เรื่องยังไม่จบ!! “เรืองไกร” จ่อร้อง กกต. ตรวจสอบบัญชีโต๊ะจีน พปชร. 650 ล้าน – รปช. 234.4 ล้าน

ตรวจสอบบัญชีโต๊ะจีน – วันที่ 17 ม.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เปิดเผยว่า วันนี้คือวันที่ครบกำหนด 30 วัน ที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดกิจกรรมระดมทุนได้เงินจำนวน 234.4 ล้านบาท ซึ่งตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 มาตรา 64 วรรคสอง บัญญัติให้หัวหน้าพรรคการเมืองต้องประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปถึงจำนวนและที่มาของเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ที่ได้มาจากกิจกรรมดังกล่าว และให้มีหนังสือแจ้งนายทะเบียนทราบด้วย

และในวันที่ 18 ม.ค. ก็จะเป็นวันที่ครบกำหนด 30 วัน ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดกิจกรรมระดมทุนจัดเลี้ยงโต๊ะจีน ที่มีการประกาศว่าจะได้เงินประมาณ 650 ล้านบาท ก็เช่นเดียวกันที่หัวหน้าพรรคการเมืองจะต้องประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปถึงจำนวนและที่มาของเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่ได้มาจากกิจกรรมดังกล่าว และให้มีหนังสือแจ้งนายทะเบียนทราบด้วย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า จากการติดตามข้อมูลในกูเกิลของพรรคการเมืองทั้งสองจนถึงเวลา 12.00 น.ของวันนี้ ยังไม่พบการประกาศตามความในมาตรา 64 วรรคสองแต่อย่างใด ซึ่งหากไม่มีการประกาศภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ก็อาจจะมีโทษปรับตามมาได้ตามความในมาตรา 106 และมาตรา 123

ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องนำไปร้องขอให้ กกต. และนายทะเบียนทำการตรวจสอบต่อไป ว่าหากพรรคการเมืองทั้งสองประกาศตามความในมาตรา 64 วรรคสอง แล้ว ก็จะต้องลงบัญชีรายรับรายจ่ายต่อไป และปิดบัญชีภายในสิ้นปีปฏิทินที่ผ่านมา แต่หากยังไม่ประกาศก็เป็นหน้าที่ของ กกต. และนายทะเบียนจะต้องดำเนินการคิดค่าปรับตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ จะยื่นหนังสือโต้แย้งความเห็น กกต.ตามมติเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ระบุว่า “กระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบของพรรคฯ” มาเป็นเหตุในการยกคำร้องที่ร้องขอให้ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตามความในมาตรา 28 ด้วย เพราะเห็นว่าข้อบังคับและระเบียบของพรรคฯ ที่ กกต.กล่าวอ้างไม่อาจจะขัด พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 ได้

และการยกคำร้องนี้ใช้เวลาไม่เกิน 5 วันทำการหลังจากที่ไปให้ถ้อยคำเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2561 เพราะ กกต.แจ้งว่ามีการประชุมพิจารณาเรื่องนี้เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวันที่ 29 ธ.ค. 2561 ถึงวันที่ 1 ม.ค. 2562 เป็นวันหยุด จึงมีวันทำการในการพิจารณาเรื่องนี้เพียง 4 วัน คือวันที่ 2-4 และ 7 ม.ค. กรณีนี้จึงดูเหมือนจะเป็นการยกคำร้องที่รวดเร็วเกินไป เพราะไม่มีการแจ้งว่าได้มีการสอบข้อเท็จจริงจากผู้ถูกร้องหรือพยานที่เกี่ยวข้องแล้วหรือไม่ และการอ้างถึงข้อบังคับและระเบียบพรรคฯ ดังกล่าว ก็ไม่ระบุชื่อข้อบังคับและระเบียบ รวมทั้ง ปี พ.ศ.ใดด้วย เหตุผลของ กกต.จึงน่าจะขาดความชัดเจน จนน่าสงสัยว่าเป็นการหาเหตุผลแก้ต่างให้ผู้ถูกร้องหรือไม่

ดังนั้นในวันที่ 18 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ตนจะไปยื่นหนังสือแยกเป็นสองคำร้อง เพื่อขอให้ กกต.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรมต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน