เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ว่า ตนเห็นว่าท่าทีของทุกฝ่ายมีท่าทีไปในเชิงบวกที่จะรับและอยากให้เกิดความปรองดอง เพราะหากสร้างความสามัคคีปรองดองได้ ประเทศชาติก็มีความสงบทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงการทำมาหากินของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศก็จะดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ดีลไปยังกลุ่มการเมือง พรรคการเมือง ในเรื่องการร่วมสร้างความปรองดองอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ได้ดีลกับใคร ตอนนี้ขอให้รอรายชื่อของคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองนี้ออกมาชัดเจนเสียก่อน แล้วจึงจะเริ่มดำเนินการพูดคุย ซึ่งขั้นตอนต่างๆในเรื่องนี้ตนได้ชี้แจงไปหมดแล้ว โดยทางกรรมการจะเป็นผู้ไปรับฟังข้อมูลความคิดเห็นจากกลุ่มการเมือง พรรคการเมืองเอง ซึ่งเราพร้อมเปิดให้ทุกพรรค ทุกกลุ่ม เข้ามาแสดงความคิดเห็นให้ข้อเสนอแนะ แล้วทางคณะกรรมการจะนำสิ่งเหล่านั้นมาพิจารณา ทั้งนี้ คณะกรรมการฯจะเป็นผู้พิจารณาว่าสมควรที่จะเชิญพรรคใด กลุ่มใด หรือใคร หรือแม้แต่ภาคราชการ ด้วยว่าใครจะเป็นผู้เข้าร่วมพูดคุย ให้ข้อเสนอแนะเป็นกลุ่มแรกบ้าง

เมื่อถามว่า รายชื่อคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะออกมาเมื่อใด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เชื่อว่าน่าจะออกมาได้ในสัปดาห์หน้า

เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ที่ระบุว่า ในกรรมการมีแต่ชื่อของนายทหารเข้ามาเป็นจำนวนมาก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่เป็นไร เพราะทหารเป็นกลาง ผมเคยบอกแล้วว่าทหารไม่มีความขัดแย้งกับใคร และคนที่เข้ามาร่วมในคณะกรรมการก็ไม่ใช่เด็กๆ ล้วนแต่เป็นระดับผู้ใหญ่ในกองทัพทั้งนั้น พวกเขารู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไร”

เมื่อถามว่า หากพรรคการเมืองขอให้ปลดล็อกเพื่อให้มีการประชุมพรรคได้ เพื่อเลือกตัวแทนเข้าร่วมพูดคุยกับคณะกรรมการสร้างความสามัคคีปรองดองจะอนุญาตหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เห็นจะต้องคัดเลือก หรือประชุมอะไรกันในเรื่องนี้ จะประชุมทำไมให้มันยุ่ง เพราะคณะกรรมการจะเป็นคนที่เลือกอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวแทนจากพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง จะต้องเป็นระดับแกนนำที่สามารถตัดสินใจเองได้ทันทีใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่จำเป็น แต่ตนต้องการให้คนที่มานั้นสามารถให้ความคิดเห็นได้มากกว่า ว่าเราจะสามารถสร้างความสงบให้เกิดขึ้นในยุคของรัฐบาลต่อไปได้อย่างไร โดยไม่ให้เกิดการขัดแย้งหรือตีกันอีกเหมือนในอดีต

เมื่อถามว่า หากบางพรรคหรือบางกลุ่มระบุว่า ไม่สามารถมาให้ความคิดเห็นได้ เนื่องจากไม่มีมติพรรคแล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าขอให้มีมติพรรคให้มา แต่ใครต้องการเสนออะไรก็ขอให้เข้ามาเสนอได้ทั้งหมด เพราะต้องการนำข้อเสนอทั้งหมดนั้น มาพิจารณาเพื่อให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวให้ได้

ทั้งนี้ ในการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวเชื่อว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน โดยมีการแบ่งหัวข้อแต่ละด้าน แล้วเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องแต่ละด้านนั้นจะมาพูดคุย โดยจะนำข้อมูลข้อเสนอแนะที่ได้มาจัดทำ และเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน