‘บิ๊กตู่’ ชมการสาธิตบรรเทาสาธารณภัย ท่ามกลางฝนกระหน่ำ ลมแรงพัดจนเต็นท์เอน ไม่วายเล่นมุขแก้เครียด
บิ๊กตู่ – วันที่ 14 ก.พ. ที่กองพลรบพิเศษที่ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เดินทางมาตรวจความพร้อมและการสาธิตด้านการบรรเทาสาธารณภัย ในการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภับแบบบูรณาการ ประจำปี 2562 ร่วมกับทหารรักษาพระองค์ เหล่าทัพ โดยมี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.ท.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และนายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีให้การต้อนรับ โดยเมื่อมาถึงนายกรัฐมนตรีได้ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ พร้อมชมการสาธิตด้านการบรรเทาสาธารณภัย ณ ศาลายงใจยุทธ
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
จากนั้น เวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปยังพื้นที่ฝึกการรบในสิ่งปลูกสร้างโรงเรียนสงครามพิเศษ ชมการสาธิต การซักซ้อมบรรเทาสาธารณภัย โดยจำลองเหตุการณ์ 4 เหตุการณ์ ได้แก่ เหตุสารเคมีรั่วไหล สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อาคารสูงถล่ม และอาคารเกิดเพลิงไหม้
โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับกองกำลังจิตอาสา บูรณาการการทำงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เช่น เหตุสารเคมีรั่ว จิตอาสา ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร การประชาสัมพันธ์ และการสนับสนุนทีมแพทย์ เป็นต้น
สำหรับการสาธิตบรรเทาสาธารณภัย สถานการณ์ PM2.5 จากการเผาไร่นา ทำให้เกิดฝุ่นละอองจำนวนมาก ทำให้นายอำเภอต้องรอขอความช่วยเหลือจากกรมควบคุมมลพิษ โดยจิตอาสา 904 ทำหน้าที่ให้ความรู้ อำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการลำเลียงผู้ป่วย และการสนับสนุนทางอากาศยานในการปฏิบัติภารกิจด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการซ้อมแผนบรรเทาสาธารณภัย ในช่วงบ่ายได้เกิดฝนตกลมแรง ทำเอาเต็นท์เจ้าหน้าที่ รวมทั้งเต็นท์นายกรัฐมนตรี และผู้เข้าชม เอนตามกระแสลม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นี่คือการบรรเทาสาธารณภัย
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เดินให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ท่ามกลางฝนที่ตกต่อเนื่อง โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคนน้อมนำพระราโชบายไปปฏิบัติ ให้เกิดประสิทธิภาพโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องศึกษาแนวปฏิบัติให้เกิดความเข้าใจ และประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม นอกจากนี้ขอให้ทุกคนภูมิใจในการน้อมนำพระราโชบายไปปฏิบัติ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยพสกนิกร และส่งต้องการให้พสกนิกรได้รับผลกระทบภัยพิบัติน้อยที่สุด
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การวางแผนปฏิบัติจะต้องมีความพร้อม รวมถึงการกระจายข่าวสาร และการแจ้งเตือนประชาชน ซึ่งการฝึกในวันนี้ได้จำลองเหตุการณ์พายุปลาบึก และเหตุการณ์ถ้ำหลวงมาปฏิบัติด้วย สิ่งสำคัญคือ ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐประชาชนเอกชนจะต้องซักซ้อมแผนปฏิบัติประจำ เพื่อให้เกิดการประสานสอดคล้องในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
