ประธาน กกต. ติวเข้ม ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ย้ำ ทำงานไร้การครอบงำ เที่ยงธรรม และกล้าหาญ ยึดมาตรฐานจริยธรรมเป็นเกราะ-ความสามัคคีเป็นคาถา

กกต. – เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 พ.ย. ที่อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายการสัมมนาเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด และกรุงเทพมหานคร โดยมีผู้ตรวจการเลือกตั้งจากกรุงเทพมหานคร และ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ที่กกต.ได้แต่งตั้งไปแล้วก่อนหน้านี้ รวม 597 คนเข้าร่วมสัมมนา โดยนายอิทธิพร กล่าวตอนหนึ่งว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผู้ตรวจการเลือกตั้ง และเป็นครั้งแรกของ กกต.เช่นเดียวกัน เพราะต่างก็ใหม่กันทั้งคู่ ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 28 กำหนดให้การเลือก ส.ส. เลือก ส.ว. แต่ละครั้งให้กกต.จัดให้มีผู้ตรวจการการเลือกตั้ง

เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ทำการเลือกตั้ง ตรวจสอบการกระทำที่ผิดกฎหมายของการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือการกระทำใดที่จะเป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ขอให้แนวทางการปฏิบัติหน้าที่ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีรูปแบบที่เปลี่ยนไปมาก กกต.จึงประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความเข้มข้นโดยเฉพาะที่หน่วยเลือกตั้ง

ซึ่งจะมีผู้มีสิทธิในหน่วยเลือกตั้งเพิ่มขึ้น ขณะที่กรรมการประจำหน่วยลดลง จึงอยากให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งได้เป็นที่ปรึกษา และสร้างขวัญกำลังใจกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง และควรทำความรู้จักเครือข่าย กกต. อาทิ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนา ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งตำบล (ศส.ปชต.) หมู่บ้านไม่ขายเสียง ซึ่งจะเป็นส่วนสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งอีกส่วนหนึ่ง

นอกจากนั้นผู้ตรวจการเลือกตั้งหลายท่านมีประสบการณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งมาแล้ว ดังนั้นจึงขอให้ศึกษาทำความเข้าใจกฎหมายและระเบียบใหม่ๆ ให้มากขึ้น ขณะเดียวกันอยากให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งยึดถือมาตรฐานจริยธรรมเดียวกันกับกกต. โดยการใช้อำนาจโดยสุจริต เที่ยงธรรม มีความกล้าหาญ ไม่อยู่ภายใต้การครอบงำ ปราศจากอคติ เพื่อเป็นเกราะคุ้มภัยในการทำหน้าที่ของเรา อย่างไรก็ตามกกต. ผู้บริหารสำนักงานกกต. มีความยินดี และพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจการเลือกตั้งทุกท่าน

อยากให้ข้อคิดผู้ตรวจการเลือกตั้งจังหวัดต่างๆ ทำงานร่วมกันอย่างสามัคคี ขอให้ยึดถือสามัคคีคือพลังเป็นคาถาของเรา ขอให้ทุกท่านใช้ประโยชน์จากความหลากหลายของประสบการณ์มาช่วยเสริมกันและกัน นำประสบการณ์ของแต่ละคนมาหล่อหลอมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และในระยะเวลา 5 ปีที่จะมีชื่อในบัญชีเลือกตั้งนั้น อยากให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งทำความคุ้นเคยกับพื้นที่อื่นๆ นอกจากจังหวัดของตน

ซึ่งจะเป็นเรื่องที่สำคัญหากถูกจับฉลากไปอยู่ในพื้นที่อื่น ซึ่งในวันที่ 19 พ.ย. นี้ก็จะจับฉลากแล้ว ทั้งนี้การเลือก ส.ว.จะเป็นบทบทสอบบทที่หนึ่ง และการเลือก ส.ส.จะเป็นบททดสอบที่สองของการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเราจะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ประธาน กกต.กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน