“คสช.” ยังเข้ม “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” วันที่ 4 ยึดรถแล้ว 2,729 คัน ยึดใบขับขี่ 4,326 คน ชี้ หวังลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ระบุ เตรียมดูแลการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ทุกพื้นที่
ปีใหม่ – วันที่ 31 ธ.ค. พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงมาตราการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” วันที่ 4 ว่า เจ้าหน้าที่ทุกส่วนยังคงทุ่มเทปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการสัญจร ดูแลความปลอดภัยสาธารณะ ป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายในทุกพื้นที่ โดยจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ เข้าดูแลความเรียบร้อยในสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญของแต่ละจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาภาพรวมก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ส่วนสถานที่สำคัญที่จะมีการจัดกิจกรรม ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในค่ำคืนนี้ อาทิ สวดมนต์ข้ามปีถวายพระราชกุศลเสริมสิริมงคล, การจัดงานเคาท์ดาวน์ เป็นต้น เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดตรวจคัดกรองบุคคล สิ่งของต้องห้าม สิ่งเสพติด และความปลอดภัยสาธารณะ เพื่อดูแลการจัดงานให้มีความเหมาะสม จึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในการร่วมกิจกรรมด้วย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
รองโฆษกคสช. กล่าวอีกว่า สำหรับการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ ตามมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” เจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในวันที่ 30 ธ.ค. 2561 ดังนี้
รถจักรยานยนต์ พบกระทำความผิด 34,257 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถไว้ 709 คัน ส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 27,766 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 21,837 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 446 คน รถยนต์ 272 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 15,655 คน
โดยตลอด 4 วันที่ผ่านมา วันที่ 27 – 30 ธ.ค. 2561 เจ้าหน้าที่ได้เก็บรักษารถที่ฝ่าฝืนมาตรการ ดื่มไม่ขับไว้แล้ว 2,729 คัน (แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 1,945 คัน และรถยนต์ 784 คัน) ยึดใบขับขี่ 4,326 คน ส่งดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 103,913 คน (แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 63,240 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 40,673 คน)
“คสช. และรัฐบาล ขอเชิญชวนประชาชนร่วมในกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 2562 ที่ทางจังหวัดต่างๆ จัดขึ้น เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคลกับทุกคน” พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว
