เต้น อัดผู้สมัคร พปชร.เปย์บัตรคนจน เย้ย น่าเปลี่ยนชื่อเป็น ‘พลังประชารัฐ(บาล)’

เต้น อัดผู้สมัคร พปชร.เปย์บัตรคนจน – วันที่ 23 ธ.ค. นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเล่ือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่หาเสียงร่วมกับแกนนำพรรคที่จ.สมุทรสงคราม โดยให้ความเห็นกรณีการปราศรัยของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุถึงความขัดแย้งในอดีต โดยเฉพาะเหตุระเบิด และข่าวคลิปไวรัลชวนสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแลกกับบัตรคนจนที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ที่จริงนายสนธิรัตน์และพรรคพลังประชารัฐ มีหลายเรื่องที่ควรพูดเช่น รายรับที่มาจากการระดมทุนมาจากไหน ส่วนราชการใดเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ หรือว่าหลังจากนั้นจะมีกติกาอะไรออกมาเพื่อชิงความเปรียบจากพรรคการเมืองอื่นในสนามเลือกตั้ง แต่นายสนธิรัตน์ไม่พูดเรื่องนี้ กลับไปพูดเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา ซึ่งมีการพาดพิงกลุ่มต่างๆทางการเมือง

ทั้งที่ ตลอดช่วงเวลาหลังปลดล็อกทางการเมืองก็ไม่มีใครหันกลับไปพูดถึงเรื่องเหล่านั้นอีก เป็นความพยายามเอาภาพความขัดแย้งในอดีต เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง ว่าพรรคพลังประชารัฐอยู่นอกวงความขัดแย้ง ทั้งที่จริงแล้วต้องมองภาพให้ชัดว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่อยู่ตรงกลางสถานการณ์ความขัดแย้ง เป็นพรรคที่น่าจะได้ประโยชน์สูงสุดจากความขัดแย้งกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา ให้กำเนิดพรรคพลังประชารัฐผ่านอำนาจของคณะรัฐประหารหรือไม่

เรื่องนี้เชื่อว่าประชาชนมีคำตอบในใจแล้ว ว่ากลุ่มผู้มีอำนาจปัจจุบันมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสำคัญกับความขัดแย้งที่ผ่านมาหรือไม่ ตนว่าประชาชนทราบดี ดังนั้น สิ่งที่ควรทำก็คือพรรคพลังประชารัฐต้องลดการพาดพิงโจมตี สร้างเงื่อนไขความขัดแย้งใดๆ ในใจประชาชนขึ้นมาอีก เพราะตัวเองเกิดมาจากความขัดแย้ง และหลายคนยังตั้งคำถามด้วยซ้ำไปว่า ผู้มีอำนาจซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดพรรคพลังประชารัฐ มีส่วนสำคัญในการทำให้ความขัดแย้งบานปลายกลายเป็นสถานการณ์รัฐประหารหรือไม่

“ในส่วนของพรรคไทยรักษาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เราจะใช้การเลือกตั้งอย่างสร้างสรรค์ เราจะเดินหน้าด้วยนโยบายที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ให้พี่น้องประชาชน เราจะอธิบายถึงการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เราไม่มีแนวทางในการกล่าวหา ใส่ร้าย หรือโจมตีทางการเมือง เราไม่มีแนวทางสร้างความขัดแย้งใดๆขึ้นอีก นอกจากใช้ประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขความขัดแย้งและนำพาประเทศไทยไปข้างหน้า” นายณัฐวุฒิ กล่าว

แนะควรใช้ชื่อ “พรรคพลังประชารัฐบาล”

เมื่อถามถึงคลิปที่ระบุว่ามีการสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแลกกับการแจกบัตรคนจน นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนมองเหมือนที่ประชาชนเห็นตลอดว่า

ที่จริงพรรคพลังประชารัฐ อาจยังไม่ใช่ชื่อเต็มของพรรคการเมืองนี้ พรรคการเมืองนี้น่าจะมีชื่อเต็มว่า “พรรคพลังประชารัฐบาล” หรือไม่ เพราะองคาพยพต่างๆ อำนาจรัฐก็ดูเหมือนอำนวยความสะดวกและเต็มใจในการขับเคลื่อนทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐในหลายย่างก้าว

แต่โดยส่วนตัวเห็นว่า ยิ่งทำแบบนี้ให้ชัด ยิ่งดี ประชาชนจะได้ตัดสินใจง่ายตนไม่เคยเชื่อว่าการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ให้พรรคของตัวเอง จะทำให้พรรคนั้นๆ ประสบความสำเร็จ ตรงกันข้าม ประชาชนจะให้บทเรียนอย่างเจ็บปวดกับพรรคเหล่านั้น หลายยุคหลายสมัยก็เป็นแบบนี้

อนาคตประเทศ “ประชาธิปไตย” หรือ “เผด็จการ”

เมื่อถามถึงความชัดเจนที่พรรคพลังประชารัฐเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกฯ นั้น นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ชัดเจนตั้งนานแล้ว พรรคพลังประชารัฐไม่ต้องบอก ประชาชนจะบอกต่อไปกันทั่วๆประเทศแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะได้รับเสนอช่ื่อเป็นว่าที่นายกฯ สถานการณ์ตอนนี้ไม่มีอะไรคลุมเครือ ทุกอย่างโปร่งใสต่อหน้าประชาชน ก็เป็นหนทางเลือกเพียง 2 ทางสำหรับอนาคตประเทศ คือประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ

ถ้าประชาชนเห็นว่าตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา อยู่ดีกินดีกับอำนาจนอกระบบเช่นนี้ ก็คงจะสนับสนุนให้สืบทอดอำนาจกันต่อไป แต่ถ้าประชาชนมีความทุกข์แสนสาหัสกับอำนาจปัจจุบัน ทางเดียวเท่านั้นคือ เลือกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย นำพาบ้านเมืองออกจากวังวนของอำนาจแบบนี้


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน