กรธ.-สนช.ย้ำไม่คิดเตะถ่วงโรดแม็ป ชี้ระฆังยกแรกยังไม่เริ่ม เพื่อไทยเตือน “บิ๊กตู่” ถ้าลากยาวถึงกลางปี”61 ลำบากแน่ หนุนนายกฯ ใช้มาตรา 44 นิรโทษทุกสีเสื้อที่มีคดีเห็นต่างทางการเมือง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นปรองดอง โพลระบุชาวบ้านหวังนายกฯ ทำให้การเมืองดีขึ้น สปท.ชง 4 แนวทางปฏิรูป ตรวจสอบเข้มการใช้อำนาจรัฐ เพิ่มโทษประหารนักการเมือง-ข้าราชการคดีทุจริต ทำรัฐเสียหายเกินพันล้าน

กรธ.แจงทำกม.ลูกต้องรัดกุม

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. นายอมร วาณิชวิวัฒน์ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) หรือกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ว่า มีกระแสข่าวว่ากรธ.พยายามยื้อการจัด ทำร่างพ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับนั้น ตนจึงขอชี้แจงว่า เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเลือกตั้งของส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว.จากเดิม ดังนั้นกรธ.ต้องรัดกุมในการร่างให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติและร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรค การเมืองและร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมทั้งต้องทำให้มั่นใจว่าจะสามารถตอบคำถามในทุกข้อสงสัยได้

นอกจากนี้ ยังต้องเว้นระยะเพื่อให้เวลาแก่พรรคการเมืองและกกต.ไปดำเนินการให้สอดคล้องกับร่างกฎหมายลูกใหม่ที่ออกมาด้วย ซึ่งกรธ.มีเวลา 8 เดือนหลังจากที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ในการร่างกฎหมายลูก หากรัฐธรรมนูญประกาศใช้เมื่อใด กรธ.จะทยอยส่งร่างกฎหมายลูกให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไปพิจารณาต่อได้ทันที

ขอยืนยันว่าเราไม่ได้มีเจตนายื้อการ เลือกตั้งแต่อย่างใด การร่างกฎหมายของ กรธ.จะไม่เกินไปจากกรอบเวลาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน

ชี้ระฆังยกแรกยังไม่เริ่ม

นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรธ. กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีแนะให้ กรธ.อธิบายว่าเหตุใดจึงไม่สามารถออกร่างพ.ร.ป 4 ฉบับได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ความจริง กรธ.ไม่เคยบอกว่าจะทำล่าช้า ถ้ารองนายกฯ ถามมาจะตอบสั้นๆ ง่ายๆ ว่า วันนี้รัฐธรรมนูญยังไม่ประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการ โดย กรธ.เคยบอกถ้ารัฐธรรมนูญประกาศใช้เมื่อไหร่จะส่งต่อร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. ที่ร่างไว้แล้วไปให้ สนช.ทันทีตามคำพูด แต่ในเมื่อวันนี้รัฐธรรมนูญยังไม่ประกาศใช้ แล้วพวกตนจะส่งต่อได้อย่างไร

“รู้ได้อย่างไรว่าพวกผมทำช้าในเมื่อกำหนดเวลา 240 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับประชามติในบทเฉพาะกาลที่ให้เวลาทำกฎหมายลูกเอาไว้ยังไม่เริ่มนับ พวกเรายึดตามไทม์ไลน์ ตามกรอบไม่ต้องห่วง หมายถึงเวลาเรามี 8 เดือนก็ทำเสร็จแน่ๆ เชื่อว่ารองนายกฯ ไม่ได้ต่อว่าอะไรพวกผม เพราะท่านรู้ดีว่าระฆังยังไม่เริ่มนับยกที่ 1 พวกผมทำงานหนักมาตลอด ไม่ใช่การมาด่าว่าพวกเราไม่ทำงาน หรือจงใจยื้อเวลาแน่นอน” นายชาติชายกล่าว

“พีระศักดิ์”ย้ำไม่ยื้อโรดแม็ป

นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. คนที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ยังมีการวิจารณ์เรื่องเลื่อนโรดแม็ปเลือกตั้งว่า วันนี้ยังยืนยันว่าสนช.ไม่ดึงเช็ง เพราะทุกอย่างอยู่ที่ร่างรัฐธรรมนูญว่าจะประกาศใช้เมื่อไหร่ และกรธ. จะส่งร่างกฎหมายลูกมาวันไหน แต่คิดว่าสนช.คงไม่เห็นต่างอะไรจากร่าง ของกรธ.มากนัก อีกทั้งเราศึกษา วางแผนและขั้นตอนร่างกฎหมายลูกเอาไว้ล่วงหน้า เมื่อกรธ.ส่งร่างมาเเล้วคงไม่เกิดกรณีล่าช้า

“เท่าที่พูดคุยและตรวจสอบทางรัฐบาลยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะเลื่อนโรดแม็ปเลือกตั้ง ไม่มีเเตะมือแอบส่งสัญญาณ ทุกอย่างตามกระบวนการขั้นตอนมีไว้อยู่เดิมแล้ว ไม่มียื้อ ไม่มีเตะถ่วง ทุกคนต้องรู้หน้าที่ตัวเอง รัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับปี 2557 กำหนดไว้แล้วว่าใครมีหน้าที่อะไร” นายพีระศักดิ์กล่าว

“วันชัย”อัดพวกกระสันเลือกตั้ง

ด้านนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภา ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า ยืนยันว่า แม่น้ำ 5 สาย เข้ามาทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ตามคำกล่าวของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วันนี้ทำงานคืบหน้าเกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เหลืออีกนิดเดียวคือเตรียมการเลือกตั้ง จึงไม่มีเหตุผลทำสะดุดหยุดชะงัก นอกจากเรื่องความสำคัญของพิธีในแผ่นดินนี้เท่านั้นที่ต้องเรียบร้อยก่อน หลังจากนั้น จะเป็นการเลือกตั้ง ดังนั้น จึงไม่มีอะไรที่ ผิดไปจากที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดไว้

การขยับเลื่อนไป 1-2 เดือนจึงไม่ผิด กติกา เพราะตอนที่พล.อ.ประยุทธ์ พูดยังไม่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น แต่เมื่ออาจจะมีพิธีสำคัญที่จะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้ เป็นที่รับรู้เข้าใจยอมรับของคนไทยและชาวโลกได้ ไม่มีใครอยากดึงโรดแม็ปเพื่อหวังอยู่ใน อำนาจนานๆ สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามออกโวยวายต่อว่า หวังโจมตีมากกว่ามองถึงข้อเท็จจริง ถือว่ามีเจตนาจ้องทำลาย แกล้งทำเป็น ไม่ยอมรับความจริงเหมือนที่คนไทยและชาวโลกยอมรับ เป็นพวกดัดจริตทำปั่นป่วนวุ่นวาย บ้านเมืองสถานการณ์อย่างนี้ควรสงบปากสงบคำอยู่ในอาการสำรวม อย่ากระสันอยากเลือกตั้งจนเกินความจำเป็น

พท.เตือนลากยาว-“บิ๊กตู่”ลำบาก

นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรมว.ยุติธรรม และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ยังคงยืนยันว่าจะเดินหน้าเลือกตั้งตามโรดแม็ป ถือเป็นเรื่องดี แต่ที่ทางสนช.ออกมาระบุว่าอาจจะต้องมีการเลื่อนการเลือกตั้งตามโรดแม็ปออกไปประมาณกลางปี 2561 โดยอ้างเรื่องการพิจารณากฎหมายจำนวนมากนั้น ตามกรอบของร่างรัฐธรรมนูญจะมีเรื่องเงื่อนเวลากำหนดเอาไว้อยู่ โดยเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเข้าสู่ขั้นตอนการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องเสร็จภายใน 240 วัน

ดังนั้นหากเงื่อนเวลาจะเคลื่อนออกไปบ้างสักประมาณ 3-4 เดือน ก็ยังคงอยู่ในระยะ ไม่ถือว่าเป็นปัญหา แต่ถ้าหากจะเลื่อนกันไปถึงกลางปี 2561 ตามที่ สนช.ระบุ ลำบากอยู่เหมือนกัน เกรงว่าอาจจะมีปัญหาและส่งผลกระทบไปถึงผู้ที่อยากให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น

หนุนใช้ ม.44 นิรโทษทุกสี

นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอของกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท.ที่เสนอให้มีการนิรโทษกรรมให้ประชาชนทุกสีเสื้อที่มีคดีความเพียงเพราะเห็นต่างทางการเมือง ดังนั้นอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจตามมาตรา 44 หรือผ่านสนช.พิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความปรองดองตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งใจจะให้เกิดขึ้น ช่วยลดความขัดแย้งในบ้านเมืองก่อนที่จะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็ป

ทั้งนี้ กลุ่มคนเหล่านี้มีคดีความเพราะมาร่วมชุมนุม เดินขบวนประท้วงเพียงเพราะความเห็นต่างการเมือง เวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะสมแล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์จะได้ช่วยล้างมลทินให้กับคนกลุ่มนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เองก็ได้อานิสงส์จากเรื่องนี้ไปด้วย

ชาวบ้านคาดบ้านเมืองมั่นคง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สวนดุสิตโพล มหา วิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ 1,266 คน ระหว่างวันที่ 1-6 ม.ค. 2560 เรื่องการเมืองไทยปี 2560 ในสายตาประชาชน โดยสถานการณ์การเมืองไทย ปี 2560 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างยิ่งของรัฐบาลที่จะบริหารบ้านเมืองตามโรดแม็ปที่เหลือเวลาอีกเพียง 1 ปี สรุปผลดังนี้

1.การเมืองไทยปี 2560 ที่ประชาชนคาดว่าน่าจะ “ดีขึ้น” อันดับ 1 การบริหารบ้านเมืองให้เข้มแข็งมั่นคง 68.95% เพราะรัฐบาลมีนโยบายชัดเจน เอาจริงเอาจัง แต่ละกระทรวงมีการทำงานที่สอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ฯลฯ

อันดับ 2 ความสงบสุขของบ้านเมือง 66.28% เพราะรัฐบาลยังควบคุมดูแลสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี หลายฝ่ายอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุขและดีขึ้น ฯลฯ อันดับ 3 การร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกที่สมบูรณ์ 57.06% เพราะเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ มีความสำคัญและส่งผลต่อประเทศชาติและประชาชน ประชาชนได้ใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ฯลฯ

หวังนายกฯทำการเมืองดีขึ้น

ประเด็นที่ 2.การเมืองไทยปี 2560 ที่ประชาชนคาดว่าน่าจะ “แย่ลง” อันดับ 1 การปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น 70.85% เพราะการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ เป็นปัญหาที่มีมาทุกยุคทุกสมัย อาศัยช่องโหว่จากโครงการต่างๆ ฯลฯ อันดับ 2 การแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง 69.67% เพราะรัฐบาลยังไม่สามารถสร้างความปรองดองทางการเมืองได้อย่างแท้จริง ถูกมองว่าเป็นรัฐบาลทหาร ฯลฯ อันดับ 3 รัฐบาลไม่สามารถทำตามโรดแม็ป 54.50% เพราะมีกระแสข่าวว่าจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป มีหลายเรื่องที่รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ฯลฯ

ประเด็นที่ 3. “บุคคล” หรือ “หน่วยงาน” ที่ประชาชนฝากความหวังว่าจะช่วยให้การเมืองไทยปี 2560 ดีขึ้นอันดับ 1 นายกรัฐมนตรี 73.02% อันดับ 2 ประชาชนทุกคนทุกฝ่าย 64.39% อันดับ 3 รัฐบาล 61.10% อันดับ 4 ข้าราชการประจำ 56.34% อันดับ 5 นักการเมือง 48.77%

สปท.ชง 4 แนวทางปฏิรูป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสปท. ได้นัดประชุมสปท.ในวันที่ 9 ม.ค.เพื่อพิจารณารายงานปฏิรูป เรื่อง “การควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ” ของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การขับเคลื่อนการปฏิรูปของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเมือง ที่มีนายเสรี สุวรรณ ภานนท์ เป็นประธาน

โดยมีสาระสำคัญแบ่งออกเป็น 4 แนวทาง ดังนี้ 1.การปฏิรูปการควบคุมตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐผ่านระบบรัฐสภา เสนอให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองกระทู้ เพื่อคัดเลือกกระทู้ถามที่มีความสำคัญและเป็นปัญหาที่ต้องรับการแก้ไขในระดับการบริหารราชการแผ่นดินก่อนเข้าสู่การบรรจุในระเบียบวาระ เพื่อแก้ปัญหากรณีที่ตั้งกระทู้ถามลักษณะที่สนับ สนุนหรือประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาล

ตรวจสอบเข้มการใช้อำนาจรัฐ

2.การปฏิรูปการควบคุมและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐผ่านองค์กรตามรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม เสนอให้ปรับกระบวนการสรรหา ซึ่งตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติกำหนดให้มีตัวแทนจากองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการสรรหาด้วย ดังนั้นควรกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้มีการกำหนดบุคคลไว้ล่วงหน้า ซึ่งอาจกระทบต่อความโปร่งใสการสรรหาได้

เช่นเดียวกับคุณสมบัติของกรรมการองค์กรอิสระ ที่ระบุให้มีความรับผิดชอบสูง มีความดีเป็นที่ประจักษ์ ควรกำหนดนิยามและขอบเขตให้ชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางและกรอบการคัดเลือกที่ชัดเจนและกรรมการสรรหาสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้อย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน และควรเปิดกว้างให้ ทุกสาขาอาชีพสามารถสมัครเข้ารับการสรรหาได้

เพิ่มโทษประหารนักการเมือง-ขรก.

3.การปฏิรูปการควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐโดยประชาชน เสนอให้ มีการส่งเสริมให้มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลข่าวสารภาครัฐ โดยสนับสนุนให้มีการประกาศใช้ร่างพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ พ.ศ. และร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันแห่งผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ. ที่ สปท.ได้เสนอต่อ สนช.ไปแล้วโดยเร็ว

และ 4.การปฏิรูปการควบคุมและการตรวจสอบข้าราชการและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใช้อำนาจรัฐ เสนอให้ใช้แนวทางเดียวกับการตรวจสอบฝ่ายการเมือง พร้อมกับเสนอให้ปรับอัตราการลงโทษผู้ที่กระทำความผิดในคดีคอร์รัปชั่น ดังนี้ 1.คดีที่สร้างความเสียหายมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท ให้จำคุกไม่เกิน 5 ปี 2.คดีที่สร้างความเสียหายมูลค่า เกิน 1 ล้านบาท-10 ล้านบาท ให้จำคุก 10 ปี 3.คดีที่สร้างความเสียหายมูลค่า เกิน 10 ล้านบาท-100 ล้านบาท จำคุก 20 ปี 4.คดีที่สร้างความเสียหายมูลค่า เกิน 100 ล้านบาท-1,000 ล้านบาท ให้จำคุกตลอดชีวิต และ 5.คดีที่สร้างความเสียหายมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท ให้ลงโทษด้วยการประหารชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน