มาร์ค ลั่น!! ทำตามอุดมการณ์เท่านั้น ยัน แข่งชิงหันหน้าพรรคอาจมีกระทบกระทั่ง พร้อมดัน ประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองหลัก ชูสโลแกน “มุ่งมั่นเรื่องอุดมการณ์ มุ่งหน้าเพื่ออนาคตของประเทศ”

มาร์ค – เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคหมายเลข 1 กล่าวว่า การสมัครชิงหัวหน้าพรรคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งตนดีใจที่เห็นสมาชิกพรรคตื่นตัวแสดงออกให้เห็นถึงว่า เขาอยากเป็นเจ้าของพรรค และหวังว่าจากนี้ไปจนถึงวันที่ 5 พ.ย. จะคึกคัก ร่วมกันกำหนดอนาคตของพรรค อีกทั้งหวังว่า การหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคของเราจะเป็นแบบอย่างให้พรรคการเมืองอื่นด้วย

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง จะหลอกว่าไม่มีเลยเป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องเป็นแบบอย่างว่า กระทบกระทั่งอย่างไร ก็อยู่ในกติกาอย่างสร้างสรรค์ อย่ากลัว หากกลัวว่าแข่งขันแล้วมีปัญหา เราจะไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยได้ แต่ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้กระทบกระทั่งกับใคร ส่วนที่มีการพาดพิงถึงตนก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นนักประชาธิปไตย ขอให้อยู่ในขอบเขต แต่อย่าส่งผลกระทบต่อส่วนรวมและพรรคประชาธิปัตย์

เมื่อถามถึงจุดยืนที่จะไม่นำพาพรรคไปอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมายความว่าอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคจะต้องเป็นตัวของตัวเอง และต้องเป็นทางเลือกหลักของประเทศ อย่าปล่อยให้พรรคถูกใครกล่าวหาว่า ต้องลากไปอยู่ข้างนั้นข้างนี้ เพราะอุดมการณ์ของพรรคเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ให้ประเทศไทยได้ดีที่สุด ไม่ใช่อิงกับฝ่ายอื่น

เมื่อถามย้ำว่าโครงสร้างทางการเมืองมีฝ่ายรัฐบาล กับฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์จะอยู่ฝ่ายไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์จะไปขอประชาชนให้สนับสนุนเราเป็นรัฐบาลด้วยตัวเอง และถ้าตัวเองเป็นรัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องเชิญชวนคนอื่นมาร่วมกับเรา โดยเป็นคนที่เชื่อในแนวทางและอุดมการณ์ของเรา ซึ่งหากได้เป็นรัฐบาลต้องมั่นใจว่า สิ่งที่บอกกับประชาชนนั้นต้องทำได้

ตนไม่ต้องการนำพรรคไปเป็นรัฐบาลแล้วสุดท้ายทำอะไรไม่ได้เลย ไม่สามารถทำในสิ่งที่บอกกับประชาชนได้ หรือทำในสิ่งที่ขัดกับอุดมการณ์ความเชื่อของเราก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นขอให้เวลากับเรา เพราะวันที่ 5 พ.ย. กระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคก็จบ และวันที่ 11 พ.ย. ก็ได้คณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) ชุดใหม่ เราจะมุ่งหน้าเป็นเส้นทางหลักในการเป็นพรรคการเมืองหลักของประเทศ

เมื่อถามถึงสโลแกนของนายอภิสิทธิ์ ในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้สมัครหมายเลข 1 กล่าวว่า ตนชัดอยู่แล้วว่า “มุ่งมั่นเรื่องอุดมการณ์ มุ่งหน้าเพื่ออนาคตของประเทศ” นี่คือสิ่งที่สำคัญ วันนี้ประชาชนต้องการพรรคการเมืองที่มีจุดยืนอุดมการณ์ที่ชัดเจน ประชาชนเบื่อการเมืองเพื่อผลประโยชน์ การเมืองเรื่องของการแย่งชิงอำนาจ เขาต้องการการเมืองที่บอกว่า แนวคิดนำพาบ้านเมืองคืออะไร ซึ่งหากตนได้เป็นหัวหน้าพรรคต่อก็จะทำเต็มที่ เพื่อให้พรรคได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุด จนได้เป็นรัฐบาล และนำแนวคิดไปพัฒนาบ้านเมือง ซึ่งเป็นเป้าหมายอันดับที่ 1 อยู่แล้ว และคิดว่าใครเป็นหัวหน้าพรรคต้องทำแบบนี้ ไม่ควรทำแบบอื่น

ต่อข้อถามต่อว่าจะมีการเปิดตัวทีมงานสนับสนุนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นเพียงการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งจะต้องมีการประชุมเลือก กก.บห. จึงจะไม่แบ่งกลุ่ม พรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นหนึ่งเดียว หากตนได้เป็นหัวหน้าพรรคต่อ ก็จะให้ทุกคนทำงานตามความสามารถของตัวเอง จึงไม่จำเป็นต้องแบ่งกลุ่ม

แม้ผู้สมัครคนอื่นจะมีกลุ่มเพื่อนทั้งกลุ่มเพื่อนอลงกรณ์ และกลุ่มเพื่อนหมอวรงค์ แต่ตนยืนยันว่า เป็นอาสาและตัวแทนของทั้งพรรค ไม่มีกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ในช่วงหาเสียงหัวหน้าพรรค ตั้งใจจะเดินทางไปพบสมาชิกให้มากที่สุด ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าจะได้เป็นหัวหน้าพรรคนั้น ตนคิดว่าอยู่ที่สมาชิกพรรค แต่ส่วนตัวก็มั่นใจว่า สมาชิกสนับสนุนเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อแข่งขันกันก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการจับฉลากผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 3 คนได้หารือร่วมกันเพื่อเลือกคณะกรรมการเลือกตั้งพรรค (กกต.) ที่จะดูแลการหยั่งเสียงจำนวน 5 คน โดยตัวแทนของนายอลงกรณ์คือ นายเมฆินทร์ เอี่ยมสะอาด

ส่วนนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส่งนายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีตส.ส.สงขลา ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่งนายธนา ชีรวินิจ อดีตส.ส.กทม. สำหรับกกต.พรรคอีก 2 คน คือ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. โดยจะมีการนำรายชื่อทั้ง 5 คน เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 9 ต.ค. เวลา 09.30 น. เพื่อแต่งตั้งอย่างเป็นทางการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน