“ปิยบุตร”เมินร่วมหารือกกต. โภคินโต้พรรคแตก-ไร้สาระ ปชป.ปิดโหวตหน.ลุ้นผลวันนี้

“อุตตม-สนธิรัตน์” ย่องพบ “วิษณุ” ถามข้อปฏิบัติ การเมือง “บิ๊กป้อม” ยันหาเสียง60 วันเพียงพอ “เพื่อไทย-ทษช.-อนค.” ไม่มั่นใจมีเลือกตั้ง 24 ก.พ. จี้ปลดล็อกทันทีไม่ต้องรอหลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง “ปิยบุตร” เมิน หารือกกต. ชี้ถ้าเลื่อนเลือกตั้งอีกวุ่นวายแน่ “โภคิน” โต้ข่าวเพื่อไทยแตก ฉะไร้สาระ ปล่อยข่าวหวังทำลายพรรค “ภราดร-กรวีร์” จ่อย้ายซบภูมิใจไทย ปชป.เปิดโหวตหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค ลุ้นผลคะแนนวันนี้ “จุรินทร์” มั่นใจไม่ทำพรรคสะดุด “หมอวรงค์” ลั่นถ้าแพ้ขอลงส.ส.เขตเหมือนเดิม

ชาวบ้านให้กำลังใจ”บิ๊กตู่สู้ๆ”

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 9 พ.ย. ที่วัดชนะสงคราม เขตพระนคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานถวายผ้าพระกฐินพระราชทานสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2561 โดยมีรองนายกฯ ครม. เลขาธิการนายกฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชนเข้าร่วม สำหรับ ยอดเงินที่ถวายผ้าพระกฐินพระราชทานสำนักนายกฯ ประจำปี 2561 เป็นงินทั้งสิ้น 6,939,394.41 บาท

ทั้งนี้ ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางกลับ มีประชาชนมาขอถ่ายรูป พร้อมตะโกนส่งเสียงให้กำลังใจนายกฯว่า “นายกฯสู้ๆ”

เปิดเพจเพิ่ม-อ้างสื่อสารโดยตรง

ช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการใช้สื่อออนไลน์สื่อสารกับประชาชนว่า ที่ผ่านมาตนเปิดช่องทางสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์ ถือเป็นความท้าทาย และพบว่าตนสามารถสื่อสารและรับฟังปัญหาของประชาชนได้เป็นจำนวนมากผ่านช่องทางใหม่ๆนี้ แต่อาจจะยังไม่สามารถตอบหรือแก้ปัญหาที่ส่งเข้ามาได้มากเพียงพอ จึงให้ทีมงานหาแนวทางที่ตนจะตอบและแก้ปัญหาได้เร็วกว่านี้ วันนี้ประชาชนส่งคำถามหรือปัญหาถึงตนโดยตรง ผ่านเว็บไซต์อีกหนึ่งช่องทาง ซึ่งทีมงานจะรวบรวมปัญหาที่เข้ามาได้ดีกว่า

“ผมอยากให้ทุกคนมาลองใช้ช่องทางที่เพิ่มขึ้นมาใหม่นี้ ง่ายๆ เพียงคลิก https://ask.prayutchan-o-cha.com ก็ส่งตรงถึงผม ขอให้ทุกคนร่วมโหวตปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข แล้วผมจะให้ทีมจัดลำดับการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ทุกคนส่งโหวตเข้ามาครับ” นายกฯกล่าว

“ป้อม”ลั่นหาเสียง60วันไม่น้อย

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการปลดล็อกการเมืองหลังมีพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)กำหนดเลือกตั้งว่า เรื่องนี้พูดมาหลายครั้งแล้ว แต่สื่อยังจะมาถามอีกและจะไม่พูดแล้ว ส่วนที่นักการเมืองวิจารณ์ว่าหากปลดล็อกในช่วงปลายเดือนธ.ค. จะมีเวลาหาเสียงประมาณ 60 วัน ถือว่ามีเวลาหาเสียงน้อยนั้น ยืนยันว่าไม่น้อย เพราะก่อนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะมาเป็นนายกฯ ก็มีเวลาหาเสียงแค่ 49 วันเอง “ไม่น้อย ตอนคุณยิ่งลักษณ์ 49 วัน”

บิ๊กพปชร.ดอดพบ”วิษณุ”

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เลขาธิการพรรค เข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ประมาณ 30 นาที โดยนายอุตตมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า มาคุยเรื่องกฎหมายกระทรวง ไม่ได้มีเรื่องการเมือง

นายวิษณุ เผยว่า เป็นเรื่องเล็กๆ เกี่ยวกับปฏิบัติที่ควรระวังต่างๆ อะไรทำได้ ทำไม่ได้ ตนก็ให้คำแนะนำไป เนื่องจากวันที่ตนชี้แจงในที่ประชุมครม.วันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้ง 4 รัฐมนตรี พปชร.มีภารกิจต่างประเทศ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมครม. จึงมาสอบถามและขอให้ตนลงรายละเอียดถึงข้อปฏิบัติ ส่วนเรื่องการลาออกจากตำแหน่ง ตนไม่ได้แนะนำอะไร และลงพื้นที่หาสมาชิกพรรคได้หรือไม่ เรื่องนี้ต้องถามกกต.

ปชป.ห่วงมีเลื่อนอีก

ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคปชป. ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ชี้แจงไทม์ไลน์เลือกตั้งว่า ถ้ายังกำหนดให้มีการเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. 2562 ตนคิดว่าไม่น่ามีปัญหาใดๆ พรรคพร้อมเพราะได้เตรียมการไว้แล้ว และจะขออนุญาต กกต.ทำกิจกรรมตามที่คำสั่งคสช.กำหนดไว้ แต่ประเด็นสำคัญคือจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกใช่หรือไม่

ชพน.วอนทุกฝ่ายร่วมมือ

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ให้สัมภาษณ์ถึงนายวิษณุ แถลงความชัดเจนปฏิทินการทำงาน การปลดล็อก รวมถึงการเลือกตั้งว่า พรรคเห็นด้วยและถือเป็นข่าวดีของบ้านเมืองที่จะสร้างความมั่นใจให้เศรษฐกิจและนักลงทุน พรรคพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ซึ่งวันที่ 21 พ.ย.นี้ จะมีการประชุมเพื่อคัดเลือกกก.บห.ชุดใหม่ด้วย ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ

นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า พรรคยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในมิติต่างๆ เพื่อให้เกิดการเลือกตั้ง และช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ทางการเมืองให้เรียบร้อย เพื่อสุดท้ายให้ได้รัฐบาลที่ทุกฝ่ายยอมรับ เกิดประโยชน์และความสุขของประเทศและประชาชน

ทษช.จี้ปลดล็อกทันที

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ให้สัมภาษณ์ถึงไทม์ไลน์เลือกตั้งของรัฐบาลว่า ตนเห็นด้วยที่จะมีเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.2562 แต่ไม่เห็นด้วยที่จะปลดล็อกหลังมีกฤษฎีกาเลือกตั้ง วันนี้ต้องสร้างบรรยากาศให้ต่างชาติและคนไทยเห็นว่านี่เป็นหนทางสู่ประชาธิปไตย ควรให้บรรยากาศเป็นประชาธิปไตย มีการถกเถียงและจัดกิจกรรมได้ ผู้มีอำนาจไม่ควรกังวลว่าจะมีใครมาสร้างความวุ่นวาย เพราะไม่มีใครอยากวุ่นวาย มีแต่คนอยากเลือกตั้ง อยากเดินสู่วันที่ได้ลงคะแนนอย่างเรียบร้อย ราบรื่น วันนี้อยากให้เปิดกว้าง

เมื่อถามว่าระยะเวลาหาเสียง 60 วัน เพียงพอหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า จะ 60 วันได้อย่างไรหากปลดล็อกหลังมีกฤษฎีกาเลือกตั้ง มันไม่ถึง 60 วัน ตนคิดว่ากลางเดือนพ.ย.ควรปลดล็อกได้แล้ว หรือพรุ่งนี้ปลดล็อกเลยได้ยิ่งดี เพราะไม่มีเงื่อนไขที่จะไม่ปลดล็อก ไม่เปิดโอกาสให้พรรคทำกิจกรรม วันนี้เราไม่สามารถพูดกับประชาชนได้ นี่หรือบรรยากาศการเมืองไทยที่จะเดินสู่การเลือกตั้ง ยิ่งเปิดเร็วจะยิ่งแสดงถึงความจริงใจของรัฐบาล

ส่วนที่ต่างชาติขอร่วมสังเกตการเลือกตั้ง ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า ตนว่าดี คนเราถ้าทำอะไรโปร่งใสก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาจับผิด ยิ่งทำให้เกิดความเชื่อมั่นเสียอีก เพราะวิกฤตที่ประเทศเราประสบอยู่ เป็นวิกฤตของความเชื่อมั่น ซึ่งเกิดขึ้นมาพร้อมการทำรัฐประหาร นักลงทุนเขาจะได้เห็นถึงความจริงใจของรัฐบาล หลังการเลือกตั้งเขาจะได้วางแผนว่าเขาจะทำอะไรต่อ

พท.ข้องใจไทม์ไลน์-ปลดล็อก

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตามที่สื่อเสนอไทม์ไลน์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ นั้น ต้องถามว่าเป็นไทม์ไลน์ของรองนายกฯ หรือของรัฐบาล ตกลงรัฐบาลยอมรับแล้วว่าเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.2562 ตามที่กกต.เสนอ หวังว่าคงไม่เลื่อนยาวไปอีก เพราะดูสถานการณ์แล้วเกรงว่าถึงเวลาจะอ้างถึงความไม่พร้อมของพรรคที่ตั้งใหม่ ทำเงื่อนไขต่างๆ ตามที่กำหนดในคำสั่งคสช.ที่ 13/2561 ไม่ทัน เช่น การตั้งตัวแทนประจำจังหวัดในจังหวัดที่จะส่งผู้สมัคร

นายชูศักดิ์กล่าวว่า มีข้อสังเกตว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เคยให้สัมภาษณ์ว่าทันทีที่กฎหมายเลือกตั้งส.ส.มีผลใช้บังคับคือวันที่ 11 ธ.ค. จะปลดล็อกทันที แต่ดูจากไทม์ไลน์ที่แถลง ฟังได้ว่าจะปลดล็อกเมื่อมีพ.ร.ฎ. กำหนดการเลือกตั้งแล้ว หากเป็นเช่นนี้ คาดว่าคงจะมีพ.ร.ฎ.ได้ประมาณต้นเดือน ม.ค. 2562 แล้วจึงจะปลดล็อก ที่เกรงอยู่คือแม้จะมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว พรรคยังทำอะไรไม่ได้เพราะยังไม่ปลดล็อก จึงเสนอว่าหากอยากเห็นบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งที่สง่างาม ก็ควรปลดล็อกโดยเร็วทันทีที่กฎหมายเลือกตั้งมีผลใช้บังคับ

ซัดรัฐบาลอำนาจเต็มแถมมีม.44

นายชูศักดิ์กล่าวว่า จากไทม์ไลน์ทำให้เห็นข้อเสนอของฝ่ายต่างๆ ที่บอกว่ารัฐบาล คสช.ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ แต่เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม แต่นายกฯ และรัฐมนตรีที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ต้องระวังตนเอง คำนึงถึงมารยาททางการเมือง หลีกเลี่ยงการใช้เวลาราชการ ทรัพย์สินและสถานที่ราชการต้องไม่ถูกใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง นายกฯ ต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน วางตัวเป็นกลาง ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้คุณให้โทษแก่ผู้ใด หรือหวังผลทางการเมือง ตนอยากให้กกต.นำข้อเสนอเหล่านี้ไปพิจารณาด้วยเพราะกกต.คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบปัญหาโดยตรง

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตส.ส.นครพนม พรรค พท. กล่าวว่า การแถลงไทม์ไลน์ของนายวิษณุ ย้ำให้สังคมทราบว่าแม้จะมีพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง รัฐบาลนี้ก็ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ แต่เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม สามารถโยกย้ายข้าราชการและใช้งบประมาณได้ตามปกติ แต่ถ้าเป็นรัฐบาลรักษาการจะทำไม่ได้ นอกจากนี้ นายกฯ ซึ่งเป็นหัวหน้า คสช. ยังมีอำนาจตามมาตรา 44 อยู่ในมือจนกว่าการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ

แขวะ”ไทยแลนด์โอนลี่”

นายชวลิตกล่าวว่า ตนมีข้อสังเกตว่า อย่าแปลกใจว่าทำไมต่างชาติจึงสนใจที่จะมาสังเกตการณ์การเลือกตั้งของไทย เพราะกติกาการได้มาซึ่งอำนาจการบริหารประเทศของไทย พิลึกพิลั่นพิสดารพันลึกที่สุดในโลก จนกล่าวได้ว่าไทยแลนด์โอนลี่จริงๆ เช่น รัฐบาลมีอำนาจเต็มและมีอำนาจตามมาตรา 44 จนกว่าตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งเสร็จ ก็ไม่มีที่ไหนในโลกทำกัน ยิ่งกรณีการมีส.ว.250 คนอยู่ในมือของ คสช. สามารถยกมือเลือก นายกฯ ได้ ยิ่งไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกัน อีกทั้งเมื่อรัฐบาลติดใจในอำนาจ เริ่มมีความไม่เป็นกลาง กลายเปลี่ยนร่างจากผู้รักษากติกามาเป็นผู้เล่นเสียเอง แล้วจะเกิดความสุจริต เที่ยงธรรมในการเลือกตั้งได้อย่างไร ความเชื่อมั่นประเทศก็จะเสียหายตามมา

“หัวเขียง”โต้ข่าวเพื่อไทยแตก

นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีตส.ส. มหาสารคาม พรรค พท. กล่าวถึงกระแสข่าวจะยื่นลาออกจากพรรคว่า ไม่มีมูลความจริง เป็นธรรมชาติของทุกพรรคที่จะมีความเห็นต่างในเรื่องที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง แต่สุดท้ายต้องมีข้อยุติ ซึ่งเป็นความงดงามและเป็นเสน่ห์ในระบอบประชาธิปไตย พรรคประชุมใหญ่เลือกหัวหน้าและกก.บห. รวมถึงคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว ทุกคนที่ได้รับเลือกตั้งต่างทำหน้าที่อย่างเข้มข้นตามอำนาจหน้าที่

นายประยุทธ์กล่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคนั้น ตนยืนยันว่าคุณหญิงสุดารัตน์ มีความตั้งใจในการทำงานสูง มีความรู้ความสามารถในการทำงานในทุกด้าน พวกเราร่วมกันทำงานด้วยดีมาตลอด ไม่มีเหตุใดที่จะบั่นทอนอุดมการณ์ของสมาชิกพรรค ตรงกันข้าม ในห้วงเวลานี้เราต้องจับมือกันเดินหน้าเข้าสู่สนามเลือกตั้ง

“3 วันที่ผ่านมาในขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ อยู่ฝรั่งเศส ก็โทร.ประสานงานมอบหมายให้ผมช่วยทำงานด้านต่างๆ ทุกวัน ส่วนกระแสข่าวว่าผมกับแกนนำคนอื่นๆ จะย้ายพรรคหรือลาออกจากพรรคนั้น ยืนยันว่าไม่มีมูลความจริง เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง หวังทำลายพรรคพท. โดยตรง ผมเชื่อว่าการปล่อยข่าวทำนองนี้ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่นแน่นอน” นายประยุทธ์กล่าว

ไม่หนักใจ-ถูกจ้องดิสเครดิต

นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรค พท. กล่าวถึงข่าวลือความแตกแยกในพรรคว่า ไม่เป็นสาระ และเป็นเพียงการปล่อยข่าวโดยไม่ระบุชื่อผู้ให้สัมภาษณ์ จึงไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งบุคคลที่ตกเป็นข่าวว่าจะย้ายพรรค เช่น นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค และนายประยุทธ์ ก็ปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้จะทิ้งพรรคไปไหนและทั้งสองก็ยืนยันด้วยตนเองว่าไม่มีความขัดแย้งในพรรค ตนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยขณะนี้เป็นปึกแผ่นและการทำงานเป็นไปด้วยดี แม้มีบุคลากรส่วนหนึ่งย้ายพรรคก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ทำให้พรรคสะดุด เพราะยังมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถอีกมากที่ทำงานทดแทนได้

นายโภคินกล่าวว่า ส่วนการทำหน้าที่ของคุณหญิงสุดารัตน์ ในฐานะแม่ทัพในการเลือกตั้งนั้น ถือว่าเหมาะสม ได้รับการเลือกจากที่ประชุมพรรค จึงมั่นใจว่าคุณหญิงสุดารัตน์ จะนำทีมสู้ศึกเลือกตั้งได้อย่างดีและประสบความสำเร็จ ส่วนการปล่อยข่าวแตกแยกนั้น เป็นธรรมดาที่พรรคใหญ่จะถูกดิสเครดิต ในช่วงจะมีการเลือกตั้ง แต่ไม่น่าหนักใจสำหรับพรรค

ปิยบุตรเมินถกกกต. 22 พ.ย.นี้

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึงโรดแม็ปเลือกตั้งและปลดล็อกเมื่อประกาศพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งว่า ทั้งหมดเป็นโรดแม็ปที่กกต.วางไว้ ซึ่งกรอบเวลากำหนดวันเลือกตั้งภายใน 150 วัน อย่างเร็วคือวันที่ 24 ก.พ. 2562 ช้าสุดคือวันที่ 9 พ.ค. 2562 แต่มาตรา 44 ของคสช. ยังคงอยู่ หลักประกันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไรจึงยังไม่ชัด

เลขาธิการพรรค อนค. กล่าวว่า ส่วนวันที่ 22 พ.ย.นี้ ที่กกต.นัดประชุมชี้แจงร่วมกับพรรคนั้น ตนคงไม่ไป เนื่องจากมองว่าอาจใช้พรรคการเมืองเป็นเครื่องมือเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป โดยให้บางพรรคแสดงออกว่าดำเนินการตามข้อกำหนดตามคำสั่งคสช.วางเงื่อนไขไว้ไม่ทัน เช่น การหาสมาชิกเพื่อเตรียมไว้ทำไพรมารีโหวต ที่กำหนดให้ต้องมี 100 คนสำหรับจังหวัด และ 500 คนสำหรับสาขา รวมเกือบ 10,000 คนภายในไม่กี่วัน อย่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ใช้เวลาจัดตั้งเพียง 33 วัน กับพรรค อนค.ใช้เวลา 97 วัน หากพปชร. หาสมาชิกเกือบหลักหมื่นคนได้ในเวลาไม่กี่วัน จะเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก ถ้าทำได้ตนขอยินดีด้วย

นายปิยบุตรกล่าวว่า พรรคอนค. จะไม่ไปร่วมเป็นหางเครื่องให้คสช.เลื่อนเลือกตั้งเด็ดขาด ยืนยันว่าอุปสรรคทั้งหมดที่มีต่อพรรค ไม่ได้เกิดจากพรรค แต่เกิดจากคำสั่งของคสช.ตามมาตรา 44 ตอนนี้ทั้งประชาชน พรรค และกกต.ต่างพร้อมเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.2562 แล้ว ซึ่งการเลือกตั้งไม่ได้นำไปสู่ความขัดแย้ง แต่การเลื่อนเลือกตั้งต่างหากที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง

“โรม-โตโต้”ลงส.ส.อนาคตใหม่

เวลา 11.00 น. ที่อาคารไทยซัมมิท ชั้น 5 นายรังสิมันต์ โรม และนายปิยรัตน์ หรือ โตโต้ จงเทพ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งและสมาชิกพรรค อนค. เขียนใบสมัครเข้ารับการหยั่งเสียงหรือไพรมารีโหวตเพื่อเป็นตัวแทนลงสมัครส.ส.ของพรรค โดยนาย รังสิมันต์ ลงสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และนายปิยรัตน์ ลงสมัครส.ส.เขต 1 กาฬสินธุ์ มีสมาชิกกลุ่มคนอยากเลือกตั้งบางส่วนนำดอกไม้ให้กำลังใจทั้ง 2 คน

อนค.ลุยพื้นที่สีลม-พัฒนพงษ์

เมื่อเวลา 21.00 น. ที่ซอยพัฒน์พงษ์ ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค. นำทีมแกนนำพรรค ร่วมทำกิจกรรม “กรุงเทพขยับ ก้าวที่สอง ยามราตรีที่สีลม” พร้อมใส่เสื้อยืดสีดำ ใช้โลโก้พรรคเป็นสีรุ้ง ตามสัญลักษณ์ของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อพบประชาชน แนะนำพรรค และหาสมาชิก ตะลุยแหล่งท่องเที่ยวของวิถีชีวิตยามค่ำคืน และสถานที่ยอดฮิตของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ขบวนเริ่มจากซอยพัฒน์พงษ์ เดินไปจนถึงถนนสุรวงศ์ สุดที่ซอยธนิยะ ทั้งนี้ บรรยากาศคึกคัก ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยว นักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติ ประชาชนที่ประกอบอาชีพกลางคืน และประชาชนร่วมทักทาย ถ่ายภาพร่วมกับนายธนาธร ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบคอยติดตามอำนวยความสะดวกและบันทึกภาพ

ด้านนายธนาธร กล่าวถึงการก่อตั้งพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) ที่เสนอคนรุ่นใหม่เช่นเดียวกับอนค.ว่า เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค คำถามคือทำไมจึงต้องตั้งพรรคแบบนี้ คำตอบคือกติกาเปิดช่องให้ทำแบบนี้ และไม่เอื้อต่อการสร้างความเข้มแข็งให้พรรค มองพรรคแค่กลุ่มผลประโยชน์ ซึ่งปัญหาทั้งหมดตอกย้ำว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา ไม่ส่งเสริมต่อความเป็นสถาบันของพรรค

พท.ชัยภูมิตบเท้าซบภูมิใจไทย

ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) และนาย ทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค ให้การต้อนรับ 2 อดีตส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย คือ นายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ และน.ส.สุนทรี ชัยวิรัตนะ หลานสาวนายประสิทธิ์ ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท.

โดยนายประสิทธิ์กล่าวว่า สาเหตุการย้ายพรรคเพราะเกิดปัญหาการทับซ้อนส่งผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจน จึงรอไม่ไหว ต้องรีบหาพรรคสังกัดก่อนหมดเวลา โดยตนจะลงสมัครส.ส.เขต 1 ส่วนน.ส.สุนทรี จะลงสมัครส.ส.เขต 2 ยืนยันว่าการย้ายพรรคครั้งนี้ ตนและหลานสาวไม่ได้ขัดแย้งกับใคร

นายประสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้มีอดีตส.ส.เพื่อไทยหลายคนมาปรับทุกข์ในปัญหาการทับซ้อนพื้นที่ อาจจะย้ายมา ภท. แต่ยังไม่ทราบว่ามีใครบ้าง ส่วนที่อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ไหลไปอยู่พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)นั้น ปัญหาคือความไม่ชัดเจนในการส่งผู้สมัครส.ส.

“ภราดร-กรวีร์”ย้ายเข้าภท.แน่

ด้านนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวย้ายพรรคของนายภราดร และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.)ว่า ในทางการเมืองไม่ควรพูดอะไรล่วงหน้า ซึ่งการจะย้ายพรรคมีกำหนดเวลาชัดเจนว่า ต้องสมัครเป็นสมาชิกไม่เกินวันที่ 26 พ.ย.นี้ ตนขอไม่แสดงความเห็น ที่จะไปกดดันการตัดสินใจของใคร

นายอนุทินกล่าวถึงบางพรรคไปตั้งสาขาพรรคว่า ภท.ไม่จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ใดๆ เพราะทำงานการเมืองตรงไปตรงมา มีความเป็นปึกแผ่น และมีมุ้งเดียวคือมุ้งภูมิใจไทย โดยไม่กังวลเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ไกร ดาบธรรม อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรครวมชาติพัฒนา ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท. เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในวันที่ 16 พ.ย.นี้ นายภราดร และนายกรวีร์ จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภท.อย่างแน่นอน

พปชร.-ปชป.แห่ยินดี”รปช.”

เมื่อเวลา 09.09 น. ที่อาคารพีเคแอล ซอยรัชดาภิเษก 26 กรุงเทพฯ พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) ทำบุญเปิดสำนักงานใหญ่พรรค โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างคึกคัก อาทิ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค ทั้งนี้ มีตัวแทนพรรคต่างๆ เข้าร่วมอวยพร อาทิ พรรคชาติพัฒนา(ชพน.) นำโดยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ส่วนพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำโดยนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค โดย นายวิเชียร ระบุว่า มาเป็นตัวแทนนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค

จากนั้นเวลา 10.30 น. ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นำโดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ผอ.พรรค และนายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรค ในฐานะอดีตแกนนำกปปส. เข้าร่วมอวยพร โดยนายสุเทพ ได้พูดกระเซ้านายองอาจและนายถาวรว่า รู้ว่ากระเช้าดอกไม้ของแต่ละคนมาจากร้านเดียวกัน จึงมั่นใจว่าเบอร์ 1,2,3 จะไม่แตกแยก ดีใจที่ประชาธิปัตย์เริ่มนับหนึ่ง ด้วยการเดินหน้าทำไพรมารีเพื่อทำให้พรรคเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

“หม่อมเต่า”ไม่หวั่นถูกต้าน

ต่อมาเวลา 10.00 น. ม.ร.ว.จัตุมงคล ให้สัมภาษณ์ว่า จากการเดินหาสมาชิกพรรค มีผลตอบรับด้วยดี และในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ จะมีการประชุมสมัชชาพรรค เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกลงคะแนนเลือกผู้บริหารด้วยตัวเองผ่านระบบไอที และเมื่อมีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครแล้ว จะเปิดให้สมาชิกลงคะแนน เพื่อเลือกผู้สมัครของตัวเองตามระบบไพรมารีโหวต

เมื่อถามว่ากังวลหรือหวั่นไหวกับการที่พรรคเดินหาสมาชิกแล้วถูกต่อต้านหรือไม่ ม.ร.ว.จัตุมงคลกล่าวว่า ไม่หวั่นไหวกับการที่มีผู้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการคืนนกหวีดหรือกรณีอื่นๆ อย่าคิดว่าจะเป็นความเห็นของฐานเสียงของกปปส.ทั้งหมด เนื่องจากอาจจะเป็นเรื่องปลาตัวเดียว ไม่ใช่ปลาทั้งหมด

“เทือก”ชี้แค่หวังสร้างภาพเสียหาย

ด้านนายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ว่า พอใจกับผลการเดินคารวะแผ่นดินตลอด 14 วัน เนื่องจากได้รับการตอบรับจากประชาชน แม้จะมีเรื่องตื่นเต้นทุกวัน ก็ไม่สนใจว่าจะมีใครมาก่อกวนหรือสร้างภาพให้เสียหาย เพราะเห็นว่ามีการเตรียมการล่วงหน้า เช่น ที่ตลาดบ่อบัว จ.ฉะเชิงเทรา มีคนหนึ่งนำนกหวีดมาวางบนถุงปุ๋ยเอามาคืน ซึ่งตนเข้าใจดีว่าต้องการเสียดสีว่าตนเคยเดินรับบริจาคเงินในช่วงปี 2557 แต่ตนไม่หวั่นไหว รวมถึงกรณีนายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องให้ตนและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคหยุดดำเนินกิจกรรมการเมือง เนื่องจากประชาชนไม่เอาด้วย ถือเป็นความเห็นของนายอาทิตย์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพ ตนน้อมรับคำวิจารณ์ แต่จะยังเดินหน้าทำงานการเมืองต่อไป เพราะไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่ทำเพื่อบ้านเมือง

นายสุเทพกล่าวว่า จากนี้จะลงพื้นที่คารวะแผ่นดินในภาคใต้ ซึ่งไม่กลัวว่าจะเกิดกระแสต่อต้านเหมือนที่เกิดขึ้นในพื้นที่อื่น เพราะการเดินของตนเปรียบเทียบเหมือนพระธุดงค์ จึงมั่นใจว่าการเดินคารวะแผ่นดินจะไม่นำไปสู่ความวุ่นวาย จนเป็นสาเหตุให้เลื่อนการเลือกตั้งเหมือนที่มีการตั้งข้อสังเกตอยู่ขณะนี้

แฉกลยุทธ์”แม้ว”ร่วมมืออนค.-ปช.

นายสุเทพกล่าวถึงไทม์ไลน์ที่รัฐบาลกำหนดจะได้รัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้งประมาณ 4 เดือนครึ่งว่า ค่อนข้างช้า เพราะรัฐบาลปกติในสมัยที่ตนเป็นผู้จัดการรัฐบาลใช้เวลา 2 เดือนเศษ แต่การเมืองขณะนี้มีความซับซ้อนมาก และมีพรรคจำนวนมาก จึงประเมินไม่ได้ว่าคะแนนเสียงจะเป็นอย่างไร ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่มีพรรคน้อย ตกลงกันได้ง่าย อีกทั้งยังเห็นว่าพรรคเพื่อไทยขณะนี้มีกลยุทธ์แตกสาขา ซึ่งตนเคยพูดแล้วว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะใช้ยุทธวิธีแตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย ซึ่งประมาทไม่ได้ เพราะแบงก์ร้อยเมื่อรวมกันก็เป็นจำนวนมากและอาจเป็นตามเป้าที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าจะได้เกิน 300 เสียง ด้วยการให้พรรคอนาคตใหม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปเน้นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่

นายสุเทพกล่าวว่า พรรคประชาชาติ(ปช.) ของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เน้นพื้นที่ภาคใต้ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อาจมีกลุ่มเป้าหมายไปอีกกลุ่มหนึ่ง เชื่อว่าเมื่อแยกกันไปแล้ว สุดท้ายจะมารวมกัน ส่วนพรรครปช. ไม่จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ เพราะจะทำงานอย่างตรงไปตรงมาให้ประชาชนเห็นว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องซับซ้อน

หยั่งเสียงหัวหน้าปชป.ราบรื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 9 พ.ย. เป็นวันสุดท้ายที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดให้สมาชิกลงคะแนนหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ที่หน่วยลงคะแนนของพรรคในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคเหนือ ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. โดยในกรุงเทพฯ มีหน่วยลงคะแนน 13 แห่ง ภาคกลาง 68 แห่ง และภาคเหนือ 82 แห่ง สำหรับหน่วยลงคะแนน ที่อาคาร 100 ปี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ภายในที่ทำการพรรค มีสมาชิกพรรคมารอใช้สิทธิ์ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 07.45 น. กระทั่งเวลา 08.00 น. เปิดให้สมาชิกเข้าคูหาลงคะแนน โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค มาร่วมใช้สิทธิ์ออกเสียงด้วย

เวลา 10.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้มาลงคะแนนหยั่งเสียง โดยลงคะแนนให้กับตนเองและปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ

นายธนา ชีรวินิจ อดีตส.ส.กทม. ในฐานะกกต.พรรค เปิดเผยว่า การลงคะแนนที่หน่วยในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคเหนือ เป็นไปอย่างราบรื่น ยกเว้นในพื้นที่ อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีฝนตกหนักสะสมตั้งแต่คืนวันที่ 8 พ.ย. เกิดน้ำท่วมหนักจึงต้องย้ายสถานที่ลงคะแนน ซึ่งกกต.พรรคเห็นชอบให้ดำเนินการได้

“จุรินทร์”มั่นใจไม่ทำพรรคสะดุด

นายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์ว่า คาดว่าอาจจะทราบผลการหยั่งเสียงได้หลังจากเวลา 19.00 น. แต่ขึ้นอยู่กับรายละเอียดอื่นๆ ด้วย เมื่อกกต.พรรครู้ผลอย่างไม่เป็นทางการแล้วจะรายงานให้ตนทราบโดยเร็วตามข้อบังคับพรรค เชื่อว่าทุกอย่างจะราบรื่นและเข้าสู่การประชุมใหญ่พรรคในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ที่เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ซึ่งตนไม่คิดว่าจะมีปัญหาใดอีก แม้ที่ผ่านมาอาจมีประเด็นรายละเอียดบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเทคนิคระบบไอที ส่วนการลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรคโดยที่ประชุมใหญ่นั้น อยู่ที่องค์ประชุมจะเสนอกี่ชื่อ โดยต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งขององค์ประชุมใหญ่ ซึ่งผู้สมัครทั้ง 3 หมายเลข อยู่ในฐานะที่ได้รับการเสนอชื่อได้ จากนั้นจะเข้าสู่การลงคะแนน

เมื่อถามว่าหากการลงคะแนนมีปัญหาความไม่โปร่งใส จะดำเนินการอย่างไร มีการลงโทษหรือไม่ รักษาการหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวว่า ขอให้สอบถาม กกต.พรรค แต่มั่นใจว่าผลการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคจะไม่ส่งผลให้พรรคเดินหน้าต่อไปไม่ได้

แจงที่ประชุมใหญ่เคาะหน.

เวลา 14.00 น. นายชุมพล กาญจนะ ประธานกกต.พรรค กล่าวว่า การหยั่งเสียงภาพรวมทั่วประเทศราบรื่น มีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวนมาก มีเพียงที่ อ.บางสะพาน ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมจึงย้ายหน่วยลงคะแนนไปที่อื่น ส่วนหน่วยลงคะแนนที่พรรค มีคนใช้สิทธิ์บางตาเพราะคนใช้สิทธิ์ทางแอพฯ มากขึ้น ขณะที่การยกเลิกการลงคะแนนผ่านระบบไอโอเอส ยืนยันว่าไม่มีปัญหาเพราะได้แจ้งกับสมาชิกแล้ว มั่นใจว่าคะแนนที่ออกมาจะเป็นฉันทามติของสมาชิกพรรคอย่างแท้จริง ส่วนข้อร้องเรียนต่างๆ ก็เป็นเพียงข้อสังเกตที่แจ้งเข้ามา

เมื่อถามว่าผู้ที่ได้รับคะแนนหยั่งเสียงอันดับหนึ่ง เป็นการยืนยันว่าได้นั่งหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า กกต.พรรคจะทำหน้าที่แค่ประกาศผล ส่วนผู้จะได้เป็นหัวหน้าพรรค ขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่วันที่ 11 พ.ย.นี้

“วรงค์”ลั่นถ้าแพ้-ขอลงระบบเขต

ที่ทำการสาขาพรรคปชป. อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเปิดให้สมาชิกพรรคมาลงคะแนนการหยั่งเสียงนั้น บรรยากาศไม่คึกคักมากนัก มี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัครหมายเลข 3 มาสังเกตการณ์ โดย นพ.วรงค์เปิดเผยว่า วันนี้มีการลงคะแนนหยั่งเสียงพร้อมกัน 230 จุด กรุงเทพฯ ภาคกลางและภาคเหนือ เมื่อได้ผลคะแนน กกต.พรรคจะนำรายชื่อผู้สมัครหัวหน้าพรรค เข้าที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่รับรอง ยืนยันว่าถ้าตนไม่ได้ที่ 1 จะขอถอนตัวจากการสมัครหัวหน้าพรรค ด้วยความเคารพเสียงของสมาชิกทั่วประเทศ และเพื่อความสบายใจของที่ประชุมใหญ่ ส่วนอนาคตนั้น ถ้าตนแพ้การหยั่งเสียง ตนจะลงเลือกตั้งในระบบเขตเหมือนเดิม แต่ต้องดูความเห็นของคณะกรรมการคนอื่นด้วย

เจอร้องเรียนอื้อ-เลื่อนเปิดผลคะแนน

เวลา 18.20 น. นายชุมพล แถลงว่า เนื่องจากมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการลงคะแนนมาจากหลายภาค ทำให้กกต.พรรคต้องพิจารณาตรงนี้ และต้องสอบสวนข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย ถ้าพบว่ามีหลักฐานชัดเจนว่ามีการทุจริตจริง จะลบคะแนนที่หน่วยนั้นออกมา ดังนั้น กกต.พรรคจะเชิญ ผู้สมัครทั้ง 3 คน มาหารือในวันที่ 10 พ.ย. เวลา 09.00 น. เพื่อตกลงกันว่าจะยอมรับในคะแนนที่จะเปิดหรือไม่ หากยอมรับ ไม่มีปัญหาก็จะใช้กุญแจ 5 ดอกเปิดกล่องนับคะแนนพร้อมกัน ซึ่งจะรู้ผลทันที

สนช.ไฟเขียวผ่านกม.ประชารัฐ

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.การจัดประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม สาระสำคัญคือ กำหนดคำนิยามคำว่า “ประชารัฐสวัสดิการ” ให้หมายถึง สวัสดิการที่จัดขึ้นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มศักยภาพให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีความเป็นอยู่ดีขึ้น และตั้งคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม มีรมว.คลัง เป็นประธาน พร้อมทั้งให้จัดตั้งกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม มีวัตถุประสงค์ 1.การให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 2.การสนับสนุนโครงการที่ให้บริการทางสังคมที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานของเอกชน มูลนิธิ หรือองค์กรสาธารณประโยชน์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในภาวะลำบากทุกประเภท และ 3.การดำเนินงานและบริหารกองทุนตามที่คณะกรรมการให้ความเห็นชอบ

จากนั้น ที่ประชุมสนช.มีมติเอกฉันท์ 164 คะแนน สมควรให้ประกาศใช้ร่างพ.ร.บ.การจัดประชารัฐฯเป็นกฎหมาย

ป.ป.ช.รุดถก”วิษณุ”ปมยื่นบัญชี

กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกประกาศเรื่องกำหนดตำแหน่งผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 พ.ศ.2561 ที่กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรสทั้งที่จดทะเบียนและมิได้จดทะเบียน และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และเปิดเผยผลการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของบุคคล ซึ่งก่อให้เกิดการคัดค้านจากมหาวิทยาลัยอย่างกว้างขวางเกรงว่ากรรมการสภาจากคนนอกจะลาออกซึ่งจะทำให้เกิดสุญญากาศนั้น

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาฯ ป.ป.ช. นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผอ.สำนักกฎหมายป.ป.ช.และคณะเข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรณีปัญหาข้อท้วงติงจากหลายฝ่ายที่มีต่อประกาศ ป.ป.ช. ดังกล่าว หลังร่วมหารือเป็นเวลา 2 ชั่วโมง นายนิวัติไชย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากอยู่ระหว่างรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย และการหารือครั้งนี้เป็นการหารือทั่วไปในข้อกฎหมาย

นายนิวัติไชยกล่าวว่า นายวิษณุได้สอบถามถึงการกำหนดตำแหน่งในประกาศของ ป.ป.ช.จะมีการแก้ไขปัญหาอย่างไร ส่วนใหญ่เป็นประเด็นข้อกฎหมาย เช่น การยื่นภายในกำหนดกี่วัน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งใดบ้างที่ต้องยื่น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากต้องนำความเห็นต่างๆ เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้พิจารณา คาดว่าจะดำเนินการแก้ปัญหาได้ทันก่อน 2 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันที่ประกาศดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้

สำหรับประเด็นประกาศ ป.ป.ช.ครอบคลุมถึงสมเด็จพระสังฆราช ที่ทรงดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยนั้น นายนิวัติไชยกล่าวว่า เจตนารมณ์ของประกาศ ป.ป.ช. ฉบับนี้ คือการบังคับใช้กับฆราวาส ขณะนี้จึงยังไม่มีความเห็นที่ชัดเจนว่าพระชั้นผู้ใหญ่ที่มาดำรงตำแหน่งที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินจะต้องยื่นด้วยหรือไม่ เพราะพระชั้นผู้ใหญ่ใช้กฎหมายแตกต่างกัน ต้องรอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. หารือก่อน ส่วนความเป็น ไปได้ที่จะใช้ ม.44 แก้ปัญหาหรือไม่นั้น อยู่ที่คสช.จะพิจารณา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน