บิ๊กป้อมแจงซื้ออาวุธ เป็นเรื่องของกองทัพ ยันคสช.ไม่เกี่ยว!
บิ๊กป้อมแจงซื้ออาวุธ – กรณีที่ สื่อต่างประเทศ รายงานว่า กองทัพปลดแอกประชาชนจีน สั่งปลด-ยึดทรัพย์ สองนายพล คือ พล.อ.ฝาง เฟิงฮุย ประธานคณะเสนาธิการร่วมและคณะกรรมาธิการทหารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และ พล.อ.จาง หยาง นายพลของกองทัพ และสมาชิกคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน พร้อมขับไล่ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค
พล.อ.จาง ถูกสอบ กรณีพัวพันทุจริตในกองทัพ และร่ำรวยผิดปกติ แต่ระหว่างการสอบสวน พล.อ.หยาง ได้ฆ่าตัวตายในบ้าน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ปีที่แล้ว ก่อนผลสอบสวนแล้วเสร็จ ส่วน พล.อ.ฝาง ถูกชับไล่ออกจากการเป็นสมาชิก และยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดิน
โดยกองทัพจีนได้ออกแถลงการณ์ว่า พล.อ.จาง สร้างความเสื่อมเสียให้กองทัพ ไม่จงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน ส่วน พล.อ.ฝาง มีการกระทำที่ทรยศต่อพรรคและกองทัพประชาชนจีน รวมถึงต้องสงสัยในการรับสินบนและทุจริต
สำหรับการสอบสวนทุจริตในกองทัพจีนครั้งนี้ คาดว่ามีนายทหารเกี่ยวข้องถึง 300 นาย และมีความเสียหายจากการทุจริตมากกว่า 100 ล้านหยวน หรือกว่า 470 ล้านบาท
22 ต.ค. เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทหารระดับสูงของจีน ซึ่งเคยมีกระแสข่าวว่าหารือกับพล.อ.ประวิตร เพื่อเจรจาขายยุทโธปกรณ์ให้กองทัพของไทย ถูกทางการจีนดำเนินคดีข้อหาทุจริตว่า
คนที่มาพูดคุยกับตนเป็นคนละคนกับคนที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งตนไม่รู้จัก คนที่เคยมาหารือกับตนนั้นสนิทกันและเกษียณอายุราชการไปแล้ว การซื้ออาวุธกับจีนเป็นการทำสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ไม่ได้ทำผ่านบริษัทใด แต่เป็นเรื่องของประเทศต่อประเทศ
และเห็นว่ามีคนไปเขียนบิดเบือนว่า มีคนระดับสูงในคสช. ไปเกี่ยวข้อง ไปเขียนให้เป็นเรื่องเลอะเทอะ ทั้งที่การจัดซื้ออาวุธเป็นเรื่องกองทัพเป็นผู้เลือกและพิจารณา ไม่เกี่ยวกับคสช.และรัฐบาล จะเอารัฐบาลไปเกี่ยวข้องได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.อ.ประวิตรถูกจับจ้องโจมตีเป็นตำบลกระสุนตก รองนายกฯกล่าวว่า “พวกคุณที่มาทำให้ตก ไม่ใช่เรื่องจริง ชอบเอาเรื่องไม่จริงมาทำให้เป็นเรื่องจริง”
