“บิ๊กตู่” แขวนโคมบูชา “พระนางจามเทวี” เขียนคำอธิษฐานขอไทยสงบสุข กราบส้กการะพระรอด เจ้าคณะลำพูน บายศรีสวดเรียกขวัญ ให้กับนายกฯ เป็นนายกฯต่อไป อีก 20 ปี

10.10 น.วันที่ 3 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.พร้อมคณะ เดินทางโดยรถตู้โตโยต้าเวลไฟร์ ทะเบียน กค 2299 ลำพูน ถึงอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ได้สักการะอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย

พร้อมร่วมแขวนโคมบูชาถวายแด่พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นประเพณีที่ชาวจ.ลำพูน ปฏิบัติกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งเทศกาลโคมหลากสีบูชาพระนางจามเทวี จะปฏิบัติก่อนเข้าสู่เทศกาลลอยกระทง ที่จะมีขึ้นวันที่ 22 พ.ย.พร้อมเขียนคำอธิษฐานที่โคมว่า

“ขอให้ชาวลำพูนมีความสุขสมปรารถนาทุกประการ ขอให้คนไทย ประเทศไทยสุขสงบมั่นคงยั่งยืน” พร้อมลงชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ครม. รวมถึงรัฐมนตรี ที่ร่วมคณะได้ร่วมแขวนโคมด้วย พร้อมทักทายชาวบ้านที่มาต้อนรับ และ ชมขั้นตอนการทำโคมไฟล้านนา จากชาวบ้านและคนพิการทางการได้ยิน ทั้งนี้ก่อนกลับชาวบ้านได้ร่วมกันทำสัญลักษณ์มือพร้อมกล่าวว่า “เรารักนายกรัฐมนตรีด้วยหัวใจ สร้างไทยไปด้วยกัน” ขณะที่นายกฯกล่าวว่า “ยอดเยี่ยม” พร้อมทำสัญลักษณ์มือ “ไอเลิฟยู”

จากนั้น นายกรัฐมนตรี นั่งรถรางไปยังวัดมหาวัน วรมหาวิหาร เพื่อสักการะพระรอดลำพูน โดยมีประชาชนสวมชุดพื้นเมืองมาต้อนรับตลอด 2 ข้างทาง โดยนายกฯได้โบกมือทักทาย ก่อนเข้ากราบสักการะพระประธานในพระอุโบสถ พระรอดลำพูน

พร้อมเข้ากราบนมัสการและสนทนาธรรมกับพระครูโสภิต ปุญญาคม เจ้าคณะตำบลในเมืองเขต 1 รักษาการเจ้าอาวาสวัดมหาวัน โดยตอนหนึ่งได้สอบถามถึงสถานการณ์บ้านเมืองว่าบ้านเมืองสงบเรียบร้อยดีใช่หรือไม่ รัฐบาลนี้ก็พยายามทำงานทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ ซึ่งเรื่องการท่องเที่ยวถือเป็นหลักสำคัญที่ช่วยรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาซึ่งเรื่องนี้เราต้องมีการพัฒนาและสร้างเรื่องราวหรือ สตอรี่ (stories) เน้นเรื่องความปลอดภัยของประเทศ

ซึ่งประเทศไทยเรามีสีิ่งสำคัญ 3 อย่างที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้แก่ธรรมชาติที่สวยงาม อาหารอร่อย และรอยยิ้มของคนไทย แต่ช่วงนี้ค่อนข้างที่จะมีข่าวในแง่ลบก็ต้องอดทนแล้วก็ช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กลับคืนมาวัดโรงเรียนและคนไทยแยกกันไม่ได้สำหรับตนแล้วอยากให้วัดเป็นเวทีของการมาพูดคุยกันในทุกๆเรื่อง ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะรับฟังในทุกๆสิ่งอย่างแต่ก็ต้องนำมาพิจารณาก่อนว่าสิ่งไหนควรจะทำก่อนและหลัง

จากนั้นพระครูโสภิตฯได้มอบพระรอดลำพูนและพระพิมพ์ลำพูน รุ่น 2518 และหนังสือประวัติของวัดมหาวันให้กับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นที่ระลึก และนายกฯได้กดพิมพ์พระ เพื่อนำไปปลุกเสกเป็นที่ระลึก พร้อมส่องพระรอดและวัตถุโบราณอย่างสนใจ

ต่อจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางสักการะกู่ช้าง-กู่ม้า (สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวลำพูน ซึ่งเป็นสุสานช้างศึก-ม้าศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี) ชมการฟ้อนเมือง การแสดงมวยโบราณผสมผสานกลองสะบัดชัย โดยนายกฯพอใจพร้อมทำท่า “ตีศอก” ใส่นักแสดงและก่อนเดินทางออกมา

จากนายกฯได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยมีความสงบและถ้าประเทศไทยเป็นแบบนี้ เราก็สามารถไปที่ไหนก็ได้ทั้งหมด ขอให้ทุกคนอยู่ดีมีสุข อนาคตของประเทศเราอยู่กับคนเหล่านี้ และมาสักการะพระประธานในวิหารหลวง วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ภายในเจดีย์บรรจุพระสารีริกธาตุ และกราบนมันสการพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภูญชัย ซึ่งทำได้บายศรีสวดเรียกขวัญให้กับ นายกฯ และคณะ และให้พร พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไปอีก 20 ปี พร้อมมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

พร้อมมอบพระรอดลำพูนเนื้อเงินให้กับนายกฯและรัฐมนตรีร่วมคณะ และมอบพระรอดรุ่นปลียอดฉัตรพระธาตุเจ้าหนิภุญชัย พิเศษ 2558 ซึ่งเป็นพระรอดรุ่นเดียวกับโค้ชเอก ทีมฟุตบอลหมู่ป่าอะคาเดมี ห้อยติดต่อจนทำให้รอดชีวิตจากการติในภายถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย

จากนั้นนายกฯได้เขียนชื่อ บนผ้าห่ม เพื่อถวายแด่เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เพื่อห่มพระธาตุ และ ถวายโคมบูชาในเทศกาลยี่เป็งที่จะมาถึงนี้ ทั้งนี้พระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภูญชัย ซึ่งเป็นพระที่ชาว จ.ลำพูน และ คนภาคเหนือ ให้ความเคารพนับถือในเรื่องของเมตตามหานิยม ก่อนจะเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์โอทอป ประจำจังหวัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน