เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่พรรคชาติพัฒนา นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา(ชพน.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมพรรค จากนั้นแถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมกำหนดให้มีการประชุมใหญ่วันที่ 5 ต.ค. ที่โรงแรมซิตี้พาร์ค จ.นครราชสีมา เวลา 10.00 น. เพื่อพิจารณาเรื่องทุนประเดิมพรรค และข้อบังคับพรรคฉบับใหม่ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์แบบใหม่

ส่วนสาเหตุที่ไปประชุมใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา เนื่องจากเป็นจังหวัดที่เป็นฐานหลักของพรรค จากนั้นจะเปิดรับสมาชิกพรรคตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.เป็นต้นไป ณ ที่ทำการพรรคชาติพัฒนา เขตดุสิต กทม. นอกจากนี้ เตรียมตั้งสาขาพรรคทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.นครราชสีมา ภาคเหนือ จ.นครสวรรค์ ภาคกลาง จ.สระบุรี และภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี

นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ส่วนที่ยังไม่มีการประชุมเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพราะต้องรอให้ข้อบังคับของพรรค ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควบคู่ไปกับการหาสมาชิกพรรคก่อน เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงจะเลือกคณะกรรมบริหารพรรคชุดใหม่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงจุดยืนของพรรคจะร่วมงานกับพรรคที่มีการสืบทอดอำนาจหรือไม่ นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ยังเร็วเกินที่จะตอบคำถามนี้ อีกทั้งยังไม่มีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ดังนั้น การตัดสินใจทางการเมือง และการจะสนับสนุนให้ใครเป็นนายกฯ จะต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เพราะหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียวไม่สามารถตัดสินใจแทนได้

ต่อข้อถามว่า พรรคจะส่งผู้สมัครครบ 350 เขตเลือกตั้งหรือไม่ นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า พรรคยังไม่หารือกันในเรื่องนี้ แต่เบื้องต้นตั้งใจว่าจะส่งผู้สมัครส.ส.ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สำหรับเขตเลือกตั้งใน จ.นครราชสีมา ยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครลงทุกเขตทั้ง 14 เขตแน่นอน เนื่องจากเป็นพื้นที่ทางการเมืองของพรรค แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้ส.ส.มากหรือน้อยกว่าเดิม เพราะยังไม่มีการประกาศวันเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตามอดีตส.ส.ของพรรคใน จ.นครราชสีมา 4 คน ยังอยู่กับพรรคตามเดิม จึงคิดว่าในพื้นที่ดังกล่าวน่าจะได้ส.ส.เท่าเดิมหรือมากขึ้น เพราะเป็นจังหวัดที่เป็นฐานสำคัญของพรรค อีกทั้งมีผลงานมาตั้งแต่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกฯ และมั่นใจว่านายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค จะยังทำงานร่วมกับพรรคและคนนครราชสีมาแน่นอน

เมื่อถามว่าขณะนี้มีรัฐมนตรีในรัฐบาล 4 คน ประกาศร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ สมควรต้องลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะในอดีตรัฐมนตรีที่รักษาการระหว่างการเลือกตั้งยังสามารถทำหน้าที่ได้ แต่จะมีข้อจำกัดตามรัฐธรรมนูญที่ไม่สามารถดำเนินการบางอย่างได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน