารถทำงานได้ทันตามแผน และจำเป็นต้องดึงงบประมาณกลับ รัฐบาลจะมีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนงบประมาณ ในการดึงเงินกลับมาเพื่อเอาไปทำพ.ร.บ.งบประมาณใหม่ ทำให้เงินที่เหลืออยู่ซึ่งส่วนหนึ่งจะมีงบกลางรวมอยู่ด้วย จะถูกนำไปจัดสรรในโครงการใดที่เร่งด่วน จำเป็น สำคัญ และสามารถดำเนินการได้ดีกว่าแผนงานที่ไม่สามารถดำเนินได้ตามแผน
คนวิจารณ์ คือ เข้าใจผิด
“เรื่องนี้เกิดจากการที่คณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ในแต่ละจังหวัดว่าเขาอยากได้อะไร และเป็นประโยชน์ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศและการขับเคลื่อนของหน่วยงาน ถ้าเป็นเช่นนี้เราจะนำมาทำเป็น พ.ร.บ.โอนงบประมาณ อย่างไรก็ตามไม่ได้เกิดจากการตกลงใจของเราเอง แต่เราต้องไปดีแคลร์ (แจ้ง) กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นี่จึงเป็นการทำงานที่มีระบบ เพราะฉะนั้น ท่านผู้วิพากษ์จึงเข้าใจผิด ” โฆษกรัฐบาลระบุ
