‘จาตุรนต์’ ชี้มีเลือกตั้ง ‘บิ๊กตู่-ครม.’ ต้องเป็นรัฐบาลรักษาการ จี้หยุดใช้งบหว่านหาเสียง

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศเป็นนักการเมืองเต็มตัวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเป็นนักการเมืองเต็มตัว และชัดเจนกำลังเป็นผู้ถูกเสนอชื่อให้เหมือนเผู้ลงสมัครเป็นนายกฯ ทำให้มีประเด็นในเรื่องนายกฯ และรัฐมนตรี 4 คนของพรรคพลังประชารัฐ จะลาออกหรือไม่ เมื่อไหร่

“ซึ่งความจริงแล้ว ถ้าโดยหลักทั่วไปตามปกติ นายกฯ และรัฐมนตรี สามารถรักษาการหรือปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างที่มีการเลือกตั้งได้ เพียงแต่จะอยู่ในสภาพรักษาการ แต่ในกรณีนี้ทั้งนายกฯ และรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ในสถานะรักษาการ แต่มีอำนาจเต็มมันก็เลยเป็นปัญหา ในส่วนรัฐมนตรี 4 คนมีปัญหาเพราะได้เคยพูดไว้ จะลาออกเวลาที่เหมาะสม เมื่อมาถึงตอนนี้เวลาที่เหมาะสมหมายถึงเมื่อไหร่ หมายถึงลงสมัครไปแล้วหรือเลือกตั้งไปแล้วก็ไม่มีใครรู้”

“แต่สิ่งที่จะทำให้ดีได้ คือ ทั้ง ครม.ต้องทำตัวให้เหมือนรัฐบาลรักษาการ หยุดใช้งบประมาณหว่านโปรยเพื่อหาเสียง ถ้าจะแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการต้องขอความเห็นชอบจาก กกต. แต่ดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีทางทีจะไม่หยุดเลย เร็วๆ นี้เหมือนจะเอางบฯ ไปแจกอีกหลายๆ จังหวัด และยังไม่รู้มีอีกกี่แห่ง แต่ปัญหาที่ทำให้ซับซ้อนมากขึ้น คือการที่พล.อ.ประยุทธ์ กำลังจะเป็นผู้สมัครเป็นนายกฯ แต่ว่ายังมีสถานะเป็นหัวหน้าคสช.อยู่ด้วย ไม่ตรงกับการออกแบบการสิ้นสุดอำนาจคสช.ไว้ และให้ประชาชนเลือกนายกฯ ที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะที่ไม่ใช่หัวหน้าคสช.เอง พอหัวหน้าคสช.มาเป็นผู้สมัครเป็นนายกฯ เสียเอง เลยทำให้ไม่มีทางที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นธรรมได้ ทางออกคือต้องประกาศว่าไม่ใช่อำนาจของคสช. โดยเฉพาะอำนาจ ม.44” นายจาตุรนต์กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน“สำหรับ 4 รัฐมนตรีอาจเลียนแบบพล.อ.ประยุทธ์ เรื่องการเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะเลื่อนมาไม่รู้กี่ครั้่งกี่หนแล้ว และ 4 รัฐมนตรีเคยพูดไว้จะลาออกเมื่อเวลาเหมาะสมแล้ว และเวลาพูดทำท่าทำทางแสดงความโอ้อวดทำแน่ แต่มาถึงตอนนี้ไม่มีความชัดเจน เขาคงต้องมีเรื่องเชื่อมโยงโครงการรัฐบาลเข้ากับนโยบายพรรคพลังประชารัฐชัดเจนมากกว่านี้ ถึงได้บอกว่า ความจริงการเรียกร้องให้ครม.ลาออก ถ้าในระบบปกติก็ไม่จำเป็น แต่เวลานี้มันเกิดสภาพที่ใกล้วันเลือกตั้งไปทุกที ทั้งนายกฯ และรัฐมนตรี จะเป็นผู้สมัครแต่ไม่มีสถานะรักษาการ ตรงนี้มันเป็นปัญหาสำคัญ ทำให้อะไรผิดเพี้ยนไปหมด”

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ส่วนของบัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรประชารัฐที่มีลด แลก แจก แถม ไม่หยุด โดยเฉพาะช่วงนี้ทำกันเหมือนเข้าข่ายให้และสัญญาว่าจะให้อย่างชัดเจน แต่เป็นการให้และสัญญาว่าจะให้โดยเงินภาษีของประชาชน และล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ ท้าพรรคการเมืองอื่นถ้าใครไม่เห็นด้วยให้ยกเลิกโครงการนี้ เป็นการทำให้เราเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการเอาโครงการนี้เหล่านี้มาหาเสียง และขั้นต่อไปคงไปบอกประชาชนว่า ถ้าเป็นพรรคอื่นจะเลิกต้องเลือกพลังประชารัฐเท่านั้นถึงจะมีโครงการต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้น

“แต่คงไม่มีพรรคไหนไปประกาศยกเลิกโครงการบัตรคนจนหรือโครงการลด แลก แจก แถม ทั้งหลาย ซึ่งโครงการเหล่านี้ไม่ต่อเนื่องอยู่แล้ว ผ่านไประยะสั้นๆ จะหยุดไป หรือต่อไปข้างหน้าจะพบว่าไม่ยั่งยืนทางการคลังและไม่ยั่งยืนทางเศรษฐกิจด้วย จะมีภาระทางการคลังมากขึ้น และยิ่งทำโครงการอย่างนี้นานไปก็จะรับภาระไม่ไหว และไม่ได้แก้ปัญหาความยากจน”

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อเป็นอย่างนี้ไม่มีพรรคไหนไปยกเลิก เพราะจะอยู่ไม่ได้กันไปเอง แต่สิ่งที่พรรคการเมืองควรต้องคิดเพื่อแก้ปัญหาให้ได้อย่างยั่งยืนและระยะยาว ควรดูแลระบบสวัสดิการให้สามารถเป็นประโยชน์ต่อประชาชนไปได้ระยะยาว ที่สำคัญไม่ได้อยู่ว่าจะไปแจกเงินคนจนอย่างไร เพราะยิ่งแจกยิ่งมีคนจนมากขึ้น แต่ต้องหาทางทำอย่างไรให้คนจนในประเทศนี้น้อยลง ซึ่งแนวคิดนี้ต่างกับรัฐบาลปัจจุบันตรงกันข้ามเลยทีเดียว

“ส่ิ่งที่ต้องชี้แจงกับประชาชน คือ เป็นโครงการแบบฉาบฉวยต้องการคะแนนเสียง เพื่อให้เกิดการสืบทอดอำนาจอีกนาน โดยโครงการไม่ยั่งยืน ผ่านไปเป็นภาระทางการคลังมา ใครก็ทำต่อไม่ได้ แต่สิ่งที่ต้องการจริงๆ คือดูแลคนจนอย่างเหมาะสม และทำให้คนจนมีโอกาสที่จะพ้นจากคนจน ต้องทำให้คนจนในประเทศลดลงให้ได้ ซึ่งถ้าเดินไปในทิศทางตามที่รัฐบาลนี้ทำอยู่มีแต่จะเสียหาย คนจนก็จะยิ่งเดือดร้อน ถ้าเราลดคนจนลงได้จะเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่และคนจนมากกว่า

จากนั้นวันเดียวกัน ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ​ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคไทยรักษาชาติพร้อมแกนนำพรรค ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในเขตทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ ที่มัสยิดอัตตักวา แขวงบางมด มีประชาชนให้การต้อนรับเพื่อสะท้อนความคิดเห็นและปัญหา ทั้งเรื่องปัญหายาเสพติด​ เศรษฐกิจย่ำแย่​ ค่าแรงขั้นต่ำไม่พอใช้ การให้บริการด้านสาธารณะสุข และเบี้ยผู้สูงอายุ​ที่ไม่ครอบคลุมเพียงพอ

โดย ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่าพรรคไทยรักษาชาติจะนำเทคโนโลยีมาขยายโอกาสให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของคนหนุ่มสาว แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่สามารถเรียนรู้ได้ พรรคผสมผสานแนวคิดระหว่างคนรุ่นใหม่กับผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ตั้งแต่สมัยไทยรักไทยมาร่วมพัฒนาประเทศ ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่าข้อกังวลของประชาชนเช่นปัญหาเรื่องยาเสพติด รัฐบาล คสช.เข้มงวดแต่กับประชาชน แต่ไม่เข้มงวดกับปัญหายาเสพติด คนที่อยู่ในคุกล้วนแล้วแต่เป็นผู้เสพ แต่ผู้ขายกลับไม่ถูกลงโทษ จึงทำให้ปัญหายาเสพติดรคได้รับการแก้ไขไม่ตรงจุด

จากนั้นเวลา 17:00 น. แกนนำพรรค เดินทางมาที่ซอยเจริญกรุง 85 เพื่อพบปะกับประชาชน ย่านเจริญกรุง โดยบรรยากาศการลงพื้นที่ เป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนพ่อค้าแม่ค้ามอบดอกไม้ให้แกนนำพรรคและสะท้อนปัญหาปากท้องและความเป็นอยู่ให้พรรคไปพัฒนานโยบาย โดยนายจาตุรนต์ รับปากว่าจะนำข้อเสนอแนะและปัญหาไปรับใช้ในนโยบาย หากเลือกคนที่ทำงานเป็นมีประสบการปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขได้อย่างเป็นรูปธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน