สหภาพฯกังขาบอร์ด จ่อเคลื่อนป้องวิชาชีพ พปชร.ฮึกเหิม-จัดคิว เชิญบิ๊กตู่ร่วมหาเสียง ฟังล้น-เวทีทษช.กรุง

พิษดีเบตการเมืองช่วงเลือกตั้ง ช่อง 9 อสมท ปลดพิธีกรสาว ทษช.เปิดปราศรัยใหญ่ลานคนเมือง กทม. แฟนๆ แห่ฟังแน่นขนัด จาตุรนต์ ณัฐวุฒิเรียกร้องประชาชนหยุดสืบทอดอำนาจคสช. “บิ๊กตู่”ป่วยลางานไปตรวจร่างกาย รองโฆษกระบุใช้สายตาอ่านหนังสือมาก แต่ร่างกายยังแข็งแรง วันจันทร์มาทำงานปกติ กกต.เปิดไฟเขียวให้ประยุทธ์ร่วมปราศรัย-ขึ้นเวทีช่วยพลังประชารัฐหาเสียงได้ แต่ต้องระวังเรื่องความเป็นกลาง-ใช้ทรัพยากรของรัฐ ด้านหัวหน้าพรรค-แกนนำปลื้มชี้เป็นโอกาสที่ดี เตรียมจัดคิวลงพื้นที่ มั่นใจเสียงตอบรับแน่นแน่ ขณะที่โฆษกพรรคลั่นซิวส.ส.ถึง 150 ที่นั่ง “เจ๊หน่อย”เว้าอีสานอ้อนชาวขอนแก่นเลือกเพื่อไทย ลั่นเป็นรัฐบาลพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ดูแลผลผลิตอ้อย-มันครบวงจร กกต.สั่งสอบคลิปแจกเงินเขต 4 อุบลฯ-ชายฉกรรจ์ฝังตัวพะเยาข่มขู่ประชาชน ขณะที่ชัชชาติลุยราชวัตรช่วย ผู้สมัครส.ส.กรุงหาเสียง

“บิ๊กตู่”ป่วย-ลากิจไม่เข้าทำเนียบ

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.มีอาการป่วยจนไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลในวันเดียวกันนี้ว่า ไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล การที่พล.อ.ประยุทธ์ ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลนั้น เป็นเพียงการตรวจสุขภาพทั่วไปตามปกติ ที่แพทย์ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้านานแล้ว โดยเฉพาะด้านสายตา ซึ่งใช้อ่านหนังสือมากมาตลอดหลายปี ส่วนสภาพร่างกายด้านอื่น ยังคงฟิตและแข็งแรงดี ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่อย่างแน่นอน โดยจะกลับมาทำงานตามปกติ ในวันที่ 4 มี.ค.

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหนังสือตอบข้อสอบถามพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันพล.อ.ประยุทธ์ ร่วมรณรงค์หาเสียงและพบปะกับสมาชิกพรรคได้ว่า ยังไม่มีโอกาสพูดคุยหรือสอบถามกับนายกฯ แต่มองว่าการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ นายกฯจะพิจารณาตามความเหมาะสม ภายใต้กรอบกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมีความชัดเจนในการทำหน้าที่ ดังนั้น การสื่อสารกับประชาชนไม่ว่าในช่วงปกติ หรือช่วงเลือกตั้ง ก็ยังเป็นเรื่องการทำงานที่ผ่านมา สิ่งที่ทำในปัจจุบัน และแนวทางที่จะทำต่อไปในอนาคตเหมือนทุกครั้งอยู่แล้ว

ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตการเปลี่ยนสถานะในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวของพล.อ.ประยุทธ์ จากเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นบุคคลสาธารณะนั้น พล.ท.วีรชนกล่าวเพียงว่า ไม่ทราบรายละเอียด

บีปลื้มคำตอบกกต.-ชี้โอกาสพรรค

ที่ตลาดพัฒนาการ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการร่วมกิจกรรมและหาเสียงให้กับพรรคของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกฯในบัญชีพรรคว่า ทำได้ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ซึ่งพรรคได้หารือกันเบื้องต้นแล้ว หลังจากกกต.ตอบหนังสือที่พรรคสอบถามไป โดยจะหารือกันอีกครั้งว่าจะจัดกิจกรรมแบบใดจึงเหมาะสม ไม่สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะร่วมกิจกรรมหรือขึ้นเวทีปราศรัย หรือลงพื้นที่ในต่างจังหวัดก่อน อีกทั้งจะสอบถามพล.อ.ประยุทธ์ ถึงการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ด้วย แม้จะมีข้อจำกัด ในการร่วมกิจกรรมกับพปชร. แต่ถือว่าเป็นโอกาสของพรรค หากนายกฯจะมาร่วมกิจกรรมโดยจะใช้ความระมัดระวังอย่างรอบคอบ เช่น ใช้เวลาหลังราชการ ไม่ใช้คนหรือยานพาหนะของราชการ และต้องไม่ทำอะไรสุ่มเสี่ยงจะเกิดปัญหาตามมา

“ป้อม”ย้ำคัดส.ว.เรื่องของคสช.

ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีถูกเพจปลอมสร้างข้อมูลเท็จโจมตี โดยภาพที่เอามาลงก็เป็นภาพเก่า ขณะนี้แจ้งให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ไปตรวจสอบที่มา และผู้กระทำความผิดเนื่องจากข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้เกิดความเสียหาย

เมื่อถามถึงกรณีเรียกร้องให้เปิดเผยชื่อคณะกรรมการสรรหาส.ว.ที่มีพล.อ.ประวิตร เป็นประธานนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ ได้แต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว เมื่อถามว่าจำเป็นต้องมีผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ มาเป็นคณะกรรมการสรรหาส.ว.ด้วยหรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ไม่จำเป็น เรื่องนี้ต้องแล้วแต่คสช.

เมื่อถามว่าฝ่ายการเมืองโจมตีถึงที่มาของส.ว. พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรายึดตามกฎหมาย เมื่อถามว่าเชื่อว่าประชาชนจะยอมรับใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้ำว่า ก็ยึดตามกฎหมาย เมื่อถามว่ามีสัดส่วนของทหารเข้าไปนั่งส.ว.สรรหาหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า รายชื่อออกมาก็จะรู้เอง แต่ยืนยันว่าไม่มีรายชื่อของนายทหารที่จะเกษียณหรือยังอยู่ในราชการ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อบัญชีโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลช่วงกลางปี เมื่อถามว่าฝ่ายการเมืองพยายามนำเรื่องที่มาของส.ว.มาโจมตี พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า เป็นธรรมดาที่ฝ่ายการเมืองจะต้องโจมตีอยู่แล้ว

กกต.ไฟเขียวตู่ร่วมหาเสียง

ที่สำนักงานกกต. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. ให้สัมภาษณ์ถึงการตอบข้อซักถามของพปชร.ว่า กกต.ได้ตอบไปว่าพล.อ. ประยุทธ์สามารถเดินหาเสียงขึ้นเวทีปราศรัย และร่วมกิจกรรมของพปชร.ได้ แต่ต้องระมัดระวังตามมาตรา 78 ของกฎหมายเลือกตั้งส.ส. เรื่องการวางตัวเป็นกลางของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นการตอบคำถามทุกคำถามที่พรรคถามมาเพราะช่วงนี้ใกล้เลือกตั้งแล้ว

แต่เมื่อถามว่ากกต.มีอะไรที่จะกำชับนายกฯเป็นพิเศษหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่าต้องดูในข้อกฎหมาย คงไปตอบไม่ได้ว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้ เป็นดุลพินิจของผู้สมัครและพรรค การเมืองเอง

“ข้อกฎหมายเขียนไว้แล้วผู้สมัครต้องไปดูเอง ตีความกฎหมายเอง หากเราบอกไปแล้วเผื่อไปทำแล้วมีเงื่อนไขอื่น ทำให้กกต.ต้องไปตอบอีก ดังนั้นจึงให้ผู้สมัครตีความกฎหมายเอง” พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าว

ใช้ทรัพยากรของรัฐก็ต้องระวัง

เมื่อถามรู้สึกกังวลหรือไม่ที่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการหาเสียงของพล.อ.ประยุทธ์จำนวนมาก พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะกกต.ยืนอยู่ด้วยข้อกฎหมาย กกต.ทุกคนได้ประชุมชี้แจงหลายรอบแล้ว เรายึดกฎหมายเป็นหลัก ด้วยความเป็นกลาง เพราะเราเป็นองค์กรอิสระ ไม่ขึ้นอยู่กับอำนาจใด

ส่วนการที่พล.อ.ประยุทธ์จะใช้สื่อโซเชี่ยลที่มีอยู่หลายอย่างในช่องทางไหนได้บ้าง เลขาฯกกต.กล่าวว่า เท่าที่ทราบคือพล.อ.ประยุทธ์ แจ้งเรื่องใช้สื่อโซเชี่ยลมาแล้ว เขาก็จำกัดกรอบของเขาอยู่ ซึ่งต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้ง เพราะกฎหมายอยู่บน พื้นฐานเท่าเทียมกัน และขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนที่จะดูในเรื่องของนโยบายของแต่ละพรรค

เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์สามารถไปช่วยพรรคหาเสียงหลังเลิกงานได้หรือไม่ พ.ต.อ. จรุงวิทย์กล่าวว่าคงต้องดูเป็นกรณีไป ส่วนลักษณะที่เราตอบไปคือหาเสียงได้แต่ต้องระมัดระวังตามมาตรา 78 รวมไปถึงการใช้ทรัพยากรของรัฐ ทั้งรถและเจ้าหน้าที่เพราะต้องวางตัวเป็นกลาง

วิษณุอ้างรธน.ให้อำนาจบิ๊กตู่

ที่กรมประชาสัมพันธ์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสรรหาส.ว.ในส่วนของคณะกรรมการสรรหาที่คสช.ตั้งขึ้นมาว่า ขณะนี้รายชื่อคณะกรรมการสรรหาจะยังไม่มีการเปิดเผย เพราะกังวลเรื่องการวิ่งเต้น แต่สุดท้ายก็ต้องมีการเปิดเผยออกมา และที่ผ่านมาคณะกรรมการมีการประชุมไปครั้งหนึ่งแล้ว หลังจากนี้จะมีการประชุมบ่อยขึ้นโดยวิธีการคัดเลือกบุคคลให้ได้ 400 คน เพื่อเสนอคสช.คัดเลือกให้เป็นส.ว.นั้นจะไม่ใช่วิธีการสมัคร เพราะเป็นวิธีเดียวกับที่กกต.เคยใช้ ครั้งนี้คณะกรรมการจะรวบรวมรายชื่อจากทั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) รวมถึงองค์กรในภาคเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและเอกชนต่างๆ มารวบรวมพิจารณากลั่นกรอง โดยจะคัดเลือกให้สอด คล้องกับแนวทางปฏิรูปประเทศทั้ง 13 ด้าน และบุคคลทั้ง 400 คนที่เราจะส่งรายชื่อให้คสช.ในวันที่ 9 มี.ค. จะไม่เป็นข้าราชการ หรือพนักงานของรัฐ ส่วนที่กังวลกันว่าพล.อ. ประยุทธ์มีส่วนในการคัดเลือกส.ว.แล้วเป็นแคนดิเดตนายกฯของพปชร.ด้วยนั้น จะให้ทำอย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะวิตกกันทำไม

เมื่อถามถึงกรณีกกต.ระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์สามารถขึ้นเวทีปราศรัยช่วยพปชร.หาเสียงได้ต้องมีข้อควรระวังหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนทราบตามที่เป็นข่าวที่พปชร.ยื่นสอบถามไปยังกกต. และกกต.ก็เตือนว่ามีข้อระวังต่างๆ อยู่แล้ว คงต้องยึดตามนั้น สุดท้ายพล.อ.ประยุทธ์จะไปร่วมปราศรัยหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ และยืนยันว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับพรรคพล.อ. ประยุทธ์ไม่ได้มาหารืออะไรกับตน เว้นแต่มีการสอบถามเกี่ยวกับหลักการว่าครม.ควรวางตัวอย่างไร

ขอนแก่นนับหมื่นแน่นเวทีพท.

เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ลานอเนกประสงค์ ต.ภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) ขึ้นเวทีปราศรัยและหาเสียงช่วยนายภาควัตร ศรีสุรพล ผู้สมัครส.ส.เขต 5 ขอนแก่น โดยมีผู้สมัครส.ส. ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ ในเขต จ.ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึง ชาวขอนแก่นมารอต้อนรับและตะโกนเรียก “นายกฯหน่อย” กว่า 10,000 คน

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พท.ต้องต่อสู้กับอำนาจรัฐอย่างชัดเจน เพราะพรรคคู่แข่งได้เปรียบมาก ทั้งเรื่องอำนาจรัฐและการดำเนินการต่างๆ การเลือกตั้งครั้งนี้คนอีสาน และคนไทยทั้งประเทศต้องออกมาแสดงพลังใช้สิทธิเลือกตั้งที่ไม่ต้องเกรงใจใคร เลือกคนที่เรารัก เอาพรรคที่เราชอบ และเลือกพท.อย่างถล่มทลาย อย่างน้อยที่สุดคือเขตเลือกตั้งละ 70,000 คะแนน ในทุกเขตทั่วประเทศ

“มาขอนแก่นวันนี้มีพ่อค้า แม่ค้า และคนในพื้นที่มาร้องไห้ มากอด มาขอกำลังใจ ให้ช่วยแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาต่างๆ เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา ทุกคนไม่มีความสุข แม้บางคนจะบอกว่าคืนความสุขให้กับประชาชนในทุกวันศุกร์ แต่นาฬิกาที่บอกว่าทำเพื่อประเทศนั้นตายไปแล้ว เพราะยืมเพื่อนมา แต่พท.มีนาฬิกาเป็นของตนเองที่อาสาเข้ามาทำงานเพื่อประเทศ ทำงานเพื่อประชาชน และทำงานเพื่อคนไทยทุกคนอีกครั้ง หากพท.ได้คะแนนเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ ขอเวลา 6 เดือนจะแก้ปัญหาความยากจนให้กับคนไทยทั้งประเทศในภาพรวม” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

ย้ำพักหนี้เกษตรกร-ราคาพืชผล

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เริ่มจากเพิ่มราคาผลผลิตทางการเกษตรทุกชนิดให้เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ อ้อยต้องได้ราคาขายที่ตันละไม่น้อยกว่า 1,000 บาท ราคาข้าว จะเพิ่มงบสนับสนนุการพัฒนาผลผลิตในกลุ่มข้าวทุกสายพันธุ์ที่ราคาตันละ 5,000 บาท จะพักหนี้ให้กับเกษตรกร 3 ปี ซึ่งพท.ทำได้ และทำได้จริง ที่สำคัญคือการจะพาคนไทยทั้งประเทศรวยไปพร้อมๆกัน

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า วันนี้ กกต.ประกาศชัดเจนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์มาช่วยหาเสียงให้กับพรรคพลังประชารัฐได้ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็ควรจะก้าวออกมาอย่างสง่างาม และลงพื้นที่หาเสียงเเช่นเดียวกับนักการเมืองทุกพรรค ไม่ใช่อ้างว่าตรวจราชการหรือลงพื้นที่ทำงาน แต่แฝงการหาเสียงช่วยผู้สมัครของพปชร. ที่สำคัญคือการใช้อำนาจนายกฯและหัวหน้า คสช. สกัดกั้น จนทำให้พรรคการเมืองต่างๆ ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ไม่เต็มที่

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ส่วนที่ พล.อ. ประยุทธ์ มอบให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธาน สรรหาส.ว.นั้น ขอให้ดูผลการคัดเลือกดีกว่า ว่าจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้คนไทยทั้งประเทศรู้ดีและทราบดีว่าอะไรคืออะไร

พปชร.เตรียมคิวให้ประยุทธ์

ที่พรรคพปชร. นายอุตตม สาวนายน แถลงกรณีกกต.ระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ สามารถทำกิจกรรมช่วยผู้สมัคร พปชร.หาเสียงได้ ว่า การที่กกต.วินิจฉัยและให้คำตอบว่าทำได้ แต่ต้องระวังไม่ใช้อำนาจไปในทางที่กระทบบุคคลอื่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติเพราะนายกฯดำรงตำแหน่งนายกฯต้องปฏิบัติตัวตามกฎหมาย ไม่ใช้อำนาจเกินเลย โดยสรุปสามารถทำกิจกรรมกับพรรคได้ทั้งการขึ้นเวทีหาเสียงและพบกับสมาชิกพรรค ผู้สมัครพรรค ขั้นตอนจากนี้กรรมการบริหารและ ผู้บริหารพรรคจะหารือว่าจะไปพบกับนายกฯเพื่อเสนอว่ามีกิจกรรมใดบ้างที่พรรคอยากให้นายกฯมีส่วนร่วม ส่วนจะไปหารือเมื่อใดนั้นต้องดูเวลาจากทีมงานนายกฯว่าสะดวกให้ไปพบเมื่อใด เนื่องจากมีภารกิจมาก

นายอุตตมกล่าวว่า การทำกิจกรรมของนายกฯทุกอย่างจะอยู่ในกรอบกฎหมายทุกมาตราที่เกี่ยวข้อง และคำตอบของกกต.ก็ชัดเจนแล้ว ขณะนี้เหลือเวลาเพียง 20 วัน พรรคต้องดูในส่วนที่ทำได้และเกิดประโยชน์กับประชาชน ที่อยากฟังเรื่องแนวทางการเดินหน้าประเทศจากตัวของพล.อ.ประยุทธ์ และหากนายกฯจะทำกิจกรรมต้องใช้เวลานอกราชการมาร่วม เชื่อว่าจะไม่ไปให้คุณให้โทษกับใครแน่นอน ยืนยันว่าทุกกิจกรรมของพรรคจะคำนึงถึงเรื่องนี้และเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ คำนึงเรื่องนี้ตลอดอยู่แล้ว

มั่นใจนายกฯพร้อมช่วยหาเสียง

เมื่อถามนายกฯสามารถพูดชื่อพปชร.ขึ้นเวทีดีเบตและเวทีปราศรัยไปหาเสียงกับผู้สมัครได้ใช่หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า พูดได้แต่ต้องดูรูปแบบอีกครั้ง ส่วนที่นายวิษณุ ระบุว่าไม่สามารถช่วยพรรคหาเสียงได้นั้น ความเห็นดังกล่าวถือว่ามีประโยชน์แต่เราดำเนินการตามกฎหมายอยู่แล้ว เราถือว่าคำตอบของกกต.เป็นอันสิ้นสุด และพรรคสามารถอธิบายได้อยู่แล้วหากมีความเห็นหรือถูกโจมตีหลังจากนี้ เราไม่กังวลตราบใดที่ทำตามกฎหมาย และวันนี้เราสามารถนำเสนอพล.อ.ประยุทธ์ ได้แล้ว ถือว่าเท่าเทียมกับพรรคอื่นไม่ใช่ได้เปรียบอะไร เดิมเราไม่ชัดเจนว่าทำได้หรือเปล่า วันนี้ชัดเจนว่าทำได้ ถ้าจะโจมตีก็ถือว่าเท่าๆ กัน ไม่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบอะไร

เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ ช่วยพรรคหาเสียงได้ จะช่วยให้กระแสของพรรคดีขึ้นหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่าขึ้นอยู่กับสายตาประชาชน กระแสสามารถเปลี่ยนและผันผวนได้ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์มาร่วมกิจกรรมได้และประชาชนหลายพื้นที่รออยู่ถือเป็นสิ่งดีสำหรับพรรค โดยจะให้พล.อ.ประยุทธ์ สื่อสารโดยตรงกับประชาชนในพื้นที่ในรูปแบบของเวทีปราศรัย ส่วนจะไปพื้นที่ใดก่อนเป็นอันดับแรก พรรคจะได้หารือร่วมกับนายกฯ คิดว่านายกฯยินดีมาช่วยพรรค ส่วนที่ระบุว่าจะไม่ขึ้นเวทีดีเบตเนื่องจากมีกิจกรรมอื่นที่ทำประโยชน์ได้มากกว่า

เมื่อถามว่านายกฯขึ้นเวทีปราศรัยได้ แต่ต้องระวังคำพูดเองใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เป็นปกติอยู่แล้วที่จะพูดอะไรต้องระมัด ระวัง เมื่อถามว่า การตีความกฎมายระหว่างนายวิษณุกับ กกต. มีความแตกต่างกันใช่ หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า “ผมยึดตามกกต.”

กอบศักดิ์ฮึกเหิม-เล็ง150ส.ส.

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค กล่าวถึงการหาเสียงของพรรคช่วงโค้งสุดท้าย ว่า จากการลงพื้นที่ตามแผน “30วันคาราวานสร้างชาติกับพลังประชารัฐ” ประชาชนตอบรับดี ใน 3 ประเด็นคือ เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ, นโยบายโดนใจ เช่น การขยายผลบัตรประชารัฐ ส.ป.ก.4.0 การแก้ไขปัญหาที่ดิน นโยบายลดภาษีบุคคลธรรมดา 10 เปอร์เซ็นต์ทุกขั้น และผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเข้าถึง พึ่งได้

นายกอบศักดิ์กล่าวว่า หลังจากที่กกต.มีคำตอบว่าพล.อ.ประยุทธ์ สามารถลงพื้นที่และให้กำลังใจผู้สมัครส.ส.ของพรรคได้ ทำให้ทุกคนมีกำลังใจและฮึกเหิม และช่วงโค้งสุดท้ายจะมีผู้สนับสนุนพรรคมากขึ้น และมั่นใจว่าพรรคน่าได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 150 คน เพราะในช่วงที่ผ่านมาคนที่รักลุงตู่ ในทุกโพลมีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 26-30 ถ้าพรรคสามารถเปลี่ยนความรักที่ประชาชนมีให้กับพล.อ.ประยุทธ์ มารวมกับคนที่ชอบนโยบายของพรรค ชอบผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ เป็นคะแนนเสียงได้ก็เชื่อว่าเราจะได้ส.ส.ตามเป้าอย่างแน่นอน

ชี้กกต.ส่อข้ามขั้นตอนทษช.

ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ มีการจัดเสวนาหัวข้อ “กรณียุบพรรคไทยรักษาชาติกับหลักนิติธรรมและสิทธิทางการเมือง” โดยมีนายวิญญัติ ชาติมนตรี สมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ นายสุนัย ผาสุข ฮิวแมนไรต์วอตช์ประจำประเทศไทย นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. โดยมีผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และตัวแทนจากสถานทูตสนใจเข้าร่วมรับฟังกว่า 100 คน

นายวิญญัติกล่าวว่า ตามหลักนิติธรรม ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน แต่ประเทศไทยกลับล้มเหลว หากเปรียบเทียบคำร้องพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับไทยรักษาชาติ (ทษช.) ที่เหมือนกันคือ มาตรา 92 พ.ร.ป.พรรคการเมือง แล้วกกต.เป็นผู้รับเรื่องนี้ แต่กกต.ทำให้มาตรฐานต่างกันอย่างน่ากังวล เพราะกกต.ลงมาใช้อำนาจเล่นเองกับ ทษช. ไม่ทำตามขั้นตอนที่ต้องให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นผู้ดำเนินการ ใช้เวลา 1 วันรวบรวมพยานหลักฐาน อ้างว่าครบ สิ่งที่ ไม่ได้ทำคือ การแจ้งข้อกล่าวหาให้ทษช.ทราบ เพื่อให้ชี้แจงกับกกต. เป็นการกระทำส่อข้ามขั้นตอน ตัวอย่างในปี 2553 พรรคประชาธิปัตย์ถูกยื่นยุบ 2 กรณี คือ 1.ถูกกล่าวหาว่ารับเงินแล้วใช้ผิดวัตถุประสงค์ 2.ไม่ทำบัญชีส่งกกต. แต่ 2 ข้อหานี้ตกไปโดยศาลรัฐธรรมนูญที่ ชี้ว่า กกต.ทำโดยไม่มีอำนาจ ข้ามขั้นตอน เพราะไม่ผ่านนายทะเบียนพรรคการเมืองก่อน นี่จึงคล้ายกับกรณีของทษช.

จับตายกคำร้องยื่นยุบ”พปชร.”

นายวิญญัติกล่าวว่า ด้านพปชร. ก่อน จะยื่นคำร้อง ตนดูอยู่หลายเดือน ไม่ใช่รอแก้เกี้ยว แก้แค้นเมื่อทษช.โดน แต่เพื่อให้ปรากฏการกระทำของพล.อ.ประยุทธ์ ส่อแสดงถึงการกระทำที่มีส่วนครอบงำพปชร.ตั้งแต่ตั้งพรรค ทำนโยบาย หาคนลงส.ส. การใช้ตำแหน่งหน้าที่อื่น ทำให้หลายฝ่ายเถียงว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แต่สิ่งที่อยากตอกย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐคือ ก่อนจะเป็นนายกฯ เป็นคสช. ก็มีการแต่งตั้ง ซึ่งเป็นคุณเป็นโทษกับคนอื่นผ่านมาตรา 44 บ่อยครั้ง สิ่งที่ทำคือเจ้าหน้าที่รัฐใช่หรือไม่ ย้อนกลับไปตอนต้นการยึดอำนาจ ก็กระทำโดยไม่ชอบ ไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิป ไตย พรรคที่เสนอก็รู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ มาโดยมิชอบแล้วกกต.จะหลับหูหลับตาอย่างไร

“ถ้ากกต.จะยกคำร้องของผม นี่คือความเลวร้ายที่จะเกิดขึ้น ตอกย้ำว่าประเทศไม่ได้ไปไหนเลย โดยเฉพาะกฎหมายยอมรับความเป็นเผด็จการทหารไปเรื่อยๆ อ้างกฎหมายบังคับใช้กับทุกคน แต่ยกเว้นคนที่จะครองอำนาจต่อ นอกจาก กกต.จะข้ามขั้นตอนและไม่ให้โอกาสทษช.แล้ว กกต.กลายเป็นคนรับรองว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ตอบคำถาม พปชร. 2 ข้อว่า พล.อ. ประยุทธ์ รณรงค์หาเสียงได้หรือไม่ กกต.บอกว่าทำได้ พร้อมถามว่าขึ้นเวทีได้หรือไม่ กกต.บอกว่าทำได้ ไม่ห้าม สิ่งที่น่าสนใจคือกกต.ระบุว่า ต้องไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ใด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย นี่คือสิ่งที่กกต.ยอมรับว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ นี่คือการปฏิบัติหน้าที่โดย มิชอบ โดยเอื้อพล.อ.ประยุทธ์ให้ทำอะไร คนเดียวก็ได้” นายวิญญัติกล่าว

สมชัยชี้กกต.ใช้วิธีไม่ปลอดภัย

ด้านนายสมชัยกล่าวว่า ถ้าจะให้มองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ถือว่าเร็ว รับวันนี้ วันรุ่งขึ้นส่งออก คือมี 2 นัยยะ 1.เรื่องนี้มี หลักฐานชัดเจน กกต.ไม่ต้องตั้งอนุกรรมการไต่สวน ถ้ากกต.เลือกเส้นทางนี้ กกต.ต้องพร้อมรับผลที่เกิดขึ้น หากไม่ได้เป็นเช่นนั้นจริง กกต.ทั้ง 7 ต้องกล้าและพร้อมรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น 2. กกต.เห็นว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องดำเนินการเร่งด่วน ซึ่งมีมุมคิดคือ อยู่ในช่วงใกล้เลือกตั้ง ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยเร็ว จึงจะเกิดผลดี

นายสมชัยกล่าวว่า ผลที่ตามมาจะมี 3 ช่วงคือ 1.ยุบพรรคก่อนเลือกตั้ง มีคำตอบชัดเจนคือ หมายเลขดังกล่าวจะเป็นบัตรเสีย ที่กาไปจะไม่ถูกนำมาคำนวณ 2.ยุบพรรคก่อนประกาศผลเลือกตั้ง หลังวันที่ 24 มี.ค.มีเวลารับรองผล 60 วัน ไปถึงวันที่ 23 พ.ค. ยังไม่มีนักกฎหมายชี้ว่าจะทำอย่างไรกับผลที่เกิดขึ้น ยังไม่ชัดเจนถ้ายุบในช่วงนี้ และ 3.ประกาศรับรองผลเลือกตั้งไปแล้ว มีทษช.เป็นส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ จำนวนหนึ่งแล้วยุบพรรค อันนี้กติกาชัดเจนคือส.ส.ย้ายพรรคได้ภายใน 60 วัน สถานะส.ส.ยังอยู่ แต่จะเกิดความไม่ชัดเจนทางการเมือง นี่คือความไม่นิ่งที่จะเกิดขึ้น ส.ส.จะย้ายไปไหนไม่มีใครรู้ ดุลการเมืองจะเปลี่ยนอย่างไร

“ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยวันที่ 7 มี.ค. นี้ จะตรงกับช่วงแรก เรื่องก็จบ ซึ่งกกต.ไม่ได้ใช้กระบวนการที่ปลอดภัยกับตนเอง แต่กกต.กล้าเสี่ยง ใช้ทางเลือกที่อาจไม่ปลอดภัย ต้องชมว่า กกต.ใจกล้ามาก แต่ผลที่ตามมาจะเกิดอะไรขึ้น ผมไม่ทราบ จะต้องเลี้ยงข้าวผัดโอเลี้ยงหรือไม่ ไม่รู้” นายสมชัยกล่าว

กกต.สั่งสอบแจกเงิน-ข่มขู่

วันเดียวกัน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวถึงกรณีมีคลิปพรรคใหญ่มีเส้น แจกเงินให้คนที่มานั่งฟังปราศรัย ที่เขตเลือกตั้งที่ 4 อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ว่า เรื่องนี้ฝ่ายงานด้านการสืบสวนสอบสวนคงทราบเรื่องแล้ว แต่ตนยังไม่ได้รับรายงาน ถ้าปรากฏตามสื่อ คงมีการตรวจสอบหลักฐานเบื้องต้นแล้ว โดยเฉพาะที่จังหวัดน่าจะตรวจสอบแล้ว เพราะมันเป็นหน้าที่โดยตรง ซึ่งการดำเนินการเบื้องต้น ต้องดูว่ามีหลักฐานเพียงพอจะไต่สวนได้หรือไม่ ถ้ามีหลักฐานเพียงพอ เจ้าหน้าที่ที่จังหวัดจะตั้งคณะกรรมการไต่สวนเองได้เลย แล้วค่อยรายงานผลการไต่สวนมาที่กกต.กลาง

พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า ส่วนที่มีผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พะเยา พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงกกต. ขอให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพฤติกรรมของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่แฝงตัวในพื้นที่นั้น เราอาจต้องส่งเรื่องกลับไปยังจ.พะเยา ตรวจสอบหลักฐาน ซึ่งเราได้มอบให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทำหน้าที่สืบสวนไต่สวน ตรวจสอบหลักฐานเองด้วย แต่เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วต้องส่งเรื่องนั้นมายังกกต.กลาง เพื่อให้พิจารณาและตัดสิน อย่างไรก็ตาม เมื่อยื่นถึงเราแล้ว กลุ่มงานสอบสวนจะได้วิเคราะห์เรื่อง ถ้าเห็นว่ามันต้องลงพื้นที่ เราก็ต้องลงไปตรวจสอบเอง มั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่ให้ช้าแน่นอน

หน่อยเว้าอีสานอ้อนขอนแก่น

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น คุณหญิงสุดารัตน์ ลงพื้นที่เปิดเวทีปราศรัยและพบประชาชนในเขต 2 ขอนแก่น โดยมีแกนนำพรรค และผู้สมัครส.ส. มาร่วมปราศรัยด้วย ทั้งนี้ มีประชาชนในพื้นที่มาฟังการปราศรัยกว่า 3,000 คน ทั้งนี้ ในช่วงแนะนำตัวผู้สมัครนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ได้พูดภาษาอีสาน เพื่ออ้อนขอคะแนนว่า “คิดฮอดคนขอนแก่น หลายหลาย” สร้างเสียงเฮและเสียงปรบมือ รวมทั้งรอยยิ้มอย่างมาก

คุณหญิงสุดารัตน์ปราศรัยตอนหนึ่งว่า คิดถึงคนขอนแก่นอย่างมาก วันนี้เราสู้จากศูนย์ แต่บางพรรคมีคนช่วยและมีคะแนนตุนไว้แล้ว 250 คะแนน ดังนั้น เราทุกคนต้องช่วยกัน ถ้าอยากได้ความสุขที่แท้จริงนั้นกลับคืนมา ซึ่งนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคนั้น ถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาล จะทำให้ดีกว่าเดิมและทำให้ดีจริงๆ ไม่ใช่มาบริหารประเทศด้วยงบประมาณที่มากกว่าทุกๆรัฐบาลที่ผ่านมาแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องการให้บริการทางการแพทย์ยังคงเป็นเช่นนี้ ขณะเดียวกันการปราบปรามยาเสพติด ผลงานเราที่ผ่านมาชัดเจนแต่มาวันนี้ยาเสพติดยังคงแพร่ระบาดอยู่ทั่วประเทศ ดังนั้น ถึงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศมาช่วยกันเทคะแนนให้พท. เลือกส.ส.ของพรรคในทุกเขต ก็จะได้สุดารัตน์ เป็นของแถมอีกด้วย

ชัชชาติลุยศรีย่าน-ราชวัตร

เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ย่านราชวัตร และศรีย่าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง โดยมีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับและขอถ่ายรูปจำนวนมาก ช่วงหนึ่งนายชัชชาติได้เข็นรถขายผักช่วยผู้ค้ารายหนึ่งเข้าไปในตลาดศรีย่าน เรียกเสียงปรบมือจากกลุ่มผู้สนับสนุนอย่างมาก นอกจากนี้ มีผู้ค้าเข้ามาพูดคุยและสะท้อนถึงปัญหาปากท้อง โดยระบุว่าตลอด 5 ปี ได้รับผลกระทบเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ผู้ค้าขายส่วนใหญ่ขายของไม่ได้ หลายคนต้องเปลี่ยนอาชีพค้าขายไปรับจ้างแทน วันนี้พท.มาขอคะแนนสนับ สนุน ผู้ค้าก็ขอให้พรรคช่วยแก้ปัญหาให้ด้วยเช่นกัน

นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า เสียงสะท้อนส่วนใหญ่เป็นปัญหาคล้ายคลึงกัน คือปัญหาปากท้อง โดยคาดหวังว่าหลังเลือกตั้งจะคึกคักมากขึ้น หลายคนมีปัญหาหนี้สินนอกระบบ ซึ่งรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐต้องเร่งเข้ามาช่วยแก้ปัญหาโดยวิธีการปรับโครงสร้างหนี้ ลดภาระให้น้อยลง รวมทั้งหาเงินทุนให้แทนที่จะไปกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูง อย่าให้เกิดครหาว่าคนรวยกู้ได้แต่คนจนกู้ไม่ได้ วันนี้เราต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากก่อน จากนั้นค่อยหมุนเวียน

ทษช.ไม่ขอพูดคดียุบพรรค

เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพฯ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก โดยมีแกนนำและสมาชิกพรรค อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นายประภัสร์ จงสงวน คณะทำงานฝ่ายเศรษฐกิจ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำพรรค พร้อมผู้สมัครกทม.ของพรรคทั้ง 8 เขต ร่วมเวทีปราศรัย โดยไม่มีคณะกรรมการบริหารพรรคขึ้นเวที และบางส่วนมาให้กำลังใจสมาชิกพรรคในการปราศรัยครั้งนี้ อาทิ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรค น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค และนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช มารดาของร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ได้มาให้กำลังใจด้วย ทั้งนี้ บรรยากาศคึกคัก มีประชาชนฟังปราศรัยกว่า 3,000 คน ขณะที่แกนนำพรรคต่างสลับกันขึ้นเวทีปราศรัยเป็นช่วงๆ

นายจาตุรนต์ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นปราศรัยว่า เราจะพูดให้เห็นถึงความจำเป็นในการหยุดการสืบทอดอำนาจของคสช. หยุดยั้งการกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งของพล.อ.ประยุทธ์ และการสร้างประชาธิปไตย รวมถึงเหตุใดที่ประชาชนต้องเลือก ทษช. ทั้งนี้ จะไม่มีการพูดถึงกรณีการยุบทษช. ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็นในแง่มุมใดๆ จะไม่คาดการณ์หรือให้เหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ามีคำถามก็จะไม่มีความเห็น ซึ่งเราได้ดำเนินการมาตลอดและจะเป็นแบบนี้ต่อเนื่องไป

“เต้น”อยากเห็นบิ๊กตู่สู้เปิดเผย

ด้านนายณัฐวุฒิกล่าวถึงการหาเสียงของทษช.ว่า ขณะนี้ผู้สมัครหลายเขตอยากให้แกนนำไปพบประชาชนในหลายพื้นที่ ดังนั้น วันที่ 2 มี.ค. เวลา 14.00 น. เราจะไปพบประชาชนที่ตลาดสามชุก จ.สุพรรณบุรี วันที่ 3 มี.ค. เวลา 08.30 น. ที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ส่วนวันที่ 4 มี.ค. จะลงพื้นที่จ.เพชรบูรณ์ และอาจมีเวทีปราศรัยระดับเขตเลือกตั้ง วันที่ 5 มี.ค.จะปราศรัยที่จ.พังงาและภูเก็ต ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ ประชาชนให้การตอบรับผู้สมัครของเราเป็นอย่างดี เมื่อฝ่ายรณรงค์หาเสียงและแกนนำลงพื้นที่ เราสื่อสารแต่เรื่องนโยบาย แนวทางการแก้ปัญหา และความไม่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น

เมื่อถามถึงกกต.อนุญาตให้ พล.อ.ประยุทธ์ร่วมเวทีดีเบตได้ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยิ่งพล.อ.ประยุทธ์ ออกมาช่วยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หาเสียง ยิ่งเป็นงานง่ายของพรรคฝั่งประชาธิปไตย ตนเคยพูดไว้แล้วว่าช่วงโค้งสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์จะออกมาช่วยขึ้นเวทีปราศรัยในนาม พปชร. ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวล เราอยากเห็นภาพนั้น อยากเห็นการต่อสู้แบบเปิดเผย ตรงไปตรงมาภายใต้กระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งการปราศรัยของทุกพรรค เราสามารถแตะต้องพล.อ. ประยุทธ์ได้ หน่วยงานความมั่นคงต้องยุติการประกบและการติดตามพรรค หรือการ มีปฏิกิริยาเมื่อพูดถึงพล.อ.ประยุทธ์โดย ทันที เพราะเป็นบุคคลสาธารณะ ไม่ใช่ เจ้าหน้าที่รัฐ

อัดวิษณุเล่นอุจจาระจนเปรอะ

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขอเรียกร้องฝ่ายบ้านเมือง โดยเฉพาะตำรวจทุกหน่วยงานให้ติดตามพฤติกรรมของพล.อ.ประยุทธ์ อย่างใกล้ชิด เพราะการที่บุคคลซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปนั่งในทำเนียบรัฐบาล บางวันแต่งเครื่องแบบของราชการ ตนมองว่าจะมีปัญหา กลายเป็นคนปลอมแปลงตนเป็นเจ้าหน้าที่ของทางราชการหรือไม่อย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ สะท้อนความเหลวแหลกของประเทศ เมื่ออำนาจเผด็จการต้องการสืบทอดอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงหลักการใดๆ ขณะที่คำอธิบายของนายวิษณุไม่ได้เรียกว่าหลักกฎหมาย หรืออภินิหารทางกฎหมาย แต่เป็นคำอธิบายที่พยายามช่วยพล.อ.ประยุทธ์อยู่ การเป็นหรือไม่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ คือการเล่นอุจจาระต่อหน้าประชาชน นึกไม่ถึงที่นักกฎหมายอย่างนายวิษณุจะออกมาเล่นอุจจาระต่อหน้าประชาชนได้มากขนาดนี้ นี่คือความเลอะเทอะ ซึ่งจะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้

เมื่อถามว่าจะยื่นให้ กกต.ตีความเรื่องความเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เข้าใจว่ามีผู้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเฉพาะกกต.ควรวินิจฉัยโดยเร็ว ตนเชื่อว่า กกต.จะวินิจฉัยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นอย่างที่นายวิษณุทำทางไว้ให้แล้ว กลายเป็นว่าอุจจาระที่นายวิษณุนั่งเล่น ก็จะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปยังทุกคน ทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง

ชี้ปธ.สรรหา.สว.-ไม่น่าเชื่อถือ

จากนั้นเวลา 19.20 น. นายจาตุรนต์ปราศรัยว่า ไม่กี่วันนี้โพลระบุว่าการเลือกตั้งในพื้นที่กทม. ทษช.จะไม่ได้สักที่ แต่มั่นใจว่าทษช.จะได้ทั้ง 8 เขต ตลอด 5 ปีเสนอความเห็นอะไรก็ไม่ได้ พูดอะไรก็ไม่ได้ กำหนดอะไรก็ไม่ได้ วันนี้เราเชิญชวนพี่น้องกำหนดอนาคตประเทศร่วมกัน อยากบอกพล.อ.ประยุทธ์กับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ว่าเราจะจนกันหมดแล้ว เราจะต่อยอดนโยบายของพรรคไทยรัก ไทย (ทรท.) ทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค ทั้งโอท็อป ขณะที่งบกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นทุกปี งบกระทรวงศึกษาธิการก็ลดลงทุกที แต่พอมีคนบอกจะตัดงบกลาโหม มีคนไล่ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน ใครกันแน่ที่ต้องไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน ถ้าทษช. เป็นรัฐบาล มีรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมทำเรื่องของบ เราจะไม่เซ็นจนกว่าจะไปลดงบมาก่อนถึงจะเซ็น

นายจาตุรนต์กล่าวอีกว่า เรื่องการส่งออก รัฐบาลคสช.ทำไม่ได้ เพราะต่างประเทศเขาไม่เจรจาด้วย หากเลือกตั้งแล้ว พล.อ.ประยุทธ์กลับมาอีก เขาก็ไม่เอาอยู่ดี ทั้งนี้ นโยบายของ พปชร. มีมาก็ใช้ไม่ได้ เพราะถ้าใช้ได้ก็ใช้มาตั้งแต่ 5 ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งทษช.มั่นใจว่านโยบายของเราดีกว่าแน่นอน แต่มีคนมาขวางทางไม่ยอมให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยตั้งรัฐบาล เพราะต้องการกลับมาสืบทอดอำนาจต่อ อย่างไรก็ตาม เพิ่งรู้ว่าจะมีส.ว. 250 คนเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา เพื่อไปเลือกนายกฯ มีเสียงเท่ากับคนครึ่งประเทศ บ้าหรือเปล่า ส.ว. 250 คนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งพล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นคนที่ล้มละลายทางความน่าเชื่อถือไปแล้ว มาเป็นประธานสรรหาส.ว.

ไม่ใช่จนท.รัฐแต่สั่งจับคนได้

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยอมไปดีเบตเพราะกลัวจะตายก่อนเวลาอันสมควร และที่นายวิษณุ ระบุพล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ถ้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐแล้วจับพวกตนคลุมหัวไปได้อย่างไร สั่งระงับธุรกรรมทางการเมืองของตนตั้ง 4 ปีได้อย่างไร สั่งตำรวจไปแจ้งความดำเนินคดีคนที่วิจารณ์หรือเห็นต่างได้อย่างไร ทุกวันนี้ยังกินเงินเดือนของรัฐบาล คิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ถึงเวลาจะไม่พูดนโยบายของพปชร. เชื่อขนมกินได้เลยว่าพล.อ.ประยุทธ์จะไม่ไปขึ้นเวทีปราศรัยให้พปชร. เพราะไปแล้วไม่มีคนมาฟัง ระบอบการปกครองภายใต้ คสช.นี้จะเป็นระบอบการปกครองที่ล้าหลัง เพราะถูกออกแบบมาโดยคนที่ล้าหลัง แล้วมายังอยู่แบบนี้ต่อไป ประเทศก็ต้องล้าหลัง

นายจาตุรนต์กล่าวว่า หากเลือกรัฐบาลคสช.ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ต้องเป็นรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้งเท่านั้นที่จะแก้ได้ เพราะการจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ต้องทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยก่อน เราจะต้องเลือกฝ่ายประชาธิปไตยให้ท่วมท้นเท่านั้น เพราะเขามีส.ว.อยู่ในมือแล้ว 250 คน พรรคที่จะเป็นตัวตัดสินและจะเป็นตัวชี้ขาดพลังประชาธิปไตย คือทษช. ดังนั้น ขอให้พลังฝ่ายประชาธิปไตยมาร่วมกับทษช. หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และสร้างอนาคตของประเทศให้เป็นประชาธิปไตย

พ.ร.บ.ไซเบอร์เครื่องมือบิ๊กตู่

เวลา 20.00 น. นายณัฐวุฒิปราศรัยว่า พอรู้ว่าทษช.จะปราศรัยใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็หายไปจากทำเนียบอย่างไร้ร่องรอย สื่อตามหาให้วุ่น พบว่าป่วย ไปหาหมอ ไม่รู้ว่าเป็นโรคต๊อแต๊หรือเปล่า วันหนึ่งขึ้นสถานะบนเฟซบุ๊กว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่มาอีกวันเปลี่ยนว่าเป็นบุคคลสาธารณะ เห็นใส่เสื้อสีกากีสั่งนู่นสั่งนี่ในทำเนียบ แล้วบอกว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ หรือเป็นยามเฝ้าร้านชำปลอมตัวมา ส่วนนายวิษณุ พยายามบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ เพราะคสช.เป็นองค์กรชั่วคราว ชั่วคราวที่ไหนค้างคืนมา 5 ปีแล้ว แถมมียุทธศาตร์ 20 ปี แบบนี้เรียกชั่วนาตาปี อธิบายมาแบบนี้ปัญหาไปตกที่ กกต. ที่ต้องวินิจฉัย งานนี้เลยเลอะเทอะกันไปหมดทั้งบ้านทั้งเมือง เพื่อตอบสนองผู้มีอำนาจที่ต้องการหักการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนแล้วอยู่ต่อไปทั้งนี้ ตนทำนายว่าวันที่ 24 มี.ค.นี้ ประชาชนรู้เช่นเห็นชาติแล้ว เข็ดหลาบแล้วที่จะไม่เลือกพรรค พปชร.กลับมา และประชาชนจะเลือกพรรคฝั่งประชาธิปไตย

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ที่ผ่านมาเอาเปรียบกันทุกเม็ด มีคนถามว่ามั่นใจได้อย่างไรว่าส.ว.ทั้ง 250 คน จะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่มั่นใจได้อย่างไรก็ที่ประชุม สนช.ที่ผ่านมายกมือกันเป็นร้านอาหารตามสั่งเลย ไม่มีใครคัดค้าน ไม่มีใครเห็นต่าง ไม่มีใครยกมือสวนเลย พ.ร.บ. ไซเบอร์ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ละเมิดและลิดรอนสิทธิประชาชน ยังผ่านโดยไม่มีใครยกมือทักท้วงหรือเห็นต่างเลย ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ พ.ร.บ.ไซเบอร์ นี่แหละที่จะเข้าไปตรวจจับคนที่วิจารณ์รัฐบาล

เตรียมพิธีกรรมต่อท่อสืบอำนาจ

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นอกจากพปชร. แล้วยังมีพรรคที่อยู่ฝ่ายสืบทอดอำนาจ ตนจะไม่พูดว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตนเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าเขาหุ้นกันแน่นอน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าปชป. ไปหาเสียงว่าจะเป็นนายกฯ จะเป็นนายกฯได้อย่างไร ในเมื่อแพ้เลือกตั้งมาตลอด 20 ปี เป็นพระเอกละครรีรัน คำพูดแบบเดิมมาตลอดว่าจะต่อต้านระบอบทักษิณ ต่อต้านเผด็จการรัฐสภา ไม่ได้พูดถึงแนวทางแก้ปัญหาให้ประชาชนเลย

“งานนี้ลุงตู่เดินยิ้มทั้งวัน ปราศรัยก็ไม่ต้องปราศรัย อะไรก็ไม่ต้องทำ เพราะเขาปล่อยให้เด็กๆ ทำงาน ส่วนลุงกำนัน เป่านกหวีดจนหน้ามืดตาลาย บอกไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง สุดท้ายเดินทั่วประเทศ เดินมากยิ่งกว่านักการเมืองอีก วันนี้จะเกิดการรวมร่างปีศาจสืบทอดอำนาจ ตอนนี้มีเท้าสองข้าง ข้างหนึ่งเป็น พปชร. ข้างหนึ่งคือพรรคที่สนับสนุนทั้ง ปชป. รปช. และพรรคนายไพบูลย์ มือ 2 ข้าง ข้างหนึ่งเป็น 250 ส.ว. อีกข้างคือองค์กรอิสระ ขาดแต่หัวที่ต้องผ่านพิธีกรรมที่จะต่อหัวปีศาจสืบทอดอำนาจ นั่นคือพิธีกรรมเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ดังนั้น วันที่ 24 มี.ค. เราจะต้องทำลายพิธีกรรมการสืบทอดอำนาจโดยการเลือก ทษช. ทั้งนี้ ทษช.ตั้งขึ้นมาเพื่อเอาคนกลับบ้าน ซึ่งคนที่เราจะเอากลับบ้านคือพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และนายอภิสิทธิ์ มีคนบอกว่าจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ต้องมีปาฏิหาริย์ ซึ่งผมเชื่อในปาฏิหาริย์ เชื่อว่าพลังของประชาชนจะสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นได้ ตรงไหนมี ทษช.ขอให้เลือก แต่ถ้าที่ไหนไม่มีพรรค ทษช. ก็เลือกพรรคที่หน้าตาเหมือนๆ กัน” นายณัฐวุฒิกล่าว

ช่อง9ปลดพิธีกรสาว-จัดดีเบต

วันที่ 1 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอรวรรณ ชูดี พิธีกรของสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุ คารวะพลังบริสุทธิ์ของน้องๆ นิสิต น.ศ.ทั้ง 100 คนในห้องส่ง จาก 16 สถาบันทั้งในกทม.เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ที่แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองในรายการดีเบตของช่อง 9 เมื่อคืนวันที่ 28 ก.พ. หัวข้อ “คนใหม่..การเมืองใหม่” ร่วมกับตัวแทนผู้สมัครหน้าใหม่ 10 คน 10 พรรคการเมือง ในคำถามดังนี้

1.เห็นด้วยหรือไม่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจไม่ร่วมการดีเบต เห็นด้วย 6 เสียง ไม่เห็นด้วย 94 เสียง

2.เห็นด้วยหรือไม่ ที่รัฐธรรมนูญ 2560 ในบทเฉพาะกาล 5 ปีแรกให้ ส.ว. 250 คนร่วมโหวตเลือกนายกฯ เห็นด้วย 1 เสียง ไม่เห็นด้วย 99 เสียง

3.เห็นด้วยหรือไม่ เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จำเป็นสำหรับประเทศไทย เห็นด้วย 2 เสียง ไม่เห็นด้วย 98 เสียง

4.เห็นด้วยหรือไม่ ว่าประเทศไทยจะมีการปกครองแบบประชาธิปไตยเต็มใบหรือครึ่งใบก็ได้ ถ้าทำให้ปากท้องประชาชนดีขึ้น เห็นด้วย 17 เสียง ไม่เห็นด้วย 83 เสียง

พวกเขาไม่ทราบคำถามล่วงหน้า มีเพียงข้าวกล่องและรถรับส่งในการมาร่วมรายการ แต่ 100 เสียงในคืนวันที่ 28 ก.พ. ของเหล่าเฟิร์สต์โหวตเตอร์เหล่านี้ กำลังขย่มขวัญไปถึงผู้มีอำนาจ จนมองว่านี่คือการชี้นำโจมตีรัฐบาล ทั้งที่เป็นประเด็นที่คนไทยทั้งประเทศมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นต่ออนาคตของพวกเราทุกคน

“ในฐานะ 1 ในพิธีกร และผู้ทำหน้าที่คิดรูปแบบรายการดีเบต ทั้ง 2 ครั้งของช่อง 9 ขอยอมรับการตัดสินใจของบอร์ดอสมท และผู้บริหาร ในการให้ยุติการทำหน้าที่ ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ในฐานะวิชาชีพสื่อสารมวลชนที่มีอายุงานเกือบ 30 ปี ดิฉันไม่ยินยอมรับการตราหน้าว่าทำหน้าที่ลำเอียง และขอขอบคุณต่อเสียงตอบรับในแง่ดีจากผู้ชมทีวีต่อรายการดีเบตของ ช่อง 9 เมื่อคืนที่ผ่านมา ณ โอกาสนี้” นางอรวรรณ ระบุ

ด้านนายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพแรงงาน บมจ.อสมท ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่าสหภาพขอตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีคำสั่งให้นางอรวรรณ ยุติการทำหน้าที่พิธีกรเพราะเหตุผลใด ซึ่งการดำเนินรายการดังกล่าวได้รับเสียงชื่นชมจากคนส่วนใหญ่ในสังคม และเป็นการดำเนินการตามกรอบวิชาชีพ ถ้าไม่มีคำอธิบาย ก็มองได้ว่ามีขบวนการแทรกแซงการทำหน้าที่ตามจรรยาบรรณของสื่อสารมวลชน ซึ่งส่งผลต่อการได้รับข้อมูลข้อข่าวสารที่ประชาชนจะนำมาประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้ง

“เบื้องต้นจะดูคำสั่งที่ออกมาว่าจริงหรือไม่ และหากไม่มีเหตุผลเพียงพอ หรือทบทวนคำสั่ง ทางสหภาพจะเคลื่อนไหวออกแถลงการณ์เรียกร้องการคุ้มครองการทำงานตามกรอบวิชาชีพ” นายสุวิทย์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน