‘สิริพงษ์’ยื่นลาออกจากชทพ.แล้ว ซบภูมิใจไทย ยันไม่ได้ขัดแย้ง แค่แนวทางไม่ตรงกัน ภราดร-กรวีร์ โผล่ให้กำลังใจ ย้ำยังทำงานร่วมกันได้
ซบภูมิใจไทย – ที่พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สมาชิกพรรค ชทพ. เข้ายื่นใบลาออก ต่อนายพิสิษฐ์ พิทยฐากุลเจริญ นายทะเบียนพรรค เพื่อเตรียมไปทำงานร่วมกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยมีนายภราดร และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล อดีตส.ส.อ่างทอง มาให้กำลังใจและเข้าสวมกอดกัน ขณะที่นายสิริพงศ์ มีน้ำตาคลอเบ้า
นายสิริพงศ์ ให้สัมภาษณ์หลังยื่นใบลาออกว่า แม้ตนจะลาออกจากพรรค ยังเป็นพวกเดียวกันเหมือนเดิม ยังทำงานร่วมกับอดีตส.ส.พรรคชทพ. ส่วนการทำงานกับพรรค ภท.นั้น ยอมรับว่าจริงและตนจะไปยื่นใบสมัครช่วงบ่ายวันที่ 31 ต.ค. เพื่อแสดงความชัดเจน เพราะตนชอบความชัดเจน และความตรงไปตรงมา ก่อนจะตัดสินใจลาออกได้คุยกับผู้ใหญ่หลายคน ซึ่งเขาบอกว่าให้อยู่ช่วยงานพรรคก่อน แต่ตนมองว่าแนวทางของพรรคตอนนี้ไม่ใช่แนวทางของตนอีกต่อไปและไม่พร้อมทำงานให้กับพรรค
ยืนยันไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่เป็นแนวทางทางการเมือง อุดมการณ์ไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ ยอมรับว่าการตัดสินใจดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนบุคคล ที่ผ่านมาตนเข้าสังกัดนี้เพียงคนเดียว ดังนั้นเมื่อวันนี้ตนไป จะไปคนเดียว ไม่มีชวนใครออกตาม
เมื่อถามถึงบทบาทที่จะทำในพรรค ภท. นายสิริพงศ์ กล่าวว่า มี 2-3 โครงการที่อยากทำ โดยเฉพาะการนำโมเดลบุรีรัมย์ ด้านกีฬาไปพัฒนาและต่อยอดในพื้นที่ศรีสะเกษ ตนขอเสนอตัวทำคนรุ่นใหม่ให้กับพรรค ภท. ส่วนการลงเลือกตั้งเป็นส.ส.นั้น ตนพร้อม แม้การต่อสู้ในพื้นที่กับพรรคเพื่อไทย(พท.) จะยาก แต่เมื่อลงสนามแล้วต้องสู้ เปรียบเหมือนนักมวยที่ลงสนามแล้วต้องสู้กัน
เมื่อถามว่าก่อนยื่นใบลาออกได้คุยกับนายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า “ยังไม่ได้คุยกัน แต่หลังจากนี้ผมจะเข้าไปพบผู้ใหญ่ทุกคนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ส่วนเหตุผลที่ไม่คุย ไม่ใช่เพราะโกรธหรือขัดแย้งกัน แต่ผมไม่อยากให้มองว่าเป็นการต่อรอง จากนี้ในอนาคตผมพร้อมนั่งดื่มกาแฟ เพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้”
ด้านนายภราดร กล่าวว่าตนเสียใจ แต่ยอมรับกับการตัดสินใจของนายสิริพงศ์ เพราะเชื่อว่าคิดมาดีแล้ว ส่วนการทำงานการเมืองนั้น มั่นใจว่ายังทำงานร่วมกันได้ แม้จะเป็นคนละพรรค แต่เราคือพวกเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายสิริพงศ์ ยื่นหนังสือลาออกไม่กี่นาที นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้ชักนำนายสิริพงศ์ให้ทำงานร่วมกับพรรค ได้เดินทางเข้าพรรค เพื่อมาส่งนายสิริพงศ์
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเสียใจที่พรรคขาดบุคคลที่เป็นความหวังและอนาคตของพรรค แต่เมื่อนายสิริพงศ์ ตัดสินใจลาออกแล้ว ตนเคารพในการตัดสินใจ เพราะเข้าใจว่าการเมืองคือเรื่องอาสาสมัครและความสมัครใจ เมื่อใจไม่ไป ก็อยู่ยากและอาจทำงานร่วมกันได้ยาก ทั้งนี้ ตนไม่ขออวยพรให้นายสิริพงศ์ เพราะเชื่อมือว่าคนเก่งอยู่ที่ไหนย่อมทำงานได้ และประสบความสำเร็จ
“ผมเสียดายที่พรรคเสียโอกาส แต่เชื่อว่า ไม่ว่าสิริพงศ์จะอยู่ที่ไหนก็ต้องสู้ เชื่อว่าประชาชนฉลาดว่าจะเลือกคนแบบไหนที่ทำประโยชน์ให้ได้” นายสมศักดิ์ กล่าว
