แข่งตามกติกา! หมอวรงค์ สมัครสมาชิกปชป. แอบบ่นขั้นตอนการลงทะเบียนยาก ยอมรับ ยังเป็นมวยรอง ลั่น!! หากตัวเองชนะ จะได้เห็นเลือดไหลกลับ พร้อมลงพื้นที่ภาคตะวันออก

หมอวรงค์ – เมื่อ 13.30 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก ผู้เสนอตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ที่สำนักงานใหญ่พรรค โดยมีนายวิรัตน์ วิริยพงษ์ อดีตส.ส.สุโขทัย ในฐานะตัวแทนกลุ่ม “เพื่อนหมอวรงค์” มาให้กำลังใจ

โดยนพ.วรงค์ สมัครผ่านระบบแอพพลิเคชัน D-connect พร้อมกับโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร และบ่นว่า ยากจัง ก่อนที่จะกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ระบบการโอนเงินดังกล่าวทำให้สมัครสมาชิกยาก แต่ก็ยอมรับกติกา

หมอวงรค์

หมอวงรค์ เข้าสมัครสมาชิกพรรค

นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น ในขณะนี้ยังถือเป็นรองนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หังหน้าพรรคคนปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นแชมป์เก่าที่ครองตำแหน่งมายาวนานถึง 13 ปี แต่จากที่ตนเดินสายลงพื้นที่ได้รับการตอบรับดีมาก มีอดีตส.ส.ที่คิดจะย้ายพรรครวมทั้งที่ย้ายไปแล้วติดต่อมาว่า หากตนได้เป็นหัวหน้าพรรคจะกลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งจะได้เห็นเลือดไหลกลับเข้าประชาธิปัตย์ รวมถึงมีผู้สมัครเลือดใหม่ในพื้นที่ภาคอีสานและเหนือจะมาร่วมงานกับพรรคด้วย

เมื่อตนได้บริหารพรรคก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะตนเป็นคนพูดจริง ทำจริง กล้าคิด กล้าทำ และกล้าตัดสินใจ โดยจะมีการกระจายอำนาจให้กับประธานสาขาพรรค ในวันที่เราเป็นรัฐบาล ประธานสาขาพรรคก็จะทำงานร่วมกับเราไปด้วย

ส่วนกรณีที่มีข้อครหาว่าหากได้เป็นหัวหน้าพรรคจะทำให้ประชาธิปัตย์กลายเป็นนั่งร้านให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งนั้น นพ.วรงค์ กล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น มันเป็นแนวคิดของคนที่สนับสนุนตน ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงพรรคให้เข้มแข็งขึ้น หากเปิดตัวออกมาแล้วคนจะตกใจ ซึ่งเมื่อถึงเวลาจะให้ออกมาชี้แจง

เมื่อถามย้ำถึงจุดยืนในการตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งว่าจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นพ.วรงค์ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ กล่าวเพียงว่า ยังไม่ได้มองไกลถึงขนาดนั้น ขณะนี้มุ่งที่การแข่งขันในตำแหน่งหัวหน้าพรรคก่อน และไม่ได้ติดยึดกับตัวบุคคล ซึ่งการร่วมรัฐบาลต้องมีการหารือกันก่อน

โดยตนยึดนโยบายสำคัญเรื่องการปราบการทุจริตที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ไม่ได้คิดประเด็นประชาธิปไตยหรือเผด็จการ เพราะเป็นคำที่ชาวบ้านไม่ได้อะไร และเบื่อแล้ว แต่ต้องการความชัดเจนว่าชาวบ้านจะได้อะไรมากกว่า

หากตนได้เป็นหัวหน้าพรรค ก็จะมีนโยบายที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้ โดยในวันที่ 7 ต.ค.นี้ ตนจะลงพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อพบปะสมาชิกและอดีตประธานสาขา เพราะทราบมาว่าคู่แข่งคือนายอภิสิทธิ์ จะลงพื้นที่ภาคใต้ จากนั้นในวันที่ 8 ต.ค. จะเดินทางมาสมัครลงแข่งขันอย่างเป็นทางการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน