“มาร์ค” ถกกรรมการบริหารพรรค เตรียมจัดประชุมใหญ่ อัด คสช.ไม่เข้าใจงานการเมือง มองแค่รวมตัวเพื่อมีอำนาจผ่านเลือกตั้ง ชี้ ยิ่งจำกัดสิทธิ์ ยิ่งเอื้อพรรคซื้อเสียง

17 ก.ย. 11.30 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)ชุดปัจจุบัน โดยมีกรรมการเข้าประชุมอย่างพร้อมเพียง ขาดเพียง 7 คนที่แจ้งลาติดภารกิจ อาทิ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน คุณหญิงกัลยา โสภณภนิช และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รองหัวหน้าพรรค น.ส.รัชดา ธนาดิเรก นายสรรเสริญ สมะลาภา เป็นต้น

โดยนาย อภิสิทธิ์ กล่าวในที่ประชุมว่า ขั้นตอนที่พรรคจะต้องดำเนินการ ทั้งทุนประเดิมและจำนวนสมาชิก พรรคได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการแก้ไขข้อบังคับพรรค เลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิก นายทะเบียน และกรรมการบริหาร รวมทั้งการจัดตั้งสาขาพรรค

การเปิดรับสมาชิกใหม่ ซึ่งทุกอย่างต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่พรรค โดยจะต้องทำหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ให้ทราบล่วงหน้า 5 วัน ตนจึงต้องขอมติจากที่ประชุม ซึ่งจะส่งหนังสือให้กกต.ทราบภายในวันนี้ สมาชิกครบตามกฏหมายกำหนด 4 ปี ตั้งแต่เดือนเม.ย.61

จากนั้นเวลา 14.50 น. นายอภิสิทธิ์ แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้มีการจัดประชุมใหญ่ของพรรค เพื่อแก้ไขขัอบังคับพรรคให้สอดคล้องกับกฏหมายพรรคการเมือง ในวันที่ 26 ก.ย. เวลา 13.00 น.ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์

โดยในวันนี้ตนจะลงนามในหนังสือเพื่อขอดำเนินการต่อคณะกรรมการกรรเลือกตั้ง(กกต.)อย่างไรก็ตาม ร่างข้อบังคับขณะนี้เรียบร้อยแล้วโดยมีอุดมการณ์ของพรรค ซึ่งยืนหยัดมาตั้งแต่ ปี2489 และนโยบายพรรคซึ่งจะเป็นฉบับย่อ เพราะต้องรอให้กก.บห.ชุดใหม่มาปรับปรุงอีกครั้ง

เบื้องต้นประกอบไปด้วยความเหลื่อล้ำทางเศรษฐกิจ การศึกษา การกระจายอำนาจ การเมืองที่สุจริต ทั้งนี้ สิ่งที่จะยังไม่ทำในการประชุมวันดังกล่าว คือการเลือกหัวหน้าพรรค และกก.บห. เพราะเราต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม เราถึงออกรูปแบบการหยั่งเสียง เพื่อให้มีความเที่ยงธรรมมากที่สุด ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการออกระเบียบว่ารูปแบบหยั่งเสียงจะเป็นย่างไรเพราะเป็นเรื่องใหม่

คาดว่าเรื่องดังกล่าวจะชัดเจนหลังที่ประชุมใหญ่มีมติเห็นชอบข้อบังคับพรรค ส่วนการหยั่งเสียงตัวผู้สมัครส.ส.จะมีหรือไม่นั้น ต้องดูกรอบระยะเวลา เพราะขณะนี้ทำได้แค่งานด้านธุรการเท่านั้น หากพูดไปแล้วก็ต้องทำ

เมื่อถามว่าคำสั่งของคสช.ที่คลายล็อกให้ถือว่ามีความชัดเจนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะบอกว่าไม่ชัดเจนก็คงไม่ได้เสียทีเดียว เพราะในเรื่องการหาสมาชิกพรรค ถ้าธรรมชาติการเมือง หากไม่ทำกิจกรรม หรือพูดโน้มน้าวก็หาสมาชิกได้ยาก สะท้อนให้เห็นว่า คสช.ไม่เข้าใจงานการเมือง เพราะงานธุรการกับงานการเมืองแยกจากกันไม่ได้ งานการเมืองไม่ใช่แค่หาเสียง แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องมีทัศนคติว่าพรรคการเมืองมีไว้หาเสียงเท่านั้น แต่พรรคการเมืองที่ดีต้องทำงานตลอด ไม่ใช่รวมตัวเพื่อมีอำนาจผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เสียดายที่คิดจะปฏิรูปการเมือง แต่กลับมองว่าพรรคการเมืองมีหน้าที่เพียงเท่านี้

“ไม่อยากให้มองการทำกิจกรรมตามคำสั่งคลายล็อก เป็นการจำกัดสิทธิ์ของพรรคการเมือง แต่อยากให้มองว่าเป็นการจำกัดสิทธิ์ของประชาชนมากกว่า เพราะคนที่จะได้คะแนนบริสุทธิ์จากประชาชนต้องทำงานการเมือง ยิ่งจำกัดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่าไหร่ เท่ากับยิ่งช่วยพรรคการเมืองที่ไม่คิดจะได้คะแนนเสียงที่บริสุทธิ์ ให้ได้คะแนนมาโดยง่าย ผมฝากถามคสช.ว่าอยากได้การเมืองแบบไหน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน