“สนธิรัตน์” ปลื้ม “สมคิด” หนุนนั่งรมต.ต่อ เผย มีเวลาในใจสวมหมวกใบเดียว รับ หลังนั่งเลขาฯพลังประชารัฐ ทำงานยากขึ้น
08.00 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ในฐานะว่าที่ เลขาธิการ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ กระแสกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ว่า เรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างเป็นเหตุเป็นผล ต่างฝ่ายต่างต้องเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ก็จะอยู่ในทางการเมืองกันได้
ส่วนจะเป็นกระแสกดดันให้ทำงานยากขึ้นหรือไม่นั้น ตนทำงานยากขึ้นตั้งแต่ตัดสินใจแล้ว เพราะเมื่อการตัดสินใจแบบนี้คนทำงาน ทำงานยากมาก การไม่ทำงานนั้นง่าย แต่การอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้แล้วต้องทำงานไปด้วยนั้นยาก ต้องพิสูจน์ตัวเองเยอะ เพราะเราต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิมมาก ส่วนกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า 4 รัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องลาออก ทำให้มีกำลังใจมากขึ้นหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ก็เป็นกำลังใจของผู้บังคับบัญชา
เมื่อถามว่าการร่วมคณะลงพื้นที่ ครม.สัญจรจะเป็นอุปสรรคหรือเงื่อนไขต่อการทำงานหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจนได้หรือไม่ ว่าจะสวมหมวกใบเดียวเมื่อใด นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า อยู่ในใจอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมา บทบาทจะชัดเจนเหลือสวมหมวกใบเดียวหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เราจะทำให้ดีกว่ามาตรฐานที่เคยทำกันมา นี่คือสิ่งที่เรายืนยัน ทุกคนตระหนักดีว่าอะไรเหมาะอะไรควร
เมื่อถามว่าจะสวมหมวกใบเดียวเมื่อคสช. ปลดล็อกทางการเมืองในช่วงกลางเดือนธันวาคม นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า บอกแล้วว่าเรื่องนี้อยู่ในใจ ขอให้ดูต่อไป ทั้งนี้กระแสตอบรับของพรรคพลังประชารัฐหลังเปิดตัวนั้น สื่อต้องเป็นคนตอบว่าดีหรือไม่ เรามีหน้าที่เพียงเสนอตัว มีหน้าที่สร้างพรรคทางเลือกให้กับประเทศไทย ส่วนกระแสตอบรับเป็นเรื่องของพี่น้องประชาชน เราก็จะทำหน้าที่ของเราต่อไป และจะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่านายสมคิด อยากให้ทุกพรรคการเมืองแข่งกันด้วยนโยบาย อย่างพรรคพลังประชารัฐเองจะมีนโยบายอะไรที่เซอไพรส์หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า
“มีแน่นอน ขอให้รอ เพราะเราต้องการสร้างการเมืองที่มีนโยบายนำพาประเทศไปได้ 60-70 คน ที่มาเปิดตัวกับพรรคในรอบแรกล้วนเป็นบุคคลคุณภาพของประเทศไทย แต่เดิมคนที่จะเข้าสู่การเมือง กลัวการเมืองทั้งสิ้น เราพยายามจะสร้างให้เห็นว่า การเมืองเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเข้ามาและร่วมกันทำ”
