อัยการถังแตก งบไม่พอจ่ายเงินเดือน ข้าราชการธุรการ ค่าครองชีพและค่ารถอัยการ หลังรับบรรจุเพิ่มเกือบพันตำแหน่ง ทั้งที่ไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้

อัยการถังแตก / เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา นายวัฒนชัย คุ้มวงษ์ดี รองอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการเเทนอัยการสูงสุด ออกหนังสือบันทึกข้อความ ด่วนที่สุด เรื่องเเจ้งการงดจ่ายค่าตอบเเทนเหมาจ่ายเเทนการจัดหารถประจำตำเเหน่งเเละเงินค่าครองชีพชั่วคราวประจำเดือน กันยายน 2561

โดยบันทึกข้อความดังกล่าว มีการเรียน รองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจการอัยการอัยการ อธิบดีอัยการ อัยการพิเศษฝ่าย เลขานุการอัยการสูงสุด ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการเเละโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เเละผู้อำนวยการสำนักงาน

มีเนื้อหาว่า เนื่องด้วยสำนักงานอัยการสูงสุดมีงบประมาณ งบบุคลากร ประจำปีงบประมาณ 2561 ไม่เพียงพอ ทำให้การเบิกจ่ายเงินค่าตอบเเทนเหมาจ่ายเเทนการจัดหารถประจำตำเเหน่งเเละเงินค่าครองชีพชั่วคราว ของข้าราชการอัยการเเละอัยการอาวุโส ที่มีอัตราเงินเดือนตั้งเบิกในส่วนกลาง ประจำเดือนกันยายน 2561 ล่าช้าไม่ตรงตามกำหนด

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักงบประมาณจัดสรรงบกลางให้สำนักงานอัยการสูงสุด หากได้รับจัดสรรงบประมาณส่วนที่ขาดเเล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดจะเร่งดำเนินการเบิกจ่ายค่าตอบเเทนเหมาจ่ายเเทนการจัดหารถประจำตำเเหน่งเเละค่าครองชีพให้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงภาวะงบประมาณไม่พอจ่ายค่าตอบเเทนการจัดหารถประจำตำเเหน่งเเละเงินค่าครองชีพชั่วคราว สาเหตุมาจากการบรรจุข้าราชการธุรการในสำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน 705 อัตราในช่วงปี 2560 ซึ่งเป็นยุคที่ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ดำรงตำเเหน่งเป็นอัยการสูงสุด

ในครั้งนั้น ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินเมื่อปี 2560 เนื่องจากงบอัยการไม่พอ เเละมีการเตือนทางสำนักงานอัยการสูงสุดไว้

โดยมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นชอบในหลักการให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการบรรจุเเละเเต่งตั้งข้าราชการธุรการอัตราใหม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการบรรจุเเละเเต่งตั้งข้าราชการธุรการอัตราใหม่ที่เหมาะสมเเละมีความพร้อมตามที่ได้ประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบเเข่งขันเพื่อบรรจุ จำนวน 705 อัตราในวงเงิน 19,435,000 บาท

เเต่โดยที่ค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่ได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ 2560 รองรับไว้ เเละไม่สามารถปรับเเผนการปฏิบัติงานเเละเเผนการใช้จ่ายงบประมาณมาดำเนินการได้ จึงเห็นควรให้สำนักงานอัยการสูงสุดใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี

ทั้งนี้ เนื่องจากการบรรจุเเละเเต่งตั้งข้าราชการธุรการอัตราใหม่ 705 อัตราดังกล่าว จะก่อให้เกิดภาระงบประมาณในปีงบประมาณ 2561 เเละในปีงบประมาณต่อไป

นอกจากนี้ในส่วนของข้าราชการธุรการที่ได้บรรจุจำนวน 705 อัตรา ก็มีปัญหาในเรื่องไม่มีเงินจ่าย ต้องมีการขอสำรองฉุกเฉินไป ซึ่งขณะนี้ครม.ได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินเเล้ว เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาก็จะต้องรองบฉุกเฉินตรงนี้ต่อไป

ซึ่งภาวะการเงินไม่พอจ่ายค่าตอบเเทนในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นไปตามที่มติครม.เคยเตือนไว้จากการบรรจุเเต่งตั้งข้าราชการธุรการ ซึ่งตรงนี้มีการวิจารณ์จากกลุ่มอัยการว่า เรื่องงบประมาณดังกล่าวไม่ได้มีการวางเเผนในเรื่องของการที่อัยการไม่มีงบประประมาณ เเต่กลับเปิดตำเเหน่งบรรจุข้าราชการถึง 705 อัตรา

เเละในช่วงเวลาต่อมา นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อสส.คนปัจจุบัน ก็ไม่ได้วางเเผนเเละกำหนดเเนวทางเเก้ไขปัญหาทั้งที่ครม.เคยเตือนไว้เเล้ว ซึ่งข้าราชการที่ได้รับผลกระทำจากการไม่มีงบประมาณในครั้งนี้ จะเป็นข้าราชการอัยการในส่วนกลาง เเละคาดว่าผลกระทบอาจจะยาวไปจนกว่าจะมีการเเก้ไขปัญหาเรื่องงบประมาณได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน