บิ๊กตู่ โต้ ใช้บัตรคนจนหาเสียง พ้อชอบถามยั่วอารมณ์ ทำโดนด่าทั้งขึ้น ทั้งล่อง!
เวลา 09.45 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้ง 36 เรื่อง “การปฏิรูปประเทศสู่ ไทยมั่งคั่ง ไทยมั่นคง ไทยยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า หอการค้ามีการพัฒนามาเป็นลำดับ เป็นเครื่องจักรในการพัฒนาประเทศเพราะเป็นกลไกเรื่องการค้า มีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปประเทศไทย และจะแสดงว่าเราจะเป็นประเทศที่จะหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลางใน 20 ปี ซึ่งไม่ใช่สืบทอดอำนาจ
จากการไปต่างประเทศหลายครั้งก็ชื่นชมใน 3 สิ่งของไทย คือการท่องเที่ยวธรรมชาติสวยงาม อาหารอร่อยและรอยยิ้มคนไทย ตนไปต่างประเทศยิ้มมาตลอดแต่พอกลับมาแล้วยิ้มไม่ออก เพราะมีหลายเรื่องกดดันเหมือนกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีคนวิจารณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งไม่ใช่การหาเสียง เพราะเวลานี้มีคนที่รายได้ต่ำกว่าหนึ่งแสนบาทต่อปี 14.7 ล้านคน จะให้ช่วยทั้งหมด 60 ล้านก็ไม่ไหว ต้องดูว่าเอาเงินส่วนไหนมาให้แต่ไม่ใช่เอาภาษีไปช่วยคนจนทั้งหมดอย่างที่วิจารณ์ เพราะภาษีมาจากหลายทาง คนที่ออกมาบอกว่าจะล้มนั่นล้มนี่ต้องบอกว่า 4 ปีที่ทำมาไม่ได้ง่าย
ขออย่ามองว่ารัฐบาลนี้ช่วยแต่คนรวยไม่ช่วยคนจน ตนไม่ได้เก่งและยอมรับว่า 4 ปีที่ผ่านมาปัญหาเยอะและเหนื่อย มีรัฐมนตรีมาถามว่าเป็นผบ.ทบ.มาเป็นนายกฯเป็นอย่างไร ซึ่งตอบไปว่าจะเป็นอย่างไรก็เหนื่อย เป็นมา 13 ปี ถ้านึกถึงประเทศเหมือนตอนเป็นผบ.ทบ.เสี่ยงแค่ไหนก็ต้องทำเพราะเป็นหน้าที่ เวลานี้มีกำลังใจอยู่ ส่วนอยู่แค่ไหนก็แค่นั้นขึ้นอยู่กับประชาชน
- พ้อโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
ตนไม่ได้ปฏิเสธการเลือกตั้ง ไม่ปฏิเสธประชาธิปไตย ตลอดเวลาทำงานเพื่อหยุดความขัดแย้งพร้อมเดินหน้าตามโรดแม็ป นักการเมืองที่จะเข้ามาต้องมองไปข้างหน้า อย่าใช้เรื่องความรวยมหาศาลหรือจนมหาศาลมาหากินทางการเมือง คนที่หาเสียงบอกว่าจะแก้ปัญหาอย่างโน้นอย่างนี้ต้องให้อธิบายด้วยว่าปลดล็อกแล้วเขาจะทำอะไรให้ประเทศไทย
ถ้าไม่มีวิธีการก็อย่าไปเชื่อ ไม่ใช่ข้อเท็จจริง และต้องให้บอกด้วยว่าจะแก้ไขปัญหาทุจริตอย่างไร เพราะไม่เช่นนั้นจะมาหากินกับคนยากคนจน ส่วนที่บอกว่าการเลือกตั้งเงินจะสะพัดนั้นมาจากการเดินทางไปมาหาสู่ แต่ไม่อยากให้แพร่สะพัดด้วยเงินนอกระบบ 4-5 หมื่นล้านบาทนั้นคงไม่ใช่เรื่องปกติ
มีคนบอกว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีทำเพื่อแสวงหาอำนาจ เป็นการผูกขาด ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อประเทศ ทุกคนต้องพูดว่าจะทำเพื่อประเทศอย่างไรไม่ใช่บอกว่ายุทธศาสตร์ไม่มีประโยชน์ วันนี้เราเดินหน้าด้วยประชารัฐซึ่งมีนักธุรกิจและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม แต่มีคนใช้เป็นจุดหากินทางการเมืองว่าคนรวยก็รวย คนจนก็ยิ่งจน อย่าไปฟังเสียงติติงรัฐบาลตนก็เลิกฟังแล้วเสียเวลา ชอบถามยั่วอารมณ์รู้ว่าตนยั่วขึ้นหรืออย่างไร ตนต้องทำตัวให้เย็นลง ขออย่างเดียวสัญญาว่าจะช่วยตน ข้าราชการก็ต้องช่วยกัน
“วันนี้พูดเสร็จกลับไปปวดหัวทั้งวัน ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสรื่นเริงหลายปี ทำงานกลับบ้านเข้าทำเนียบ ไปต่างประเทศกลับบ้านเข้าทำเนียบแต่บ่นไม่ได้ เขาบอกว่าคนเป็นนายกห้ามบ่น ต้องพูดเพราะๆ สวัสดีครับ ยิ้ม ใครจะถามอะไรก็แล้วแต่ครับผมๆ เขาก็ถามผมคำเดิม คนแรกถามพอคนที่สิบก็ถามคำถามแรก เขาบอกผมไม่ต้องตอบก็ได้ ถ้าไม่ตอบก็หาว่าผมงอน โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง” นายกฯ กล่าว
