ประชาธิปัตย์ โวยกกต. แบ่งเขตเลือกตั้ง สุดอัปลักษณ์ ลากเส้นทับภูเขายังเอา!
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่พรรค ประชาธิปัตย์ นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส.จังหวัดสุโขทัย ร่วมกันแถลงถึงกรณีการ แบ่งเขตเลือกตั้ง ที่ไม่เป็นธรรมในจังหวัดสุโขทัย ว่า เป็นไปตามแบบที่ 4 ซึ่งไม่ใช่ตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วางไว้ ทั้งที่ได้ยื่นหนังสือให้ทบทวนแล้วแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากมีนักการเมืองอาวุโสที่อยู่ในซีกรัฐบาลเข้าแทรกแซงพยายามผลักดันให้ใช้แบบที่ 4
ทำให้ประชาชนในพื้นที่สับสนและได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น ประกอบกับรองเลขาธิการกกต.ให้สัมภาษณ์ว่าแบบที่ประชาชนส่งมาให้กกต.ใหญ่แบ่งเขตเลือกตั้งได้ดีกว่ากกต.จังหวัดส่งมาเสียอีก
จึงอยากถามกลับไปยังกกต.ว่า การแบ่งเขตไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะจะต้องพิจารณาภูมิศาสตร์และจำนวนประชากร อีกทั้งรายละเอียดแนวเส้นของการแบ่งเขต ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีประชาชนคนใดที่มีความรู้ความชำนาญในการแบ่งเขตเลือกตั้งได้ดีกว่ากกต. ถ้าคนคนนั้นจะมีความสามารถจริงจะต้องใกล้ชิดกับผู้ที่กุมอำนาจรัฐ หรือมีความสามารถในการนำข้อมูลจำนวนประชากรและพื้นที่ เพื่อดำเนินการในการแบ่งเขตได้เหนือกว่ากกต.
ทั้งนี้นายธนา ได้นำรูปภาพแผนผังการแบ่งเขตเลือกตั้งเมื่อปี 2557 ของจังหวัดสุโขทัย ที่มี 3 เขต โดยแบ่งตามภูมิศาสตร์และจำนวนประชากรใกล้เคียงกัน และเป็นที่ยอมรับของทุกคน แต่การแบ่งเขตล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ย. กกต.ได้แบ่งเขตของสุโขทัยเป็น 3 เขตก็จริง
แต่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 อยากถามว่ามีการแบ่งเขตที่อัปลักษณ์อย่างนี้หรือไม่ เพราะลักษณะการแบ่งเขตทอดยาวขึ้นไปและมีจุดติ่งซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อที่ไปเชื่อมต่อและมีภูเขา
หากประชาชนจะเดินทางไปเขตเลือกตั้งจะทำให้ไม่สะดวก รวมทั้งไม่สะดวกกับเจ้าหน้าที่กกต.จะควบคุมการเลือกตั้งอย่างไร การแบ่งเขตครั้งนี้สอดคล้องกับสิ่งที่เราเคยพูดว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลใช้วิธีการดึงตัวนักการเมืองเข้าพรรค ด้วยการบอกว่าสามารถขีดเส้นแบ่งเขตเลือกตั้งได้ตามต้องการ
ดังนั้น จากปัญหาการแบ่งเขตที่เกิดขึ้น พบว่า มีหลาย 10 จังหวัดที่มีปัญหาลักษณะเดียวกับสุโขทัย ทางพรรคจึงให้อดีตส.ส.แต่ละจังหวัดรวบรวมรายละเอียดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งจัดทำภาพประกอบว่าการแบ่งเขตเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพื่อรายงานให้พรรคทราบ เช่น จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดยโสธร เป็นต้น
ประชาชนสับสนแน่นอน
ด้าน นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ตนรู้ข่าวมาก่อนว่าจะมีการแบ่งเขตผ่าอำเภอกงไกรลาศออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน และก่อนที่กกต.จะประกาศได้มีนักการเมืองใหญ่ในจังหวัดสุโขทัยบางคน ซึ่งพยายามจะตัดส่วนเพื่อให้ตนเองได้เปรียบ และหวังที่จะได้ส.ส.ในจังหวัดทั้ง 3 เขต ทั้งที่ได้มีหนังสือทักท้วงให้ใช้แบบเดิม ซึ่งเป็นแบบที่ 4 เหมือนกัน แต่เป็นแบบที่ 4 ที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นแบบที่ใช้กับการเลือกตั้ง ปี 2554 และเห็นพ้องด้วยกันทุกพรรคการเมือง
แต่สุดท้ายก็ออกมาแบบที่มีการเสนอเข้าไปเงียบๆ ซึ่งประชาชนในพื้นที่เรียกว่าแบบพิสดารซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เพราะเส้นทางคมนาคมไม่ได้เชื่อมโยงอย่างแท้จริง
นายสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาพูดตลอดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องระวังใน 5 ข้อ ได้แก่ 1.พลังดูด 2.แบ่งเขตเลือกตั้ง 3.การพิมพ์บัตร 4.โกงการเลือกตั้ง ซึ่งจะบอกว่าหนักกว่าแบ่งเขตเลือกตั้ง พูดไว้เลย แม้กระทั่งในจังหวัดสุโขทัยการเรียกรวมตัว จ่ายเงินเต็มไปหมดซึ่งต้องรีบทำเสร็จก่อนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (พ.ร.บ.ส.ส.) จะประกาศใช้ในวันที่ 11ธ.ค.นี้
รวมทั้งมีการให้ผู้นำหมู่บ้านเก็บบัตรประชาชนของทุกบ้านทุกหลังคาเรือน โดยอ้างว่าจะนำไปทำบัตรประชารัฐหรือบัตรคนจน ถ้าใครไม่ให้ถือว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม และ 5.ผู้ตรวจการเลือกตั้งที่อาจจะเอาคนของตัวเองเข้าไป
“รอบนี้ไม่ใช่พิมพ์บัตรเบอร์เดียวทั้งประเทศ แต่เป็นเบอร์ใครเบอร์มัน พิมพ์บัตรเลือกตั้ง สุโขทัย มี 3 เขต ลงเขตใครเขตมัน ผู้สมัครเป็นร้อย ถามว่าประชาชนจะสับสนหรือไม่ กกต.จะทำให้รัดกุมอย่างไร เพราะในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมามีพิมพ์บัตรปลอม บัตรผี ผมเจอมาแล้วเมื่อ ปี 48 นับสองวันสองคืนไม่เสร็จ” นายสัมพันธ์ กล่าว
