คุมเข้ม ‘บิ๊กตู่’ ลงพื้นที่บึงกาฬ ลั่นปลดล็อกแล้วอย่าก่อเหตุวุ่นวาย ฮึ่มนศ.อย่าบิดเบือน

อารักขาเข้มหลังปลดล็อก ‘บิ๊กตู่’ ลงพื้นที่บึงกาฬ แจงบัตรคนจน ยันรัฐบาลไม่ได้แจกเงิน ย้ำช่วยกันทำดูแลบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ก่อนงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แนะเลือกตั้งให้ดูนโยบาย ระบุ อย่าให้ใครทำประเทศวุ่นวายอีก

ปลดล็อก – เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะ เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ไปตรวจราชการจ.บึงกาฬ และหนองคาย และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร) ครั้งที่ 9/2561 ที่จ.หนองคาย ระหว่างวันที่ 12-13 ธ.ค.

ถือเป็นการลงพื้นที่ต่างจังหวัดครั้งแรกของพล.อ.ประยุทธ์ หลังประกาศปลดล็อก รวมถึงยกเลิกการห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน มีผลให้มาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ตามจุดต่างๆในจ.บึงกาฬ เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบ ไม่ให้บุคคลที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในอดีต หรือกลุ่มภาคประชาสังคมเรียกร้องด้านต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่เข้ามาภายในบริเวณงาน มีการแจกภาพถ่ายและชื่อบุคคลต้องห้ามให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง

ทั้งนี้ ในแต่ละจุดที่นายกฯไป ได้ขอความร่วมมือประชาชนที่มาต้อนรับให้วางกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดไว้ด้านล่างของเก้าอี้ ไม่อนุญาตให้สะพายไว้ที่ตัวเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด นอกจากนี้ชาวบึงกาฬและบริเวณใกล้เคียงยังสนใจหาซื้อลอตเตอรี่เลข 44 ซึ่งเป็นทะเบียนรถยนต์พี่พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ในภารกิจที่จ.บึงกาฬโดยนายกฯ ได้นั่งได้ใช้รถโตโยต้า อัลพาร์ท สีดำ ทะเบียน 5 กง 44 กรุงเทพมหานคร

• อ่าน – เปิดคำสั่ง คสช. ปลดล็อก ชุมนุมการเมืองได้ หาเสียงลุยเลือกตั้ง เลิกอายัดบัญชี!
• อ่าน – ทักษิณสู้แล้ว! ชูสามนิ้ว หลังปลดล็อก ลั่นไม่ใช่ความกรุณา แต่เป็นสิทธิ์ที่ควรได้คืน!

เวลา 09.00 น. นายกฯ ได้ร่วมปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึก ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 ก่อนจัดรายการผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียง 909 งานพัฒนาภาค 2 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเป็นห่วงปัญหายางพารา เพราะบึงกาฬมียางมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งต้องดูความต้องการตลาด หากผลิตมากขึ้นเรื่อยๆ ราคาก็จะตกลง จึงขอให้ปรับลดพื้นที่ลงบ้าง รวมถึงปลูกพืชเชิงเดี่ยวหลายชนิดที่มีราคาดี ขอฝากผู้ว่าฯทุกจังหวัดดูนโยบายของรัฐบาลและสร้างความเข้าใจให้ชัดเจนด้วย

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลดูแลผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาทและ 3 หมื่นบาทต่อปี ต้องเห็นใจคนเหล่านี้ ไม่ได้สอนไม่ให้ประหยัดและไม่ได้เอาเงินไปแจก แต่รัฐบาลมีหลายมาตรการลงไปเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงนี้ ถือเป็นระยะสั้น ส่วนระยะยาวมีการฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องต่างๆ

นายกฯ กล่าวว่า การใช้บัตรสวัสดิการ ผู้มีรายได้น้อยที่มีปัญหาเรื่องกดเงิน ซึ่งต้องแก้ไขและเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นจะถูกเขาเอาประโยชน์ มีคนมารับจ้างกดเงินให้ เราเรียนรู้ด้วยเพราะเป็นเจ้าของบัตร ไม่เช่นนั้นรัฐบาลทำอะไรลงมาก็ไม่เกิดผล เม็ดเงิน 500 บาทเป็นเงินไม่มาก รัฐบาลมุ่งหวังลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน ซื้ออุปกรณ์และสินค้าต่างๆ ที่ใช้ประโยชน์ได้นานๆ จึงไม่อยากให้เอาเงินส่วนนี้ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ไปดื่มสุราหรือซื้อของใช้ที่ไม่จำเป็น นี่คือสิ่งที่ต้องแก้ไข ส่วนอื่นๆที่จะใช้ฟุ่มเฟือยก็ต้องไปหารายได้ให้มากขึ้น และขอให้รับฟังจากผู้ว่าฯทุกจังหวัดด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อีกเรื่องหนึ่งการรับฟังจากสื่อ โซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรคือข้อเท็จจริงและไม่ใช่ข้อเท็จจริง อะไรเป็นสาระสำคัญหรือข่าวปลอม รวมถึงต้องให้เด็กและผู้ใหญ่รู้จักแยกแยะ อย่าฟังในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เช่นนั้นจะพัฒนาตัวเองไม่ได้

รัฐบาลห่วงไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ทำอะไรอย่าคิดอย่างสั้นๆ ต้องคิดครบวงจรและทำต่อเนื่อง มียุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปและแผนแม่บทที่วางไว้อย่างชัดเจน ซึ่งรัฐบาลต่อไปต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ แม้วันนี้เราจะใช้งบประมาณมาก แต่ยังอยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด

“ขอให้ประชาชนแยกแยะ มีหลักคิดที่ถูกต้อง เลือกตั้งครั้งหน้า อย่าไปสนใจเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ วันนี้เราเดินตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด อีกทั้งรัฐบาลและคสช.ได้ปลดล็อกให้แล้ว สิ่งสำคัญคือความสงบเรียบร้อย และฝากดูแลในเรื่องงานพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ซึ่งเรื่องนี้แล้วแต่จะทรงโปรดเกล้าฯ ในช่วงเวลาใด แต่เราต้องดูแลความสงบเรียบร้อยให้มากที่สุด”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบันทึกลิงค์รายการวิทยุ พร้อมระบุว่า มาเยือนจ.บึงกาฬกับจ.หนองคาย เช้านี้ได้กล่าวทักทายผ่านคลื่นวิทยุเล่าเรื่องเกษตร แหล่งน้ำและสหกรณ์ อากาศที่นี้เย็นสบาย ฝากความคิดถึงพี่น้องประชาชนทุกคน

จากนั้นเวลา 10.10 น. ที่วัดโพธาราม จ.บึงกาฬ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯและรมว.ยุติธรรม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กราบสักการะหลวงพ่อพระใหญ่ โดยนายกฯ ได้จุดบั้งไฟน้อย 9 บั้ง พร้อมอธิฐานขอให้จ.บึงกาฬเจริญรุ่งเรือง ซึ่งตามความเชื่อของชาวบ้าน หากใครบนบานแล้วสมหวัง จะนิยมจุดบั้งไฟน้อย 9 บั้ง

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการบูรณาการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และเยี่ยมชมบูธบริการทางการแพทย์ต่างๆ โดยได้แวะบูธกรมสุขภาพจิต เสี่ยงเซียมซีความสุข โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้เซียมซีหมายเลข 17 มีคำทำนายว่า คุณกำลังได้รับพลังแห่งธาตุไฟอย่างเต็มเปี่ยม ธาตุไฟ คือ ความร้อนความกระตือรือร้น ความก้าวไปข้างหน้า คือความเร่งรีบ ความวู่วาม และการทำลาย แนะหากคุณกำลังเร่งรีบกับทุกสิ่งในชีวิต ถึงเวลาที่คุณจะต้องทำอะไรให้ช้าลงเสียบ้าง หากคุณกำลังรุมร้อนหงุดหงิด ขุ่นเคืองใจถึงเวลาที่คุณจะหาวิธีสงบจิตใจ ค้นหาความสุข สงบเย็น ธาตุไฟช่วยเผาผลาญ สร้างความอบอุ่น แต่ก็ทำให้ร่างกายสุดโทรม และเหนื่อยอ่อน นี่เป็นเวลาที่คุณควรได้ทบทวนชีวิต แล้วเลือกปรับสมดุลใหม่ให้ลงตัว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า เงิน 500 บาทที่รัฐบาลให้ไป ถ้าอยากซื้อร้านไหนก็ไปซื้อ ถ้าไม่ทำ ไม่เปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้เงิน ตนไม่ต้องการอะไร ตนตั้งใจทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ ทำให้ต่างประเทศยอมรับ ถึงแม้เราจะยังไม่เป็นประชาธิปไตยก็ตาม ทั้งนี้ ตนไม่ต้องการให้ใครมารักรัฐบาล แค่ต้องการช่วยผู้มีรายได้น้อย วันนี้รัฐบาลทำทุกอย่างให้ต่อเนื่องเชื่อมโยง เดี๋ยวจะมีการเลือกตั้งอยู่แล้ว ขอให้เลือกให้ดี ให้เลือกจากนโยบายของเขา ถามเขาว่าสิ่งที่เขาพูดจะให้อย่างไร ได้เมื่อไร

“รัฐบาลนี้ไม่ยุ่งวุ่นวายกับการเมือง แต่จะทำให้เกิดความปรองดอง วันนี้ปลดล็อกไปแล้ว จึงอย่าไปยอมให้เขาทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในประเทศอีก รัฐบาลนี้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. เมื่อปลดล็อกให้แล้ว ประชาชนอย่ายอมให้ใครนำไปสู่ความวุ่นวายสับสนอลหม่าน เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกไม่ได้ เพราะไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า หากเกิดขึ้นอีกก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว ทั้งนี้ การเลือกตั้งต้องดูแลนักศึกษาอย่าให้ไปบิดเบือน ไม่จำเป็นต้องไปทำแบบนั้น สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา ใครจะเป็นก็ไม่ว่า ซึ่งการทำความดีต้องให้กำลังใจกัน ไม่ใช่มาบั่นทอนบิดเบือนให้ร้ายกัน การเลือกตั้งไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า เราทำกุศลร่วมกันเพื่อแผ่นดินของเรา ทำบุญเข้าวัดเข้าวา ทำกุศลกับคนที่ยากลำบาก ไม่ใช่ทำบุญเยอะๆ เพื่อให้ขึ้นสวรรค์ มันไม่ใช่ สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ทุกคนต้องรู้ว่าทำดีหรือไม่ดี ต้องหักห้ามใจตนเอง มีหิริโอตัปปะ สิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดมันให้ร้าย วันนี้ประเทศไทยจะเป็นอย่างนั้นไม่ได้แล้ว วันนี้ตนสายตาแย่แล้วเพราะต้องอ่านเอกสารทุกวัน เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประชาชน การแก้ปัญหาต่างๆ เยอะแยะไปหมด