‘วิษณุ’ อ้างไม่ปลดล็อก หวั่นการเมืองสาดโคลน เตือนพรรคเทือกระวังตัว อาจถูกฟ้องหงายหลัง ระบุรมต.ควบตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้ เป็นการส่งเสริมประชาธิปไตย สังคมไม่น่าตำหนิ

ปลดล็อก – เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีการเผยแพร่ภาพรถแห่ของกลุ่มประชาภิวัฒน์ เชิญชวนชาวพิษณุโลกแสดงความคิดเห็นและจัดทำนโยบายร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ว่า ตนไม่ขอตอบเกี่ยวกับการทำกิจกรรมเฉพาะอย่าง เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง คสช.หรือกกต. ถ้าให้เตือนก็ขอให้ระมัดระวัง เพราะเมื่อถึงวันที่รู้ผลแพ้ชนะเลือกตั้งอาจถูกยกมาเป็นเหตุผล ซึ่งวันนั้นจะอันตราย เช่น การเลือกตั้งที่ผ่านมาตือนกันเท่าไรก็ไม่ฟัง ทำไปก็ไม่มีใครว่า แต่วันหนึ่งมีการฟ้องร้องกัน พอยกเรื่องขึ้นมาก็หงายหลัง การเลือกตั้งกลายเป็นโมฆะไปเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น เมื่อรู้ว่ามีคนจ้องเก็บหลักฐาน ก็อย่าทำอะไรผิด อะไรที่สุ่มเสี่ยงก็ให้เก็บเป็นหลักฐานไว้ หลังเลือกตั้งค่อยเอามาว่ากัน

เมื่อถามว่าการอนุญาตให้พรรคประชาสัมพันธ์หาสมาชิก จะสุ่มเสี่ยงเป็นช่องให้หาเสียงได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ได้อยู่ที่ถ้อยคำ แต่อยู่ที่เนื้อหา รูปแบบ วิธีการ ส่วนการเปิดนโยบายหาสมาชิกพรรคนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบอกว่าพรรคกำลังคิดอะไร จึงไม่ใช่การหาเสียง การแสดงนโยบายหรือคิดว่าประเทศควรมีหน้าตาอย่างไร เป็นสิ่งที่พูดได้ แต่เมื่อไรที่วกเข้ามาว่าจงเลือกพรรคของเรา หมายเลขนี้ นายคนนี้ ถ้าแบบนี้คือหาเสียง

เมื่อถามว่าการแสดงวิสัยทัศน์ถือเป็นกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เราใช้คำพูดว่าห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง แต่ในคำสั่งจริงๆ ไม่ได้ใช้คำนี้ คำสั่งระบุว่าห้ามชุมนุมกันเกิน 5 คน เพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง ดังนั้น ต้องแปลกันว่าการทำกิจกรรมทางการเมืองคืออะไร แต่การพูดอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ทุกฝ่ายพูดได้

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ผู้สมัครสามารถแสดงวิสัยทัศน์ได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทำได้ เพราะเมื่อจะประชุมพรรค พรรคประชาธิปัตย์ต้องแจ้งกกต.อยู่แล้ว

ส่วนที่พรรคการเมืองยังตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อห้ามใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดียในการประชาสัมพันธ์ นายวิษณุ กล่าวว่า เราพูดสั้นๆว่าห้ามใช้สื่อโซเชี่ยลหาเสียง จะว่าถูกก็ถูก จะว่าผิดก็ผิด ที่ถูกเพราะเขาห้ามจริงๆ แต่ห้ามเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น เมื่อปลดล็อกแล้วทุกพรรคก็ใช้ได้ แต่ที่วันนี้ห้ามไว้ อย่าว่าแต่ใช้สื่อโซเชี่ยลหาเสียงเลย ใช้อะไรก็ไม่ได้

ดังนั้น เวลามาเน้นกันว่าห้ามใช้สื่อโซเชี่ยลหาเสียง จึงฟังดูมากเกินความจริง เพราะจะใช้อะไรหาเสียงก็ไม่ได้อยู่แล้ว จึงไม่รู้จะพูดกันทำไม ปลดล็อกก็ให้ใช้ได้ แต่ถ้าใช้ไม่ได้ค่อยมาตำหนิกัน ส่วนที่โจมตีรัฐบาลใช้สื่อประชาสัมพันธ์อยู่นั้น ตนรับทราบและเข้าใจว่ามีคนพยายามดิสเครดิต ต้องปล่อยให้เขาทำไป และคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่ช่วงนี้ใกล้เลือกตั้ง เพราะไม่ว่าเวลาปกติหรือใกล้เลือกตั้ง รัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่อยู่แล้ว ดังนั้น รัฐบาลต้องมีกำลังใจทำหน้าที่ต่อไป

เมื่อถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตอบโต้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ถือเป็นความไม่สงบที่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ตอบเพราะไม่รู้

เมื่อถามว่ายิ่งใกล้วันเลือกตั้ง แต่ละพรรคเริ่มออกมาโจมตีกัน นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเกิดขึ้น จึงระมัดระวังในช่วง 90 วันนี้ที่ให้เพียงการคลายล็อก เพราะหากปลดล็อกยิ่งจะเชิญชวนให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเร็ว

เมื่อถามถึงความชัดเจนของรัฐมนตรีที่จะเข้าสังกัดพรรคการเมือง สามารถดำรงตำแหน่งอยู่ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ความชัดเจนมีนานแล้วว่ารัฐมนตรีจะไปทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องลาออก แต่หากเสี่ยงต่อคำครหานินทา ก็แล้วแต่ความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล ถ้าแบ่งเวลาได้หรือทำได้ดี ไม่เอาเวลาราชการไปทำงานการเมืองของพรรค ถ้าแบบนั้นก็ทำได้ แต่ถ้าทำแบบนั้นไม่ได้ก็ลาออกไป ที่สำคัญ รัฐมนตรีจะลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ แต่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆได้ เพราะไม่มีอะไรห้าม ในสังคมไทย แม้กฎหมายไม่ได้ห้ามก็มีสิ่งที่ถูกตำหนิได้ซึ่งต้องไปคิดเอง

เมื่อถามว่าหากเป็นรัฐมนตรีและดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคด้วย จะถูกสังคมตำหนิหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่น่าจะตำหนิ แต่กลับส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยด้วยซ้ำไป ข้อสำคัญคือต้องไม่ใช้ความเป็นรัฐมนตรีไปทำประโยชน์ให้พรรคที่ตนเป็นสมาชิกหรือเป็นหัวหน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน