หญิงหน่อย รู้ทัน! ใช้ ม.44 เลื่อนแบ่งเขตเลือกตั้ง ดิ้นหาวิธี หวนคืนอำนาจอย่างมั่นใจ

หญิงหน่อย ม.44 / เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 พ.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะ ประชาชนชาวขอนแก่น ต่อเนื่องตลอดตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีการพบปะพูดคุยกับชาวขอนแก่นที่เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคตลอดทั้งวันในวันนี้

ขณะเดียวกันพระครูสมุห์ทองล้วน สิริจนโท รองเจ้าอาวาสวัดศรีพิมล ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ได้เดินทางมาเพื่อนำเอาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) มามอบให้ คุณหญิงสุดารัตน์ และบรรดาผูที่จะลงสมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ทุกคนเพื่ออวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จและได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เข้ามาบริหารประเทศอีกครั้ง

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลและ คสช.ใช้ ม.44 แบ่งเขตการเลือกตั้ง โดยส่วนตัวมองว่าเป็นบันไดอีกขั้นหนึ่ง หรือเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ผู้มีอำนาจต้องการเข้าสู่อำนาจอีกครั้งหลังการเลือกตั้งได้ เพราะจริงๆแล้ว เขตเลือกตั้งก็แบ่งเรียบร้อยแล้ว รอเพียง กกต.ลงนาม

แต่ท้ายที่สุดก็มีการประกาศใช้ ม.44 ขึ้นมา จึงอยากเตือนว่าการทำอะไรที่ฝืนหลักความจริง ฝืนความรู้สึกของประชาชน และฝืนกฎหมาย คือการมีความผิดตามกฏหมาย ซึ่งมันไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะเป็นการกระทำที่ทำในช่วงที่ประเทศได้ประกาศไปทั่วโลกว่าเรากำลังจะคืนประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศ ดังนั้นวิธีการนี้ก็คือวิธีการสร้างความมั่นใจให้กับผู้มีอำนาจเองว่าตัวเองจะสามารถกลับสู่อำนาจได้อีกครั้ง

สิ่งที่น่าห่วงตอนนี้คือ ทำอย่างไรจะสามารรถทำให้การเลือกตั้งเกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรมจริง ๆ ไม่ใช่การเลือกตั้งที่ใช้อำนาจรัฐมากที่สุด หรือใช้เงินซื้อเสียงมากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่องค์กรกลางอย่าง กกต.จะตั้งปฏิบัติหน้าที่อย่างแข้มแข็ง และจะต้องพิสูจน์ให้ประชาชนทั่วไปได้มีความมั่นใจในผลของการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งมันจะส่งผลแน่นอนต่อเศรษฐกิจของประเทศ

หากผลการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ปล่อยให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และใช้อำนาจรัฐมาก ๆ จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในอนาคต เพราะนานาชาติหรือสังคมโลกจะไม่ยอมรับประเทศไทย และไม่กล้าเข้ามาลงทุน

ขณะที่นายโภคิน พลกุล กล่าวว่า การที่ผู้มีอำนาจประกาศใช้ ม.44 ออกมาในขณะนี้คือประเด็นมีอยู่ว่ารัฐธรรมนุญฉบับนี้กำหนดไว้ว่าการใช้ ม.44 ถือว่าชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วยรัฐธรรมนูญทั้งหมด สรุปแม้จะใช้ไม่ชอบผิดหลักนิติธรรม ผิดหลักยุติธรรมอะไรก็ตามให้ถือว่าใช้ได้หมด

ดังนั้นก็เพื่อนำมาใช้ตอบโจทย์อันนี้เท่านั้นเอง คือไม่ว่าฉันจะทำผิดอะไรก็ตามแต่กฎหมายที่มารับรองฉันฉบับนี้คือให้ถูก ประเด็นแบบนี้ถามว่าผู้คนเขารับได้ไหม มันฝืนจิตใจเขานะ ซึ่งความจริงไม่ว่าใครก็ตามต้องยึดความที่ถูกในความเป็นจริง และถูกกฎหมายในความเป็นสากล ไม่ใช่ถูกเพราะผู้มีอำนาจบอกว่าสิ่งที่ทำผิดนี้ให้บอกว่าถูก เท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน