บิ๊กตู่เผย รัฐบาลมีปัญหาที่ต้องแก้ กว่า 4ล้านเรื่อง! ลั่นโกหกไม่เป็น แต่แค่บางครั้ง ก็พูดไม่เข้าหู!

เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 22 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการกทม. กลุ่มกรุงเทพตะวันออก เขตบางกะปิ สะพานสูง คลองสามวา มีนบุรี พร้อมด้วยพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.

จุดแรก นายกฯ เดินทางมายังโรงเรียนวัดศรีบุญเรือง เขตบางกะปิ ยืนเข้าแถวเคารพธงชาติร่วมกับนักเรียน ผู้ปกครองและประชาชน ก่อนมอบหมวกกันน็อกให้ตัวแทนนักเรียน เพื่อรณรงค์สร้างวินัยจราจรและความปลอดภัยบนท้องถนน

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ตนมาเยี่ยมเยียน ไม่ได้มาด้วยเหตุผลอื่นใด แต่มาดูปัญหาอุปสรรคการทำงานว่าควรปรับแก้ตรงไหนบ้าง ซึ่งนายกฯไปทุกจังหวัด เพื่อดูแลคนไทย

และประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ต้องดูแลด้านสาธารณสุขและด้านอื่นๆ มีการเพิ่มงบประมาณตามความจำเป็น เมื่อมีคนสูงวัยก็ต้องมีภาระดูแล รัฐบาลมองตรงนี้ ส่วนหนึ่งต้องดูแลคนในครอบครัวที่เป็นวัยทำงานให้มีรายได้สูงขึ้น หลายประเทศก็ทำแบบนี้ ไม่ได้แปลกประหลาด เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่ทำกัน พอมาทำวันนี้อาจดูแปลกๆ ซึ่งทั้งหมดดูกลไกงบประมาณเป็นหลัก มีสัดส่วนอยู่ ไม่ได้มุ่งหวังอย่างอื่น

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราต้องไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างที่ผ่านมา จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ถ้าเกิดขึ้น โอกาสต่างๆจะหายวับไปกับตา ประเทศไทยช่วงที่ผ่านมามีความสุข คนไทยไปไหนได้ โดยอยู่ในกรอบกฎหมาย รัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังจะทำร้าย แค่จัดระเบียบให้เรียบร้อย ไม่ต้องการให้คนเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลจะทำอะไร ต้องคิดละเอียดรอบคอบ ระมัดระวังในข้อกฎหมาย และรายได้ที่มี รัฐบาลต้องนำมาลงทุนในด้านต่างๆด้วย ยืนยันว่ารัฐบาลทำเต็มที่เพื่อให้คนไทยมีความสุขที่ดีขึ้น แต่ต้องอาศัยเวลา ตอนนี้เพิ่งจะสตาร์ท อยากให้ทุกคนเข้าใจ ทำไมรัฐบาลจะไม่อยากให้พวกเรามีสตางค์ แต่มันต้องทำให้ถูกต้อง

“เงินที่ให้ 500 บาท 1,000 บาท เพื่อลดภาระให้ประชาชน ซื้อของใช้ในครัวเรือน กะปิ น้ำปลา ร้านไหนที่มีเครื่องอ่านบัตรสวัสดิการก็ซื้อได้หมด อย่าให้ใครไปบิดเบือนว่าไปซื้อของคนรวย เอื้อประโยชน์คนรวย ของที่เป็นขนาดใหญ่เอกชนเป็นผู้ผลิต รัฐบาลก็ไปขอความร่วมมือ ไม่ได้จะเอาไปให้เขา ฉะนั้นใครมีอะไรจะขายก็เสนอมา แต่ต้องอยู่ในราคาที่เหมาะสม อยากให้เข้าใจตรงนี้ รัฐบาลอำนวยความสะดวกกลไกการค้าเสรี ทำให้โปร่งใส ราคาต่างๆต้องถูกต้อง” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามทำให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน เราอย่ารังเกียจกันไม่ว่าคนรวยมากรวยน้อย บางคนออกมาตำหนิทั้งที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่เขียนผ่านโซเชี่ยล ติงโน่นติงนี่ เขาเรียกว่าช่างติ อย่างไรก็ตาม

นายกฯต้องมีคุณธรรม ต้องรู้ว่าอะไรดีไม่ดี ทำในสิ่งที่ดี ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี ทุกคนต้องมีคุณธรรม ขอให้หาสิ่งดีๆที่รัฐบาลนี้ทำมาเป็นร้อยเรื่อง

แต่ใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องทำต่อ ถ้าเขาไม่ยึดถือยุทธศาสตร์ชาติ ก็จะกลับไปที่เดิม วันนี้อย่าให้ร้ายกันไปมา ไม่เป็นประโยชน์ ต้องแสดงวิสัยทัศน์ว่าเราจะทำอะไรเพื่อใครอย่างไร นั่นคือเป้าหมายรัฐบาล ก็ทำไว้ให้แล้ว

“ผมพูดไม่ได้มาโกหกเพราะผมโกหกไม่ได้ แต่บางทีอาจพูดไม่เข้าหูบ้าง เขาบอกว่าทำงานตรงนี้ต้องอดทน ผมก็อดทนที่สุด ขออภัยด้วยแล้วกัน

งานที่ทำวันนี้จะสานต่อในวันหน้า รัฐบาลที่เข้ามาใครจะเป็นต่อก็ยังไม่รู้ ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้ง รัฐบาลที่เข้ามาจะเอามาทำเอาไปดัดแปลงก็ว่าไป แต่ถ้าเราไม่เริ่มไว้ ก็กลับไปที่เดิม ดังนั้น 20 ปีข้างหน้าเราจะต้องพ้นรายได้กับดักปานกลาง เราต้องสูงขึ้น ไม่ใช่เตี้ยอยู่อย่างนี้ ต้องเสริมฐานรากให้เข้มแข็งและดันขึ้นสู่ที่สูง ถ้าทุกคนขออย่างเดียวแต่ไม่พูดถึงว่ารัฐบาลจะได้เงินมาจากตรงไหน มันก็ไม่ได้ รัฐบาลได้เงินมาจากภาษีของประชาชน ซึ่งไม่พอกับการจ่าย ก็ต้องเอางบกลางมาใช้” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้รับเรื่องร้องกว่า 4 ล้านเรื่อง ก็พยายามแก้ ถ้าไม่มายืนตรงนี้ กฎหมายบางฉบับ อย่าเพียงชาตินี้ ชาติหน้าก็แก้ไม่ได้

งานที่รัฐบาลทำ ขอให้ช่วยกันพูดต่อ อย่ามองเป็นเรื่องการเมืองทั้งหมด อย่าปิดโทรทัศน์หนี ขอให้ฟังกันบ้าง แม้จะเข้าใจยาก ก็ขอให้ฟัง อย่างน้อยจะได้รู้ว่าพูดอะไรไป ไม่งั้นจะติดเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่

จากนั้น นายกฯ สักการะพระประธาน พระพุทธศรีสุโขทัย(หลวงปู่สุโขทัย) และนมัสการพระครูสุนทรวีรวงศ์ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง โดยเจ้าอาวาสมอบวัตถุมงคลเป็นพระพุทธศรีสุโขทัย รุ่นยกช่อฟ้าอุโบสถพุทธามังคลาภิเษก ปี 2556 ให้ จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนโอท็อปของเขตบางกะปิ และลงเรือไทยธนาคม 2 ไปยังท่าเรือศูนย์การค้าเดอะพาซิโอ สาขารามคำแหง

ต่อมาเวลา 10.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ เดินทางมายังมัสยิดกมาลุลอิสลาม ซอยประชาร่วมใจ 48 เขตคลองสามวา โดยนายวินัย สะมะอุน อิหม่ามประจำมัสยิด นำผู้นำศาสนาและเด็กนักเรียนต้อนรับ พร้อมมอบซาราบั่น หรือผ้าโพกศีรษะของชายชาวมุสลิมสีเหลืองให้นายกฯ และอ่านดูอาห์ขอพรให้นายกฯ และคณะ มีความสุขความเจริญ คิดหวังสิ่งใดสมความปราถนา และขอให้พล.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ไปอีกนานแสนนาน เป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไป

จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า การแก้ปัญหาภาคใต้ เราไม่แก้ด้วยความรุนแรง แต่แก้ด้วยความยุติธรรมตามกฎหมายปกติ ส่วนกฎหมายพิเศษที่มีก็ไม่ได้มุ่งหวังทำร้ายใคร ตอนนี้รัฐบาลทำทุกอย่าง ซึ่ง 4 ปีผ่านมาสงบสุข ไม่มีประท้วง วันนี้กรุงเทพฯ คนมาเที่ยวเป็นอันดับหนึ่ง เราต้องสร้างรอยยิ้มให้มาก เป็นเจ้าบ้านที่ดี ปีหน้าเราจะเป็นประธานอาเซียน รัฐบาลเลือกตั้งมาจะได้ใครไม่รู้ แต่ตนได้เตรียมประชุมอาเซียน เตรียมเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ส่วนการกระจายอำนาจ ตอนนี้มีการเลือกตั้งหมดแล้วทั้งเทศบาล อบจ. อบต. และต้องทำให้ดีขึ้นไปอีก

นายกฯ กล่าวว่า ทุกศาสนาสอนให้คนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ อย่าเพิ่งเบื่อนายกฯ อยากให้ทุกคนคิดตามในสิ่งที่นายกฯพูด การบริหารราชการแผ่นดิน ใครเข้ามาต้องอธิบายได้อย่างตน สิ่งที่ตนพูดขอให้คิดตาม ถ้าไม่คิดตาม ฟังดูก็อาจรู้สึกน่ารำคาญ นายกฯอาจพูดล่วงเกินไปบ้าง อย่าโกรธกัน

พร้อมกันนี้นายกฯ หันไปถามเด็กที่พูดคุยกัน โดยบอกว่าให้หันมาฟัง คุยอะไรกัน อุตส่าห์ยืนให้เห็นหน้า ตนเป็นทหารเก่าเคยเป็นครูฝึกมาก่อน อาจพูดเสียงดังไปบ้าง ดุแต่ใจดี แต่คนที่ประดิษฐ์ประดอยคำพูด ทำได้หรือเปล่าไม่รู้ แต่ตนไม่ประดิษฐ์ประดอยพรที่ให้กับตน ก็ขอให้กลับคืนสู่ทุกคนร้อยเท่าพันทวี

ต่อจากนั้นนายกฯ ถ่ายภาพร่วมกับผู้นำศาสนาและเด็กนักเรียน ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการและผลิตภัณฑ์จากโครงการไทยนิยมยั่งยืน และสินค้าเกษตรของดีเขตคลองสามวา พร้อมร่วมแสดงลิเกเรียบ ด้วยการตีกลองรำมะนา ก่อนให้อาหารปลาที่ท่าน้ำมัสยิด เยี่ยมชมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนชุมชนกมาลุลอิสลาม โดยมีเด็กนักเรียนมอบดอกมะลิให้ด้วย


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน