วิษณุเบรก! อย่าเพิ่งรีบลาออก จ่อยกเลิกบางตำแหน่ง ไม่ต้อง ยื่นบัญชีทรัพย์สิน

ยื่นบัญชีทรัพย์สิน / เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เกี่ยวกับการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ว่า ขณะนี้ยังไม่ตกผลึก เพราะ ป.ป.ช. ยังไม่ได้แจ้งมาว่าจะทำอย่างไร แต่ตอนนี้เขารู้ปัญหาหมดแล้ว และก็ไปคิดว่าจะออกประกาศอย่างไร

ซึ่งเขามีหลายทางออก โดยจะดูว่าทางไหนดีที่สุดและยืนอยู่บนหลักธรรมาภิบาล คือตำแหน่งที่สุ่มเสี่ยงจะต้องมีการยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่า แม้บางตำแหน่งจะไม่ต้องยื่น ก็ยังเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่ง ป.ป.ช. สามารถเข้าไปตรวจสอบได้อยู่ดี เช่น หากกรรมการสภามหาวิทยาลัยจะไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว แต่การที่ ป.ป.ช. จะเข้าไปตรวจสอบการทุจริต สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ทุกเวลา

ดังนั้น ต้องแยกให้ออก ปัญหาตอนนี้ที่กำลังเกิดคือ ป.ป.ช.จะดูว่าตำแหน่งใดที่สุ่มเสี่ยง มีโอกาสที่จะทำให้เกิดปัญหาได้ แต่ที่แล้วมาเขาไม่ได้ดู เขากวาดไปหมดทุกตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าอาจจะมีการยกเลิกบางตำแหน่งที่อยู่ในประกาศ ป.ป.ช. ให้ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว นายวิษณุ กล่าวว่า ถูกต้อง เป็นไปได้ ตรงนี้เป็นข้อเสนอของ ป.ป.ช.เอง ไม่มีใครไปบังคับอะไรทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้คุยกับ ป.ป.ช. มีการแบ่งตำแหน่งออกเป็น 3-4 กลุ่ม คือ

  1. ตำแหน่งที่ไม่ต้องไปยื่นอะไรทั้งสิ้น และไม่ควรให้ยื่น เพราะไม่ได้สุ่มเสี่ยงใดๆเลย
  2. กลุ่มที่ควรจะต้องให้ยื่น แต่ไม่ต้องเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งส่วนใหญ่เท่าที่ทราบ จะกลัวเรื่องการเผยแพร่ เพราะวันนี้ก็มีหลายตำแหน่งที่ยื่น แต่ไม่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ
  3. กลุ่มที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ

ดังนั้น ป.ป.ช. จะต้องไปจัดกลุ่มแบบนี้ ซึ่งประกาศที่ออกมา ไม่ได้แบ่งเอาไว้แบบนี้ โดยการจะเลือกว่าตำแหน่งใดอยู่กลุ่มใด ไม่ควรใช้สองมาตรฐาน แต่ควรใช้การพิจารณาอย่างมีเหตุผล อย่างองค์การมหาชนมี 40 แห่ง ซึ่งพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)องค์การมหาชน บัญญัติไว้ว่า ห้ามทำมาค้าขาย ป.ป.ช.จะต้องไปดู

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ ที่เคยระบุว่าจะมีการประกาศฉบับแก้ไข ภายใน 1-2 วันนี้ ใกล้ออกมาแล้วหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ป.ป.ช.แจ้งว่ายังไม่เสร็จเรียบร้อย เนื่องจากเขาคิดว่าเมื่อขยายระยะเวลาออกไปจนถึงวันที่ ‪31 มกราคม 2562‬ แล้ว เขายังมีเวลาที่จะดูเรื่องนี้ จึงไม่ควรจะไปตื่นเต้นและรีบลาออกกัน

เมื่อถามว่า กรรมการสภามหาวิทยาลัยและกรรมการในองค์การมหาชนที่ลาออกไปแล้ว จะกลับมาดำรงตำแหน่งอีกได้หรือไม่

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ แต่การกลับมาในบางตำแหน่งนั้นง่าย แต่บางตำแหน่งการกลับเข้ามานั้นยาก เช่น กรรมการสภามหาวิทยาลัย เพราะกฎหมายกำหนดว่า การจะเป็นกรรมการสภามหาวิทยา จะต้องตั้งคณะกรรมการไปสรรหา ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 2-3 เดือน เมื่อสรรหาเสร็จ จะต้องนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง รวมกันทั้งหมดแล้วใช้เวลานานหลายเดือน

เมื่อถามว่า สุดท้าย หากมีการยกเลิกบางตำแหน่งที่มีปัญหาก่อนหน้านี้ ให้ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว จะดูเหมือนว่าถอยให้เพราะถูกกดดันหรือไม่

นายวิษณุกล่าวว่า คงไม่ได้มองแบบนั้น แต่ ป.ป.ช.ต้องมีเหตุผลที่จะทำแบบนั้น และเรื่องนี้ ป.ป.ช.เป็นผู้คิด เป็นข้อเสนอของ ป.ป.ช. เอง และถ้ามีคนถามว่า ทำไม ป.ป.ช. ไม่คิดเช่นนี้ตั้งแต่แรก เขามีเวลาไม่มากหรอก กฎหมายบังคับให้เขาต้องทำแบบนั้น เขาจึงต้องทำ

ผมคิดว่าเขารอบคอบ แต่มีข้อจำกัดทางกฎหมาย และมีความจำเป็น ในเวลานั้นที่ทุกอย่างจะต้องเป็นความลับ จะไปปรึกษาใครว่าตำแหน่งนั้นควรต้องยื่นหรือไม่ เขาทำแบบนั้นไม่ได้ แต่วันนี้ พอประกาศออกมา มีการตื่นตูมกันทั้งบ้านทั้งเมือง เขาก็ได้รับฟังผลตอบรับ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ถ้าตำแหน่งใดจะต้องยื่นหรือไม่ยื่น ก็ต้องยืนบนหลักธรรมาภิบาล และกฎหมาย

เมื่อถามว่า แสดงว่าที่มีการร้องขอให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 เป็นไปไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไม่มีวันทำอย่างนั้น

ถ้าจะยกเลิก ป.ป.ช.จะเป็นฝ่ายยกเลิกเอง เขาจะไปหาวิธีของเขาเอง ขอย้ำว่าคสช.จะไม่ไปยกเลิกในสิ่งที่เขาออก เพราะนั่นคือการแทรกแซง แต่ตนไม่บอกว่าเขาจะทำอย่างไร ตรงนี้มันมีเงื่อนบางอย่างที่ ป.ป.ช .จะต้องไปคิด และถ้าติดปัญหาอย่างไร ให้บอก

“ผมไม่คิดว่า ป.ป.ช.ผิดพลาด ผมยังมานั่งนึกเลยว่าถ้าผมเป็น ป.ป.ช. ผมจะทำอย่างเขาหรือไม่ สรุปคือต้องประกาศออกไปก่อน แต่ก่อนจะประกาศ มันมีวิธีการแบบผมอีกแบบหนึ่ง” นายวิษณุกล่าว

เมื่อถามว่า ถือเป็นบทเรียนในการออกกฎกติกาต่างๆ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนยังเชื่อว่าเขาไม่ผิด และบางครั้งมันเป็นเรื่องของการตีความทางกฎหมาย ผมคิดว่าบทเรียนมันก็มีได้ทุกวัน ทุกเรื่อง ไม่ใช่เป็นเรื่องประหลาดอะไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน