ต้องมี-โลโก้พรรคในบัตรเลือกตั้ง : รายงานพิเศษ

 

ต้องมี-โลโก้พรรคในบัตรเลือกตั้ง : รายงานพิเศษ – กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นมาทันที กับข้อเสนอตัดโลโก้พรรคการเมืองออกจากบัตรเลือกตั้ง นักการเมืองพากันคัดค้านและวิพากษ์วิจารณ์หนาหู

ในมุมของนักวิชาการ อดีตกกต.เองก็เห็นว่านอกจากไม่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนแล้ว ยังอาจเป็นการผูกปมให้การเลือกตั้งมีปัญหาได้ในอนาคต

ต้องมีโลโก้พรรคในบัตรเลือกตั้ง

  • สดศรี สัตยธรรม

อดีต กกต.

เมื่อก่อนที่ใช้รัฐธรรมนูญ 2550 การไม่มีชื่อหรือโลโก้พรรคไม่มีปัญหาอะไร เพราะผู้สมัครพรรคเดียวกันมีเบอร์เดียวกันไม่ว่าจะไปสมัครในเขตพื้นที่ จังหวัดไหนก็ตาม ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนจดจำได้ง่าย

แต่ในรัฐธรรมนูญปี 2560 และมาตรา 48 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ระบุให้ผู้สมัครแต่ละพรรคมีเบอร์แตกต่างกัน ออกไปในแต่ละเขตเลือกตั้ง ซึ่งเบอร์จะแตกต่างกันแม้อยู่พรรคเดียวกัน เมื่อผู้สมัครไม่ใช่เบอร์เดียวกันประชาชนก็จะเกิดความลำบากในการจดจำเบอร์ และอาจมีประเด็นทำให้เกิดความสับสนขึ้นมาได้

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าในบัตรเลือกตั้งตัดชื่อและโลโก้พรรคเชื่อว่าประชาชนเกิดความสับสนแน่นอน ความคิดของประชาชนคือเขาตั้งใจจะเข้าคูหาเลือกพรรคนี้แต่พรรคดันไม่มีชื่อ หรือโลโก้พรรคในบัตรก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร นอกจากใช้ความจำในการจำเบอร์แต่บางครั้งก็จำกันไม่ได้

การเลือกตั้งแต่ละครั้งต้องให้ความสะดวกแก่ ประชาชนไม่ให้ทำให้เกิดความสับสนในการเลือกตั้ง และยิ่งรัฐธรรมนูญนี้มีการเลือกแบบจัดสรรปันส่วนผสมคือ เบอร์เดียวเลือกทั้งส.ส.เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งจำเป็นว่าบัตรต้องมีทั้งชื่อและโลโก้พรรค เพื่อจะได้ไม่เกิด ความสับสนแก่ประชาชน

การเสนอไม่ให้มีชื่อและโลโก้พรรคในบัตรเลือกตั้งคงต้องหารือกับทางกกต. เพราะการพิมพ์บัตรจะยุ่งยากมาก ถ้าผู้สมัครได้คนละเบอร์ต้องทำไว้ถึง 350 แบบ ซึ่งโอกาสพลาดมีมาก

การทำแบบไม่มีชื่อและโลโก้พรรคที่เรียกว่า แบบโหลนั้นใช้ได้ไปตลอด แต่เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกให้กกต.ในการจัดพิมพ์บัตร แต่อย่างไรก็ตามเมื่อรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าควรมีชื่อและโลโก้พรรคก็จำเป็น ต้องมี เพราะมาตรา 48 ได้มาประกอบแล้วว่าจะพิมพ์บัตรแบบทั่วไปไม่ได้แล้ว

ถ้าหากจะมีการตัดชื่อและโลโก้พรรคออกคงต้อง ไปตัดมาตรา 48 ออกก่อน คือให้ทุกพรรคการเมืองมีเบอร์สมัครเบอร์เดียวกัน ดังนั้นถ้าจะเอาตามการเสนอของนายกฯที่ไม่มีชื่อและโลโก้พรรคต้องปรับปรุง มาตรา 48

ถ้าเป็นไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ระบุไว้ก็ต้องพิมพ์คนละเบอร์ไปเลย แล้วประชาชนก็ต้องมาจำว่าตัวเองอยู่ในเขตพื้นที่ไหนแล้วจะเลือกพรรคไหนหรือ เลือกใครก็ค่อยเลือกเบอร์นั้น

ยอมรับการเลือกตั้งที่ผ่านมาเคยทำมาแล้วที่จะพิมพ์ชื่อและโลโก้พรรค แล้วแจกบัตร 2 ใบ ใบหนึ่งไม่มีชื่อและโลโก้เป็นการเลือกส.ส.แบบแบ่งเขต และอีกใบเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งประชาชนสามารถดูชื่อ โลโก้พรรคจากบัตรเลือกส.ส.บัญชีรายชื่อ ถือเป็นความสะดวกที่มีบัตรสองใบในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

แต่ครั้งนี้มีบัตรเพียงใบเดียวแล้วเลือกได้ เพียงเบอร์เดียว ถ้าเป็นเช่นนั้นเมื่อประชาชนเข้าคูหาไปแล้วจำหมายเลขไม่ได้และถามใครก็ไม่ ได้ อาจจะเกิดความสับสนและเลือกไม่ตรงเจตนารมณ์ที่ต้องการเลือกเบอร์นั้นก็ได้

ฉะนั้นต้องพิจารณาแล้วว่าถ้าเราทำแบบที่ กกต.ระบุไว้คือตัดชื่อและโลโก้พรรคออก โดยให้มีแต่หมายเลขอย่างเดียวก็จะเกิดความวุ่นวาย เริ่มตั้งแต่ลงคะแนนและการนับคะแนน ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะถูกมองว่าการเลือกตั้งชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

กกต.ต้องพิจารณาข้อทักท้วงเรื่องนี้ว่ามี มาก แม้ว่าการพิมพ์บัตรมันจะยุ่งยากก็ตามกกต.ต้องทำได้ เนื่องจากระยะเวลาการพิมพ์บัตรมีใกล้เคียงกับเวลาของการเลือกตั้งที่ผ่านมา และถือว่าเรื่องนี้เป็นอาชีพและหน้าที่ของกกต.ที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว

************

ต้องมีโลโก้พรรคในบัตรเลือกตั้ง

  • อรรถสิทธิ์ พานแก้ว

ผู้ช่วยอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์

บัตรเลือกตั้งจำเป็นจะต้องมีข้อมูลพื้นฐาน ให้เพียงพอต่อการตัดสินใจลงคะแนน ตรงตามเจตจำนงของผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด อย่างน้อยจึงจำเป็นต้องมี 3 ส่วนคือ 1.โลโก้พรรคการเมือง 2.หมายเลขผู้ลงสมัคร 3.ชื่อพรรคและผู้ลงสมัคร

ข้อเสนอให้ตัดโลโก้กับชื่อพรรคออกนั้น ข้อดีนึกไม่ออก แต่ข้อเสียจะทำให้ประชาชนสับสนเมื่อเข้าไปอยู่ในคูหาแล้วต้องตัดสินใจลงคะแนน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตรฐานการอ่านของประชาชนไม่เท่าเทียมกัน หลายคนใช้การจำภาพหรือสัญลักษณ์เป็นหลักซึ่งง่ายกว่าตัวหนังสือ การหาเสียงของพรรคก็ยิ่งทำได้ยากขึ้นไปอีกเพราะต่างเขตก็ต่างเบอร์

อีกทั้งชีวิตประจำวันของคนไทยมักจำชื่อ บุคคลเป็นชื่อเล่นมากกว่าชื่อจริง ทำให้การตัดโลโก้-ชื่อพรรคส่งผลต่อการลงคะแนนอย่างแน่นอน นอกจากไม่ตรงตามเจตจำนงของประชาชนแล้ว ยอดบัตรเสียจะพุ่งสูงขึ้นจากความไม่มั่นใจ กาผิดแล้วอาจเผลอขีดทิ้ง

ประกอบกับรูปแบบวิธีการคำนวณและการลงคะแนน จากบัตรใบเดียวที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่กาครั้งเดียวจะส่งผลถึง 3 ส่วน คือส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายกฯ ที่ส.ส.ผู้แทนของเราจะเข้าไปเลือกนายกฯ

ถ้าบัตรเลือกตั้งมีแค่เบอร์กับชื่อผู้สมัคร แบ่งเขต เท่ากับให้ข้อมูลพื้นฐานแก่ประชาชนไม่ครบ เนื่องจากพฤติกรรมการลงคะแนนของประชาชนไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าตัดสินลงคะแนน บนบัตรใบเดียวให้ตัวผู้สมัครส.ส.เขตเป็นหลัก หรือพรรคที่ผู้สมัครสังกัด

ก่อนลงคะแนนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอาจประเมิน มาแล้วว่าชอบผู้สมัครพรรค ก. แต่รักพรรค ข. ตั้งใจจะไปเลือกพรรค ข. แต่ในบัตรเลือกตั้งไม่มีโลโก้และชื่อพรรคให้จะทำอย่างไร

ขณะเดียวกัน การตัดข้อมูลในบัตรเลือกตั้งจะส่งผลให้เกิดความได้เปรียบเสียบเปรียบต่อ ยุทธวิธีการหาเสียงของพรรคเล็กกับพรรคใหญ่ ที่แน่นอนพรรคเล็กย่อมเสียเปรียบในแง่ทรัพยากร การหาเสียงรายเขตก็จะทำได้ยาก พรรคเล็กก็ต้องชูพรรค หรือ 3 รายชื่อบัญชีนายกฯเป็นสำคัญ ทว่าไม่มีข้อมูลเหล่านี้ในบัตรเลือกตั้งเพื่ออำนวยความสะดวก

จุดสำคัญที่สุดที่บัตรเลือกตั้งต้องมี ข้อมูลพื้นฐานให้ครบถ้วนทั้งส่วนของพรรคและผู้ลงสมัครคือการยอมรับผลการ เลือกตั้งภายหลังการนับคะแนน หากประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งไม่ได้ตรงตามความต้องการที่หวังไว้ การตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งก็หลีกเลี่ยงการถูกตั้งคำถามถึงความชอบ ธรรมของรัฐบาลใหม่ไม่ได้เช่นกัน

สถานการณ์ทางการเมืองอาจเดินไปถึงขั้นฟ้อง ร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เข้าข่ายฐานจำกัดหรือลิดรอนสิทธิประชาชนในการรับรู้ข้อมูลพื้นฐานก่อนลง คะแนนหรือไม่ ต่อให้ผลกระทบนี้ ตกอยู่กับคนส่วนน้อยแต่ก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงไม่ควรได้รับการอำนวย ความสะดวกต่อการลงคะแนน ส่วน จะส่งผลไปถึงขั้นทำให้การเลือกตั้งโมฆะอีกหรือไม่ก็ขึ้นกับการพิจารณาของศาล

ต่อข้อเสนอให้ใช้มาตรา 44 แก้มาตรา 48 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.เพื่อให้พรรคใช้เบอร์เดียวกันในทุกเขตเลือก ตั้งนั้นก็สะท้อนว่าต้องการมุ่งอำนวยความสะดวกให้พรรคเพื่อหาเสียงได้ง่าย ก่อนคิดที่จะอำนวยความสะดวกประชาชนในการตัดสินใจ ซึ่งระบบต่างเขตต่างเบอร์นั้น ก็เคยถูกใช้ในการเมืองไทยก่อน ปี 2540 มาแล้ว

ไม่เห็นด้วยหากจะใช้ม.44 แก้เพียงเรื่องเบอร์ แต่จะเห็นด้วยหากแก้ทั้งให้พรรคมีเบอร์เดียวกันทุกเขตเลือกตั้ง และแก้ให้ใส่โลโก้กับชื่อพรรคเหมือนเดิม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนควบคู่กันไปด้วย เพราะไม่ควรมีอะไรมาจำกัดกระบวนการคิดของประชาชน

สำหรับกกต.ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาบัตร เลือกตั้ง ขอเรียกร้องให้ใช้บัตรเลือกตั้งที่ให้ข้อมูลครบถ้วนต่อผู้ไปใช้สิทธิ์เลือก ตั้ง โดยต้องมีทั้งโลโก้และชื่อพรรค

และเน้นงานรณรงค์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งที่มีหลายประเด็นเป็นเรื่องใหม่ ตามที่โพลหลายสำนักระบุว่าคนไทยยังขาดความเข้าใจอยู่มาก

เพราะสุดท้ายแล้วความเข้าใจในกระบวนการเลือกตั้งจะส่งผลต่อการยอมรับผลการเลือกตั้งที่ออกมา

************

ต้องมีโลโก้พรรคในบัตรเลือกตั้ง

  • ธนพร ศรียากูล

นายกสมาคมรัฐศาสตร์แห่งม.เกษตรศาสตร์

การตัดชื่อและโลโก้พรรคในบัตรเลือกตั้งจะ ทำให้การลงคะแนนเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีแนวโน้มก่อให้เกิดการเลือกตั้งที่ ไม่สุจริตและไม่ยุติธรรม เหตุผลที่กกต.ยกมาเป็นเหตุผลด้านการจัดการในการขนส่งบัตร แต่วิธีการที่กกต.จะแก้ปัญหาในการจัดการกลับไปจำกัดสิทธิผู้มีสิทธิเลือก ตั้ง

จึงเห็นว่าวันนี้แนวต้านเสียงคัดค้านของผู้ ไม่เห็นด้วยเรียกได้ว่ามีทั่วประเทศ หากพูดกันตรงๆ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกตั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งกกต.ควรถอยและยกเลิก แนวความคิดนี้

ปัญหาที่กกต.ยกมาเรื่องการขนส่งบัตรถือว่า เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ง่ายมากเพียงไปเชิญภาคเอกชนที่ทำธุรกิจเรื่องการขนส่ง จะมีวิธีบริหารจัดการอย่างดีแน่นอน อย่าเอาเรื่องการจัดการมาเป็นปัญหา แล้วไปกระทบกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพราะเป็นคนละประเด็นกัน

การเลือกตั้งครั้งนี้แต่ละเขตทุกพรรคได้ เบอร์ไม่เหมือนกัน แค่ข้ามเขตก็ไปเจอพรรคที่ชอบอีกเบอร์หนึ่งจึงเชื่อว่าความสับสนจะเกิดขึ้น แน่นอนในแง่ของการรับรู้ของพี่น้องประชาชน เวลากาบัตรก็มีความเป็นไปได้สูงว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งอาจกาแล้วไม่ได้ผู้ สมัครในพรรคที่ตัวเองอยากเลือก

ไม่มีโลโก้สัญลักษณ์พรรค ไม่มีชื่อพรรค มีเพียงตัวเลขกับช่องให้กา อย่าให้เราคิดในทางร้ายเลยว่าการเลือกตั้งที่ ไม่โปร่งใส ซึ่งเคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของเราจะกลับมาอีก เพราะบัตรเลือกตั้งที่มีแค่เบอร์กับช่องให้กาสามารถ ไปปรากฏที่หีบบัตรเลือกตั้งไหนก็ได้ ตรงนี้จะมีผลได้เสีย ในการนับคะแนน

ส่วนปฏิบัติการประเภทมีบัตรเลือกตั้งเพิ่ม ในหีบบัตรหรืออยู่ดีๆ จำนวนผู้ถูกสวมสิทธิในการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้กระบวนการในการเปลี่ยนผ่านอำนาจของคสช.ไปสู่กระบวนการ เลือกตั้งจะไม่ได้รับการยอมรับ แล้วจะกลายเป็นวิกฤตทางการเมือง

อยากฝากไปถึงกกต.ว่าขอให้ละเอียดรอบคอบให้ มาก เพราะการตัดสินใจในวันนี้หากตัดสินใจด้วยการสนองความต้องการของพรรคใดพรรค หนึ่งผลร้ายจะเกิดกับบ้านเมือง วันนี้สิ่งใดที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาจนเป็นที่เข้าใจรับรู้ของผู้มีสิทธิเลือก ตั้งขอให้ปฏิบัติไปตามเดิม เมื่อการเลือกตั้งดำเนินการไปแล้วทุกฝ่ายจะได้ไม่ต้องมาตั้งข้อสงสัย เพื่อที่บ้านเมืองจะได้เดินหน้าไปต่อ

ขอย้ำว่าการตัดสินใจของกกต.ที่จะตัดชื่อกับ โลโก้พรรคจะก่อให้เกิดวิกฤตในการเลือกตั้งครั้งนี้แน่นอน บัตรเลือกตั้งที่ไม่มีชื่อพรรคกับสัญลักษณ์จะก่อให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้ง

……อ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน