‘ชัชชาติ-หญิงหน่อย’ ตื่นแต่ไก่โห่ โผล่ดูย่านรถติด ชูแก้ง่ายๆ เริ่มจากลดค่าทางด่วน!

ชัชชาติ หญิงหน่อย ลดค่าทางด่วน – เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่แยกลำสาลี เขตบางกะปิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรค และ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 13 บางกะปิ-วังทองหลาง ลงพื้นที่บริเวณแยกลำสาสี

เพื่อสำรวจสภาพปัญหาการจราจรที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เส้นทางสำโรง ศรีนครินทร์ ลาดพร้าว ลำสาลี ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร จากนั้นได้เดินทางมายังตลาดสดบางกะปิ เพื่อพบปะพูดคุยกับพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของภายในตลาด

จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ ว่า ถึงปัญหาการจราจรในพื้นที่ลำสาลี ปกติก็หนักอยู่แล้ว แม้ไม่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าก็เรียกว่าแยกลำสาหัส ความเป็นจริงเราดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสะพานแยกลำสาลี และขณะนี้มีการสร้างรถไฟฟ้าทั้งสายสีเหลืองและสายสีส้ม ประชาชนที่จะเดินทางไปทำงานจะต้องผ่าน ถ.ลาดพร้าว และ ถ.รามคำแหง ต้องเจอสภาพการจราจรติดขัด

อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่วันนี้เราพบปัญหา 2-3 อย่างคือ การคืนช่องทางจราจรให้สามารถสวนทางได้ จะต้องดูแลเรื่องของรถที่จอด ที่กลับรถจุดที่ออกจากซอย เป็นปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไข เมื่อมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าขึ้นมาการดูแลจะต้องมากเป็นพิเศษ ซึ่งตนเห็นใจเจ้าหน้าที่ และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงาน

นอกจากนี้ในระหว่างที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า การที่จะช่วยให้ประชาชนใช้ทางด่วน ใช้เส้นทางลัดที่มีค่าใช้จ่าย รัฐบาลจะต้องคุยกับเอกชน เพื่อออกเป็นมาตรการช่วยเหลือ ให้ประชาชนมีทางเลือก

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนการพบปะพูดคุยกับผู้ค้าในตลาดบางกะปิในวันนี้ ก็เหมือนในทุกที่ที่มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ค้าขายไม่ดี มันเป็นเรื่องที่เป็นความจริงมา 4-5 ปีแล้ว เพียงแต่ว่าผู้นำของประเทศจะทราบถึงปัญหาตรงนี้หรือไม่ ทั้งที่มีการใช้งบประมาณ 11.4 ล้านล้านในช่วง 4-5 ปีมานี้ รวมถึงเงินกู้อีก ซึ่งเงินที่ลงไปไม่สามารถหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจได้เลย เพราะเงินลงไปไม่ถึงคนรากหญ้าซึ่งเป็นฐานใหญ่ของประเทศ

ไม่พลาดข่าวเข้มข้น และข่าวสำคัญ กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

หากกลุ่มคนเรานี้ไม่มีอะไรได้และไม่มีกำลังซื้อ จะไม่สามารถขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีปัญหาเพิ่มเติม เรื่องการจัดระเบียบทางเท้าในกรุงเทพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่การจัดระเบียบต้องมาพร้อมกับสองสิ่งคือ การคืนทางเท้าให้คนในกรุงเทพสามารถสัญจรได้แล้ว ยังจะต้องมีที่ทำมาหากินให้กับคนที่เขาเคยขายของตามทางเท้า หากจัดระเบียบเอาแค่กฎหมายโดยไม่คืนวิถีชีวิตให้กับพ่อค้าแม่ค้า ก็จะไปด้วยกันไม่ได้

ซึ่งในสมัยพรรคไทยรักไทยเราเคยเสนอแผน การใช้พื้นที่บริเวณใต้รถไฟฟ้า และบริเวณจุดสถานีขึ้นลงในการที่เราจะต้องช่วยหาสถานที่ขายของ ทั้งนี้ เรามองว่าจะเช่าอาคารพานิชย์แล้วทำเป็นที่ขายของ ให้กับพ่อค้าแม่ค้า ชาวบ้านที่เป็นผู้บริโภคก็จะมีความสะดวก ซึ่งปัญหาตรงนี้ก็ยังคาราคาซังอยู่และซ้ำเติมในเรื่องเศรษฐกิจ

ด้าน นายชัชชาติ กล่าวว่า ตอนนี้กทม. เรามีการก่อสร้างรถไฟฟ้าจำนวน 7 สาย รวมระยะทาง 160 กิโลเมตร ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ฝั่งตะวันออก ทำให้พื้นที่ฝั่งนี้ได้รับผลกระทบ และประชาชนที่อยู่อาศัยจำนวนมาก สิ่งที่ตนสังเกตเห็นถึงภาครัฐ จะต้องกำชับดูแลผู้รับเหมาให้ดี โดยการใช้พื้นที่เท่าที่จำเป็น อย่ากันพื้นที่มากเกินกว่าความจำเป็น เพราะจะทำให้ผู้รับเหมาสะดวกแต่ประชาชนลำบาก

ดังนั้นภาครัฐต้องเข้มงวดและหาทางเลือก เช่น ให้ประชาชนใช้เส้นทาง วงแหวน ไปขึ้นทางด่วนพระรามเก้า เพื่อเข้ากรุงเทพฯ ส่วนนี้รัฐบาลจะช่วยลดค่าทางด่วนเส้นวงแหวนได้หรือไม่เพราะประชาชนจะได้มีทางเลือกมากขึ้น ซึ่งเราทุกคนจะต้องช่วยกัน

ทั้งนี้ ตนเห็นว่าภาครัฐได้พยายามแล้ว ขณะเดียวกันภาคเอกชนก็จะต้องช่วยด้วย นอกจากนี้ปัญหาอีกอย่างที่เจอคือเรื่องศูนย์การค้า ที่ต้องเห็นประโยชน์ส่วนรวม อย่าเอาประโยชน์ส่วนตัว ต้องจัดให้มีที่จอดรถรับส่งสาธารณะ รถแท็กซี่ในศูนย์การค้า ไม่ให้มาจอดรับที่ข้างถนน ซึ่งการแก้ปัญหาทั้งหมดจะต้องร่วมมือกัน พร้อมกับมีการวางแผนระยะยาว


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน