เผยสัมพันธ์สองดูโอ้ นปช. ตอบทั้งคู่ ‘ตู่-เต้น’ ร่วมกันเดิน-แยกกันตี?

เผยสัมพันธ์สองดูโอ้ – 9 ต.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภาออกมาระบุว่าตนจับมือกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ตั้งพรรคเพื่อชาติขึ้นมาหวังสลายสีเสื้อเหลือง – แดงว่า

เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเลย เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า เข้าใจว่าที่นายยงยุทธพูดแบบนั้น อาจจะเห็นการพูดคุยระหว่างตนกับนายสนธิ รวมถึงพุทธะอิสระ ในเรือนจำ ซึ่งเป็นคนที่เห็นต่างทางการเมืองแต่สามารถพูดคุยหาทางออกให้กับประเทศร่วมกันได้ ถือเป็นภาพความงดงามอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละส่วนกับเรื่องที่จะมาตั้งพรรคการเมืองร่วมกัน เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ต่างคนต่างถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจะมาคุยเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

ยืนยันว่าตนและนายสนธิพูดกันแต่เรื่องปัญหาของชาติบ้านเมืองเท่านั้น ไม่เคยพูดกันเรื่องตั้งพรรคเพื่อชาติหรือตั้งพรรคใดทั้งสิ้น

เผยสัมพันธ์สองดูโอ้

นายจตุพรกล่าวต่อว่า สำหรับกระแสข่าวเรื่องการตั้งพรรคเพื่อชาตินั้น ยอมรับว่ามีกลุ่มนปช.บางส่วนที่สนใจอยากเข้ามาทำงานการเมือง อยากมีเวทีที่จะทำงานต่อโดยไม่มีเรื่องของความขัดแย้งมาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญปี 60 ของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.ออกแบบมาเพื่อจัดการกับพรรคการเมืองขนาดใหญ่

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าคนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ จึงกระจายกันอยู่ถึง 5 พรรค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป และพรรคพลังธรรมใหม่ ซึ่งนายสุเทพอ่านขาดตั้งแต่ต้น ขณะที่พรรคเพื่อไทยจะประสบปัญหาเพราะไม่มีที่เหลือเลย

ขณะที่กลุ่มนปช.มีบางส่วนที่อยากทำหน้าที่ในสภา ก็ต้องมีพรรค เพื่อให้เขาเข้ามาอยู่ภายใต้กติกาเดียวกัน ดังนั้น พรรคเพื่อชาติจึงเกิดขึ้น เพื่อตอบโจทย์ให้กลุ่มคนที่รักประชาธิปไตยรวมทั้งนปช. อย่างไรก็ตาม นปช.ที่มีพื้นที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ก็สามารถอยู่พรรคเพื่อไทยต่อได้ แต่คนที่ไม่มีพื้นที่ก็มาอยู่พรรคเพื่อชาติแทน

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า ทั้งโดยส่วนตัวและในนามนปช. ไม่เคยร่วมหารือเรื่องพรรคกับคณะผู้ก่อตั้งพรรคเพื่อชาติ แต่เข้าใจว่าคงมีการพบปะพูดคุยกันในกลุ่มผู้สนใจมาระยะหนึ่งแล้ว

เมื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ออกจากเรือนจำก็ได้ยินว่า ให้ความสนใจเรื่องนี้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในส่วนของนปช.เคยหารือนอกรอบในหมู่แกนนำ ได้ข้อสรุปว่าองค์กรเราเป็นขบวนการต่อสู้ภาคประชาชน ยังไม่มีแนวคิดตั้งพรรคการเมือง ส่วนสมาชิกหรือแกนนำคนไหนสนใจจะร่วมงานกับพรรคการเมืองใด ตราบเท่าที่พรรคนั้นยืนบนหลักการประชาธิปไตยถือเป็นเสรีภาพ

เผยสัมพันธ์สองดูโอ้

ถ้ามีจุดยืนที่เปลี่ยนแปลงไปก็ถือว่าสิ้นสภาพความเป็นนปช. ที่ผ่านมาเข้าใจตรงกันแบบนี้ หากพรรคเพื่อชาติยืนยันหลักการประชาธิปไตย ก็ไม่มีอะไรเป็นข้อขัดแย้ง การตัดสินใจของแต่ละคนให้เป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีสมาชิกคนใดเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อชาติบ้าง แต่ตนและแกนนำอีกส่วนหนึ่งที่ได้ยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว ตั้งใจว่าจะร่วมงานกับพรรคต่อไป และยังไม่มีใครทราบบทบาทของตัวเองในพรรคภายใต้กติกาใหม่ ความชัดเจนคงเกิดขึ้นหลังการประชุมคัดเลือกกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 28 ต.ค.

ทั้งนี้ ไม่คิดว่าพรรคไหนจะเป็นนอมินีให้กันได้ เมื่อลงสนาม ในความเป็นจริงน่าจะเป็นแนวร่วมกันในทางหลักการมากกว่า เพราะเลือกตั้งคราวนี้มี 2 ฝ่ายเท่านั้น

คือพรรคประชาธิปไตย กับพรรคเผด็จการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน