เทือก ชี้พวกต้านคารวะแผ่นดิน นิสัยไม่ปกติ ไม่มีน้ำใจ ไม่ใช่นิสัยคนไทย!

กำนันเทือก เผย เจอปัญหาอื้อ เศรษฐกิจระดับล่างตกต่ำ เตรียมบรรจุในนโยบายพรรคเป็นวาระแห่งชาติ ชี้พวกต้านคารวะแผ่นดิน นิสัยไม่ปกติ ไม่มีน้ำใจ ไม่ใช่นิสัยคนไทย

เทือก ชี้คนต้าน – เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. (วานนี้) ที่อาคาร ทุแปซิฟิก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย(รปช.)และประธานรณรงค์หาสมาชิกพรรค แถลง ว่า จากการเดินสายคาราวะแผ่นดิน ในหลายๆ จังหวัดตลอดเวลา 35 วัน พบว่าประชาชนในพื้นที่กทม.พบว่าประชาชนมีปัญหาเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจระดับล่างตกต่ำ โดยพบว่าหัวหน้าครอบครัวเพียงคนเดียวที่มีรายได้ แต่ต้องเอามาเลี้ยงทั้งครอบครัว ซึ่งมีทั้งผู้สูงอายุและผู้เยาว์ ผู้สูงอายุ

แม้รัฐบาลจะให้เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ และสนับสนุนการศึกษาฟรี 12 ปี ก็ยังไม่เพียงพอ ยังกังวลเรื่องการเรียนต่อของบุตรหลานในระดับปวช. ,ปวส. และมหาวิทยาลัย ส่วนพ่อค้า แม่ขายก็กังวลเรื่องเศรษฐกิจระดับล่างไม่ดี การค้าขายตกต่ำลง ถ้ายังเป็นแบบนี้จะกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศได้

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัด พบว่าประชาชนประสบปัญหาเศรษฐกิจมากกว่ากกทม. เพราะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำหลายปี รายได้ลดลงจนกระทบถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจของครอบครัว ไม่ว่า จะเป็นยางพารา ปามล์ม สับปะรด มะพร้าว ตกต่ำ ขายไม่คุ้มทุน

นอกจากนี้เกินครึ่งเกษตรกรไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ทำให้ไม่ได้รับการเยียวยาตามาตรการของภาครัฐ จังหวัดชายทะเลทั้งภาคตะวันออก และภาคใต้ ที่มีอาชีพประมงได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากข้อเรียกร้องของประเทศประชาคมยุโรปบังคับให้ออกกฎระเบียบมาบังคับ ทำให้ชาวประมงจำนวนมากไม่สามารถปรกอบกิจการได้ต่อไป ส่งผลต่อทั้งแก่ครอบครัว ผู้ใช้แรงงาน เจ้าของกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการประมง และเงินหมุนเวียนในพื้นที่

นอกจากนี้ยังพบเรื่องปัญหายาเสพติดระบาดรุนแรงมากขึ้น ที่ลงไปถึงผู้เยาว์ นักเรียน นักศึกษา ผู้ที่อยู่ในภาวะล่อแหลม เรื่องการศึกษาของลูกหลาน ตลอดจนระบบการรักษาพยาบาลชาวชนบทยังเห็นว่าที่เป็นอยู่ต้องได้รับการแก้ไขขนานใหญ่ไม่เช่นนั้นจะทำให้เขาขาดโอกาสในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ จากปัญหาที่ได้รับทราบมาถือเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีบทบาท และผู้มีหน้าที่ทางการเมือง จะต้องระดมกำลังเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

และ รปช. ซึ่งเป็นพรรคการเมืองของประชาชนก็จะนำปัญหาเหล่านี้ไปกำหนดไว้ในนโยบายของพรรค เพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจัง และให้ได้ผลไม่ว่าจะต้องทุ่มงบประมาณเท่าไหร่ก็ต้องทำ และต้องทำเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อทุกฝ่ายจะได้ร่วมมือกัน ไม่อย่างนั้นประเทศจะอันตราย

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้จะเดินสายในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งตนไม่กังวลว่าเรื่องการต่อต้าน เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไม่ต้องการเห็นความขัดแย้ง ต้องการเห็นประเทศสงบเรียบร้อย ที่ทุกฝ่ายต้องมาร่วมกันแก้ไข เรื่องคนรักคนชอบเป็นเรื่องปกติ

อย่างในกทม. ที่มีคนต่อต้าน ยิ่งต่อต้านมากก็ยิ่งเดินมาก ส่วนไปต่างจังหวัด ไม่มีคนต่อต้าน และโดยอุปนิสัยคนไทยไม่ทำเรื่องแบบนี้ เพราะเป็นคนมีน้ำใจ มีมารยาท เอื้ออารี คนไปถึงบ้านก็ต้อนรับ ที่ไม่ต้อนรับ ถือเป็นเรื่องไม่ปกติ