เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและปรองดองว่า การปฏิรูปหมายคิดใหม่ทำใหม่ วันนี้รัฐบาลทำงานตามแผนงาน บูรณาการ ปฏิรูประบบราชการ และระบบงบประมาณแก้ไขปัญหาครบวงจร เดินหน้าตามนโยบาย การปฏิรูปของรัฐบาลมีความคืบหน้ามาก

โดยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ ปฏิรูป ปรองดอง โดยนำงานที่ทำแล้วทั้งหมดมาดูเพื่อสร้างให้เกิดความชัดเจน ส่วนที่ยังทำไม่ได้เนื่องจากติดกฎหมายก็ต้องเร่งรัด หากมีความจำเป็นก็ต้องใช้มาตรา 44 ดำเนินการ นี่คือการปฏิรูประยะที่ 1 ปี 2560 เพราะตนไม่ได้อยู่ถึง 20 ปี แต่จะทำให้เกิดความชัดเจน ให้ทุกอย่างอยู่ในแผนแม่บท นี่คือการส่งต่อ สืบทอดอำนาจของตนให้แก่รัฐบาลใหม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการปฏิรูปที่แล้วเสร็จ เช่น การแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย หรือ ไอยูยู มิเช่นนั้นไทยคงได้ธงแดงไปแล้ว ก่อนหน้านี้มีกฎหมายออกกว่า 90 ฉบับ ซึ่งต้องเข้าใจว่าเหล่านี้เป็นปัญหาที่ไม่เคยได้รับการแก้ไข การแก้ไขปัญหาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) รัฐบาลได้ตั้งสำนักการบินพลเรือนขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ ยังปฏิรูปกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม มีกองทุนยุติธรรม รัฐบาลออกกฎหมายกว่า 180 ฉบับ กำลังพิจารณาอีกกว่า 200 ฉบับ ยังไม่เข้ามาอีก 200 ฉบับ รวมเป็น 580 ฉบับ เรายังอำนวยความสะดวกประชาชน โดยลดขั้นตอนการลงทุน จัดตั้งบริษัท มี พ.ร.บ.อำนายความสะกวด พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ตั้งศูนย์ดำรงธรรม 3 ปีรับเรื่องร้องเรียนกว่าแปดล้านเรื่อง แก้ไขปัญหาได้กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ก่อนหน้านี้มีผู้หญิงนุ่งกระโจมอกอาบน้ำบนถนนเป็นบ่อหลุม เราก็แก้ไข ถือเป็นการปฏิรูปการทำงานของรัฐบาล ข้าราชการ

“ทุกเวทีโลกเขาก็ยอมรับ ผมไปไหนเขาไม่รังเกียจ ไม่ได้เดินมาถามว่าผมมาจากรัฐประหารแล้วมาทำไมวะนี่ เขารู้ว่าผมมาอย่างไร มีแต่คนไทยที่ไม่ได้รู้ว่าปัญหาใหญ่นั้นมีอย่างไร วันหน้าผมไม่ได้อยู่ตรงนี้ ผมจะฟังนักข่าวถามรัฐบาลใหม่ ว่าเขาทำอะไรบ้าง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการปรองดอง ขออย่าเข้าใจว่าต้องทำด้วยการพูดคุยกับนักโทษ หรือผู้มีความผิดเท่านั้น เพราะสิ่งสำคัญคือทำอย่างไรเพื่อไม่ให้คนไทยทะเลาะกันอีก ถามว่าที่ผ่านมาทะเลาะกันเพราะสาเหตุใด ทำไมคนไทยถึงปฏิสัมพันธ์กันไม่ได้ เพราะบ้านเดียวกันยังคุยหรือดูโทรทัศน์ช่องเดียวกันไม่ได้ อย่ามัวสนใจแต่ว่าจะเอาคนติดคุกออกมา หรือให้คนที่อยู่ต่างประเทศกลับมาหรือไม่

“เอาคนที่อยู่ในประเทศวันนี้ก่อน เดือนร้อนมากไหม เทียบกับคนที่อยู่ต่างประเทศใครเดือนร้อนกว่ากัน แล้วเดือดร้อนเพราะอะไร คิดให้เป็น ต้องปฏิรูปทางความคิดด้วย อย่าหาเหตุจนกระทั่งทำอะไรไม่ได้เลย แต่ก็จะให้ฝ่ายการเมืองเข้ามา ดูสิว่าจะเสนอเรื่องปรองดองอย่างไร ถ้าเสนอรวมกันไม่ได้ ก็ให้แต่ละพรรคเสนอเข้ามา แล้วให้นักข่าวดูแล้วตัดสินเอา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน