ปลื้ม-สุรบถ พร้อมลงประชาธิปัตย์ ยันไม่ก๊อป ชวน ยันมีสไตล์การทำงานของตัวเอง
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่อาคาร CW Tower ถนนรัชดา นายสุรบถ หลีกภัย บุตรชายนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะไปสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทันทีที่พรรคเปิดรับสมัครสมาชิก งานที่จะเข้าไปช่วยขึ้นอยู่กับพรรคเล็งเห็นความสามารถ ส่วนจะลงสมัครส.ส.เขตหรือระบบปาร์ตี้ลิสต์ต้องรอคุยกับพรรคก่อน คิดว่าอยู่จุดไหนก็ได้ที่พรรคเห็นว่าตนมีประสิทธิภาพ
เมื่อเข้ามาจะมีทีมที่ถนัดแต่ละด้านเข้ามาทำงานด้วยโดยทีมของตนเป็นลูกหลานนักการเมืองจากหลายพรรคมาร่วมกันและรู้ว่าจะเสนออะไร สื่อสารอะไรให้คนรุ่นใหม่เข้าใจโดยการสื่อสารด้วยภาษาที่ง่าย ความถนัดของตนที่จะเข้าไปช่วยพรรคเป็นเรื่องการสื่อสารกับคนยุคใหม่ๆวัยรุ่น เพราะเราทำงานด้านนี้มานานจึงเข้าใจในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
เรื่องสมัครเป็นสมาชิกได้คุยกับพ่อแล้วก็สนับสนุนดี ได้คุยถึงการจะช่วยทางพรรคและอยากเข้าไปทำอะไรหลายๆอย่าง เพราะรู้สึกว่าน่าจะมาสื่อสารกับคนยุคใหม่ได้ ส่วนกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ยังไม่ได้คุยอย่างเป็นทางการ เพราะอยากเข้าไปสมัครสมาชิกแบบปกติตามที่เขาประกาศ
“หมดยุคเอาเรื่องเเก่า ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจมาทะเลาะกัน คนรุ่นผมไม่มีรูปแบบความขัดแย้งเก่าๆในรูปแบบนั้นเพราะคุยกันได้มาก อย่างผมมีเพื่อนอยู่ต่างฝ่ายต่างพรรคกันมากๆ แต่ไม่ใช่นำเรื่องผู้ใหญ่หรือเรื่องยุคพ่อยุคแม่มาทะเลาะกัน ควรหยุดได้แล้ว” นายสุรบถกล่าว
นายสุรบถ กล่าวต่อว่า ยุคพวกตนเราเลือกเข้ามาคุยกันด้วยเหตุผลได้ เชื่อว่าการเมืองในอนาคตจะเหมือนการทำธุรกิจยุคนี้คือสามารถร่วมงานกันได้ ไม่ใช่เรื่องต้องแบ่งฝ่ายชัดเจน สำหรับตนแล้วการเมืองไม่ใช่การแบ่งแยกเหมือนในอดีต รู้สึกว่าเป็นยุคเก่าและน้ำเน่ามาก ไม่มีประโยชน์กับใครเลย เป็นแค่การทะเลาะของคนกลุ่มหนึ่งเล็กๆ ที่บาดหมางเรื่องอะไรไม่ทราบแต่สุดท้ายทำให้คนกลุ่มมากเกิดความแตกแยก
เมื่อถามถึงมุมมองบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคที่แข่งขันกันอยู่ตอนนี้ นายสุรบถ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ บอกได้เพียงว่าคนรุ่นตนจะทำอะไรได้บ้าง แต่ไม่ได้แปลว่าคนยุคก่อนทำอะไรไม่ดี ไม่ใช่ เมื่อถามย้ำว่าสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคต่อหรือไม่ นายสุรบถ กล่าวว่า “ท่านเป็นคนดีมีความสามารถ และเคารพท่านจากใจจริง นักการเมืองในอนาคตจะอยู่ในตำแแหน่งคล้ายโปรดิวเซอร์ คือเลือกของดีที่สุดในแต่ละแขนงมาร่วมกัน ไม่ใช่เอาพวกพ้องที่สนิทกัน”
เมื่อถามว่ากลัวถูกเปรียบเทียบกับพ่อหรือไม่ เพราะนายชวนประสบความสำเร็จทางการเมือง นายสุรบถชี้แจงว่า ไม่กลัวถูกเปรียบเทียบ พ่อก็คือพ่อ ตนก็คือตน นับถือที่พ่อเป็นคนดี พ่อปลูกฝังสิ่งต่างๆในใจทำให้ตนมีวันนี้ได้ แต่หากถามว่าต้องทำงานการเมืองหรือจุดยืนแบบพ่อหรือไม่ก็ต้องตอบว่าไม่เพราะตนมีสไตล์ของตัวเอง มีสิ่งที่อยากทำและทำในสิ่งที่ถนัด เพราะฉะนั้นจึงเรียกพ่อว่าเป็นคนดีที่ยิ่งใหญ่สำหรับตน และจะอยู่ในทุกๆจุดของการตัดสินใจที่ดีงาม เชื่อว่าการตัดสินใจของพ่อยืนอยู่บนความดีและความถูกต้อง
