ศาล ยุติธรรม พัฒนาระบบการประกาศนัดไต่สวนคำร้อง ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ช่วยประชาชนลดค่าใช้จ่าย เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น

ศาล – วันที่ 3 พ.ย. นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เผยว่า สำนักงานศาลยุติธรรมได้ดำเนินการพัฒนาระบบการส่งเอกสาร และการประกาศนัดไต่สวน โดยวิธีการลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ (e-Notice System) ขึ้น เพื่อเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์กลาง สำหรับศาลใช้ในการประกาศนัดไต่สวนคำร้องขอต่างๆ เช่น คำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก คำร้องขอจดทะเบียนรับรองบุตร แทนการประกาศทางหนังสือพิมพ์ หรือใช้ลงโฆษณาประกาศคำฟ้องและเอกสารทางคดีอื่นๆ ในกรณีที่ไม่สามารถส่งด้วยเจ้าพนักงานศาลหรือวิธีอื่นได้ โดยคู่ความ ทนายความ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถขอให้ศาลประกาศนัดไต่สวนคำร้องขอหรือลงโฆษณาเอกสาร

ทางคดีต่างๆ ด้วยระบบ e-Notice System โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนทั่วไปสามารถติดตามประกาศของศาลผ่านทางเว็บไซต์ https://enotice.coj.go.th ได้โดยสะดวก รวดเร็ว และไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการประกาศเอกสารทางคดีต่างๆ ของศาล และทำให้ประชาชนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการประกาศทางหนังสือพิมพ์

อีกทั้งลดขั้นตอนระยะเวลาในกระบวนพิจารณาของศาลได้อย่างมาก ทั้งนี้เพื่อให้การประกาศนัดไต่สวนคำร้องขอ และการส่งคำฟ้องหรือเอกสารทางคดีอื่นๆ ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนพิจารณาคดีของศาลได้โดยสะดวก รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย โดยการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ

ประธานศาลฎีกาจึงได้ออกคำแนะนำ และสำนักงานศาลยุติธรรมได้ออกประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการส่งเอกสารและการประกาศนัดไต่สวนโดยวิธีลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา

นายสุริยัณห์ โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบ e-Notice System มีลักษณะพิเศษ คือ เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์กลาง ที่ทุกศาลสามารถใช้ประกาศเอกสารทางคดีได้ และประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ผ่านเว็บไซต์กลาง (https://enotice.coj.go.th) หรือเว็บไซต์ของศาลต่างๆ ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้งานแต่อย่างใด และยังมีฟังก์ชั่นที่สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากชื่อคู่ความ ชื่อศาล ชื่อเรื่อง และหมายเลขคดี ที่มีวิธีการทำงานคล้ายกับ Google search เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและสืบค้นข้อมูลได้โดยสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และมีประสิทธิภาพในการลงโฆษณามากกว่าการประกาศทางหนังสือพิมพ์ ที่ศาลใช้อยู่ในปัจจุบัน

อีกทั้งยังมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและมีการประทับรับรองเวลา (time stamp) ลงในเอกสารที่ได้ประกาศทุกครั้ง เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า ได้มีการลงประกาศไปแล้วเมื่อใด นอกจากนี้ระบบดังกล่าวยังคำนึงถึงการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลของคู่ความ โดยจะทำการลบข้อมูลออกจากเว็บไซต์กลางอัตโนมัติ เมื่อมีการลงโฆษณาหรือประกาศผ่านระบบครบ 6 เดือน เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น และมีคำเตือนแสดงขึ้นทุกครั้งที่มีผู้คลิกเข้าไปดูประกาศ

นับได้ว่าการพัฒนาระบบดังกล่าวจะช่วยยกระดับการให้บริการแก่ประชาชน ผู้มาติดต่อราชการศาล และคู่ความในคดีให้ได้รับความสะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังสนองตอบนโยบายประธานศาลฎีกา ที่มุ่งเน้นเพิ่มการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการคดี เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างรวดเร็ว ง่ายขึ้น และเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง

 

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน