“อนุทิน” ปักธงส.ส.กทม. ลงพื้นที่เมืองหลวงครั้งแรก ยัน ภูมิใจไทย ไร้ปัญหากติกาหาเสียง

“อนุทิน” ปักธงส.ส.กทม. ลงพื้นที่เมืองหลวงครั้งแรก ยัน ภูมิใจไทย ไร้ปัญหากติกาหาเสียง ชูนโยบายอยู่บ้านก็ทำงานได้ ช่วยลดปัญหาจราจร-ลดฝุ่นพิษ ตอนนี้หยุดโพสต์เฟซบุ๊ก เน้นเคาะประตูบ้าน ลั่น นี่คือเวลาของประชาธิปไตยต้องมุ่งหน้าสู่อนาคต

ภูมิใจไทย – เมื่อเวลา 06.15 น. วันที่ 25 ม.ค. ที่สวนธนบุรีรมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่สวนธนบุรีรมย์ เขตราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ กทม. พร้อมกับนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรค และทีมว่าที่ผู้สมัคร กทม. และจังหวัดใกล้เคียง ของพรรคภูมิใจไทย

อาทิ นายไสว โชติกะสุภา ว่าที่ผู้สมัครเขตราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ กรุงเทพ, นายสุวัจน์ ม่วงศิริ ว่าที่ผู้สมัคร กรุงเทพ, น.ส.สายรุ้ง ปิ่นโมรา ว่าที่ผู้สมัครกรุงเทพ, นายจิตรภณ ทิพย์โภคาสกุล ว่าที่ผู้สมัคร เขตบางแค กรุงเทพ, น.ส.เรวดี รัสมิทัต ว่าที่ผู้สมัคร จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ระหว่างการลงพื้นที่พบปะประชาชนที่มาออกกำลังกาย โดยตลอดทางนายอนุทิน และคณะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี มีประชาชนเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปจำนวนมาก

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

นายอนุทิน เปิดเผยว่าครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างเป็นทางการครั้งแรกของพรรคภูมิใจไทย โดยเหตุผลที่เลือกสวนสาธารณะ เพราะเป็นสถานที่ที่ประชาชนมาออกกำลังกาย เราจะได้สอบถามว่าคน กทม.ต้องการอะไร ซึ่งตนก็เพิ่งทราบว่า แม้พื้นที่สวนจะกว้างใหญ่ แต่ประชาชนยังต้องการวัสดุอุปกรณ์ในการออกกำลังกายมากกว่านี้ บางอย่างขอมาเป็นปีก็ยังไม่ได้ ซึ่งเราจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปประสานกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการต่อไป

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ทางพรรคส่งคนที่ดีที่สุดเป็นว่าที่ผู้สมัครของพรรค เพราะพรรคไม่คิดดูถูกประชาชน อาทิ นายไสว เป็นคนที่ทำงานมานานพรรคไว้ใจว่ามีความนิยม ระหว่างเดินวันนี้ประชาชนทักทายนายไสวมากกว่าตนด้วยซ้ำ จึงค่อนข้างมีความมั่นใจ สมัยก่อนพรรคภูมิใจไทยเวลาเดินในกรุงเทพฯ ไม่มีใครรู้จัก แต่วันนี้มีคนที่เชื่อมั่นและให้กำลังใจ เราเป็นพรรคที่ตั้งใจทำงาน ไม่ได้มาชิงไหวชิงพริบในทางการเมือง หรือสร้างความขัดแย้ง เที่ยวนี้ขอทำอย่างเดียวคือทำงานเพื่อปากท้อง ไม่ทำอย่างอื่น

สำหรับกรณีที่กังวลว่ามีกฤษฎีกาออกมาแล้วจะใช้สื่อออนไลน์หาเสียงไม่ได้ สำหรับตน ไม่ได้คิดเรื่องนี้มากนัก ในเมื่อโพสต์ไม่ได้ ก็เดินเท้าลงพื้นที่ พรรคภูมิใจไทยพร้อมทำตามกฎหมาย ตั้งใจ ไม่มีข้อแม้ พร้อมมั่นใจกระแสในพื้นที่ กทม.อยู่ในระดับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก่อนที่บางแค ที่ทุ่งครุ พูดชื่อภูมิใจไทย คนไม่รู้จัก เดี๋ยวนี้ คนรู้จักร้องอ๋อ ตนพอใจ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าในกรุงเทพมีหลายพรรคสู้กันภูมิใจไทยขอทำให้ดีที่สุด

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทย เน้นลดความแออัดบนท้องถนนทั้งเรื่องการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ รวมไปถึงเรื่อง Co-Working Space หากทำสำเร็จจะช่วยลดปัญหาฝุ่นอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ยังกล่าวถึงปัญหาปากท้องเป็นปัญหาของคนไทยทุกคน ซึ่งสอดรับกับพรรคภูมิใจไทยที่มองว่าปัญหานี้ เป็นปัญหาเร่งด่วน ทั้งนี้ พรรคมีแนวทางแก้ไขไว้แล้ว และเป็นเรื่องที่ทำได้จริง ทำได้เลย เพียงแต่เราขอโอกาสเท่านั้น

“ชัดเจนแล้วว่าประเทศเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งแล้ว การหาเสียงอาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่เราทนมาได้ตั้ง 5 ปี เรื่องแค่นี้ ทำไมจะทนไม่ได้ ตอนนี้ เราอยู่บรรยากาศประชาธิปไตย อะไรที่มันไม่ใช่ประชาธิปไตย ก็ขอให้ถอยออกไปก่อน” นายอนุทินกล่าวย้ำ

จากนั้นนายอนุทิน และทีมงานพรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่ ชุมชนคลองรางจาก เขตทุ่งครุ พบปะพี่น้องประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาระหว่างการลงพื้นที่ มีชาวบ้านเข้ามาทักทายอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เสียงที่ได้ยินจากการพบปะประชาชน กทม. คือคนกทม. ต้องการความปลอดภัยมากกว่านี้ ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยต้องกลับไปขบคิดเพื่อหาแนวทางมาตอบสนองพี่น้องประชาชน แต่ส่วนตัว เสนอให้บูรณาการเจ้าหน้าที่ในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ แทนที่การของบมาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย

ด้านนายไสว โชติกะสุภา ผู้สมัคร ส.ส.เขตราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า หลังจากพรรคได้นำเสนอนโยบายรณรงค์หาเสียงหลายๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ไม่ว่านโยบายอยู่บ้านก็ทำงานได้ หรืออยู่บ้านก็เรียนได้ นโยบายการศึกษาผ่านออนไลน์ตามโครงการ Thailand Sharing University เรียนฟรีตลอดชีวิต นโยบาย Co-Working Space 1 แขวง 1 ออฟฟิต นโยบายกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา “กยศ.” ซึ่งนโยบายทั้งหมดล้วนได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนในพื้นที่

“โดยเฉพาะเขตพื้นที่ของผมเอง มีปัญหาการจราจรอย่างหนัก ถนนทุ่งครุ ถนนราษฎร์บูรณะ ถนนประชาอุทิศ มีการจราจรหนาแน่นตลอดทั้งวัน ส่งผลให้อาคารพาณิชย์ตลอด 2 ฝั่งถนนดังกล่าวค้าขายไม่ได้ ซึ่งเชื่อว่านโยบายลดการใช้รถยนต์ของพรรคจะช่วยแก้ปัญหาจราจรได้อย่างแน่นอน นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ช่วยแก้ปัญหาให้คนในพื้นที่ทำมาค้าขายได้แล้ว ที่สำคัญยังช่วยลดปัญหามลพิษที่คนกรุงเทพฯ กำลังเผชิญอย่างหนักเวลานี้” ผู้สมัครส.ส.เขตราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ พรรคภูมิใจไทย กล่าว