โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง!! สนช. ผ่านฉลุย ร่างกม.ท้องถิ่น – ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ผู้บริหารพ้นตำแหน่ง เมื่อ ‘กกต.’ กำหนดวันเลือกตั้งท้องถิ่น
สนช. – วันที่ 25 ม.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กลุ่มท้องถิ่น จำนวน 3 ฉบับเป็นกฎหมาย คือ ร่าง พ.ร.บ.สภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่…) ด้วยเสียงเห็นชอบ 133 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียง, ร่าง พ.ร.บ.เทศบาล (ฉบับที่…) เห็นชอบด้วยเสียง 138 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง และร่าง พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่…) เห็นชอบเสียงเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 143 เสียง
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณาวาระ 2 มีประเด็นที่ถูกอภิปรายเพียงเล็กน้อย คือ กรณีที่คณะกรรมาธิการฯ เพิ่มคุณสมบัติของบุคคลที่จะสมัครเข้ารับเลือกตั้งในส่วนท้องถิ่น ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป โดยสมาชิกสนช. อภิปรายขอให้ปรับแก้เป็นอายุ 30 ปี เนื่องจากต้องการเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่มีบทบาทในการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบตามบทบัญญัติที่กรรมาธิการฯ กำหนด ขณะที่ประเด็นอื่นๆ ไม่พบว่าสนช. ติดใจอภิปราย
ขณะที่รายละเอียดของร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ มีสาระที่ถูกเพิ่มเติม และแก้ไขในทำนองเดียวกัน ทั้งการกำหนดสาระให้ผู้บริหารองค์กร มาจากการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งได้ 4 ปี เป็นติดต่อกันได้ไม่เกิน 2 วาระ พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามมีผลประโยชน์ได้เสีย หรือผลประโยชน์ทับซ้อนต่อกิจการที่ดำเนินการในท้องถิ่น อาทิ เป็นคู่สัญญา และเขียนบทบัญญัติว่าด้วยการตรวจสอบ ที่กำหนดระยะเวลาให้สอบสวนให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด คือ 60 วัน
ส่วนการอยู่ในวาระของผู้บริหารองค์กรท้องถิ่น ร่างกฎหมายกำหนดให้อยู่ในวาระต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นใหม่ ขณะที่ผู้บริหารท้องถิ่นที่ถูกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในองค์กรท้องถิ่น กำหนดให้พ้นตำแหน่งเมื่อกกต. ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งท้องถิ่นเช่นกัน
จากนั้น ที่ประชุมสนช. มีมติให้ความเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่..) พ.ศ… ด้วยเสียง 136 เสียง ให้ประกาศใช้เป็นกฎหมาย โดยในการพิจารณาในชั้นวาระ 2 ไม่มีสนช. ลุกอภิปรายหรือติดใจในเนื้อหาของร่างกฎหมาย ทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกพิจารณาผ่านด้วยเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ ได้ทำข้อสังเกตแนบท้ายร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อเสนอต่อรัฐบาล คือ ควรออกประกาศกำหนดให้บริษัทสามารถเงินตราสกุลอื่นซึ่งเป็นมาตรฐานของธุรกิจปิโตรเลียม เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เงินยูโร เงินเยน และเงินหยวน นอกจากใช้เฉพาะสกุลเงินไทย สำหรับการคำนวณและชำระภาษีขอบริษัท นอกจากนั้นกรมสรรพากรต้องคำนึงถึงความเสี่ยงจากสกุลเงินของปรแทศที่มีค่าผันผวนหรือภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่อง รุนแรง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจการเงินของภูมิภาคและของโลก
