มาร์ค ย้ำไม่หนุน‘บิ๊กตู่’เป็นนายกฯ-ไม่จับมือเพื่อไทย แต่ไม่ปิดประตู พปชร. ถ้าไม่มีเชื้อสืบทอดอำนาจ ลั่นพร้อมเป็นฝ่ายค้านถ้าไม่ใช่แกนตั้งรัฐบาล มั่นใจปชป.ไม่มีงูเห่า

มาร์ค – วันที่ 11 มี.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมแกนนำพรรค แถลงจุดยืนทางการเมืองหลังเลือกตั้งว่า การที่ตนประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ อีกนั้น เป็นการพูดในฐานะหัวหน้าพรรคและเป็นอุดมการณ์พรรคที่ยึดมั่นมา 70 ปี เพราะเรื่องนี้ที่สุดต้องมีมติพรรค อีกทั้งย้ำอุดมการณ์ของพรรคที่ต้องการทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ผู้เลือกตั้งได้รับทราบจุดยืนของแต่ละพรรคอย่างชัดเจนก่อนเลือกตั้ง ถ้าการประกาศครั้งนี้จะทำให้เราเสียคะแนน ตนก็ยินดี เพราะมันคือความเป็นธรรมกับการเลือกตั้ง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนมี 3 ทางเลือก ซึ่งมีจุดยืนและแนวคิดต่างกันชัดเจน ที่ผ่านมาไม่อยากพูดเพราะคิดว่าตนมีจุดยืนชัดเจน และได้รับฉันทานุมัติจากสมาชิกพรรคให้เป็นหัวหน้าพรรค การหาเสียงเลือกตั้งต้องสู้กันที่นโยบาย แต่จากเวทีดีเบตต่างๆ ก็พยายามให้โต้เถียงกันเรื่องจุดยืน ซึ่งประชาชนจะเสียโอกาสฟังนโยบายแก้ปัญหาประเทศ ดังนั้น ตนจึงต้องแถลงให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เสียเวลาอีก

ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่นำไปสู่ความขัดแย้งเพิ่มเติม และไม่มีการบังคับให้ใครเลือกข้างหรือตัวบุคคล เช่น พล.อ.ประยุทธ์ หรือ นายทักษิณ ชินวัตร เพราะอนาคตของประเทศมันเกินเลยไปกว่าเรื่องตัวบุคคล

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาล และต้องอยู่ภายใต้พื้นฐานอุดมการณ์ของพรรค คือ ไม่เอาการทุจริตและการสืบทอดอำนาจ แต่การจัดตั้งรัฐบาลก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะดูผลการเลือกตั้งก่อน

เงื่อนไข คือ ตราบใดที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ไม่สามารถออกจากการครอบงำของคนกลุ่มเล็กๆ ที่มีผลประโยชน์ขัดกับผลประโยชน์ของคนในประเทศ พรรคจะไม่ยอมให้เข้าร่วมรัฐบาลด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณเหล่านี้ ขณะเดียวกันตนก็ไม่ตกหลุมพรางของพรรคเพื่อไทย ที่จะสร้างกระแสให้พรรคไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพราะถ้า พปชร.คิดสืบทอดอำนาจ ก็ไม่ร่วมด้วย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน
“ผมแปลกใจว่าพอตอบแบบนี้ก็มีกองเชียร์บอกว่าตอบไม่ชัด ตอบไม่ได้ ขอเปรียบเทียบกับคำตอบของพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ในเวทีดีเบตที่ว่า ถ้าพปชร.จะบอกว่าเราไม่เอาสืบทอดอำนาจ ไม่เอาคสช. แล้วไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เรายังร่วมรัฐบาลกับ พปชร.ได้ ทำไมเวลาผมพูด ก็บอกว่าไม่ยอมตอบ หาว่ากั๊ก ถ้าอย่างนั้นผมก็มีอนาคตใหม่เป็นเพื่อน เพราะเป็นคำตอบเดียวกันบนเวทีดีเบต ดังนั้น ผมขอยืนยันว่าวันนี้เราพร้อมจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และทุกคนมั่นใจได้ว่าคลิปที่เราประกาศไปมีเป้าหมายคือการนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่ทุจริตและไม่สืบทอดอำนาจ”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนคำถามว่าหลังเลือกตั้ง ถ้าไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ เกรงว่าบ้านเมืองอาจเกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีกหรือไม่ ตนคิดว่าสถานการณ์ในประเทศกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทุกฝ่ายได้เรียนรู้ และยืนยันว่าไม่ต้องการให้เกิดสถานการณ์ความวุ่นวาย รวมถึงตนด้วย ก็เรียนรู้ว่าต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางที่จะจัดการกับปัญหาอย่างไร และประกาศชัดว่าจะไม่เกรงใจใคร เชื่อว่าผู้ที่มีความรับผิดชอบด้านความมั่นคง พร้อมทำงานให้ไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก หลังการเลือกตั้งจะไม่มีมาตรา 44 อีกแล้ว และจะไม่มีเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจากนี้ไปใครจะมาเป็นนายกฯก็ตาม

“การที่ผมประกาศไปนั้น ส่วนตัวผมไม่มีปัญหากับพล.อ.ประยุทธ์ เพราะผูกพันกัน ทำงานด้วยกันมาในช่วงที่ยากลำบาก อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์เองก็เคยให้ความช่วยเหลือ แก้ปัญหาตอนที่ผมเป็นนายกฯ และผมปฏิเสธไม่ได้ว่าประชาชนขอบคุณที่พล.อ.ประยุทธ์ พยายามทำให้ประเทศสงบ แต่การตัดสินใจของผมจะเอาเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวมารวมไม่ได้ ต้องคิดถึงประเทศในระยะยาว

ผมขอยืนยันว่าความขัดแย้งในอนาคตจะเกิดขึ้นได้ คือถ้ามีการสืบทอดอำนาจ และพล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นศูนย์กลางของเงื่อนไขความขัดแย้งที่ง่ายที่สุดหลังการเลือกตั้ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ดังนั้น การบริหารประเทศสิ่งที่ต้องเอาอยู่ให้ได้ เรื่องแรกคือฝ่ายการเมือง เพราะน่าเป็นห่วงว่าเส้นทางของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ต้องการเป็นนายกฯ ด้วยการพึ่งพาพรรคการเมือง แต่ตอนนี้เห็นชัดแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในแนวทางของตัวเองได้ ทั้งนโยบายข้าว ส.ป.ก.ทองคำ และหลายสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยบอกว่าเขาไม่ควรทำ และทำไม่ได้ แต่วันนี้กลับต้องพึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ที่ยังยืนยันเสนอหลายอย่างขัดกับความเชื่อหรือจุดยืนของพล.อ.ประยุทธ์

ดังนั้น การที่ตนออกมาประกาศเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) ต้องการทำให้ประชาชนเห็นว่าสุดท้ายในการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องกลับมาสู่การเลือกอนาคตของประเทศ แข่งขันกันด้วยวิสัยทัศน์และนโยบาย ไม่ใช่เอาเงื่อนไขตัวบุคคลใดมาครอบงำ หรือบีบบังคับให้เลือกข้าง โดยไม่คำนึงถึงอนาคตของประเทศในวันข้างหน้า

เมื่อถามว่าหากประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แต่เป็น พปชร.หรือเพื่อไทยที่ได้เสียงข้างมากและเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล จะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าพรรคไม่ได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เราพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ป็นภาคประชาธิปไตยสุจริต และขอเตือนว่าถ้าใครยังเชื่อว่าการทุจริตเป็นเพียงวาทกรรม ประเทศจะกลับมาเกิดวิกฤตแน่นอน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากพปชร.จะเข้าร่วมกับประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล ต้องไม่มีการสืบทอดอำนาจ ทั้งตัวบุคคล คือ พล.อ.ประยุทธ์ และมรดกที่ขัดกับหลักประชาธิปไตย คือคำสั่งและประกาศของ คสช.ที่ขัดกับหลักประชาธิปไตย แนวทางการบริหารประเทศที่รวมศูนย์อำนาจ ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน ประชาธิปัตย์จะเข้าไปแก้ไขสิ่งเหล่านี้ ซึ่งประกาศเป็นนโยบายไปแล้ว

“ผมยังนึกไม่ออกว่าถ้าเขาไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ แล้วจะเป็นอย่างไร เพราะผู้บริหารของพรรคเขาหลายคน ทั้งหัวหน้า เลขาธิการและโฆษกพรรค ก็ไม่ได้ลงสมัครส.ส. หากคนของเขาเข้าสภา เขาจะมีตัวหลักอยู่ที่ส.ส.กลุ่มเดียวได้รับเลือกเข้ามา ผมขอย้ำว่าหาก พปชร.ยังพยายามสืบทอดอำนาจ พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ให้เขามาร่วมรัฐบาลด้วย ส่วนเพื่อไทย ผมยังมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะจากปรากฏการณ์หลายอย่างในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดแล้วว่ามีคนที่จะมาครอบงำพรรคได้อยู่” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าหากในการลงมติเลือกนายกฯ มีส.ส.ของพรรคบางคนไปยกมือเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคอื่น พรรคจะจัดการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคจะต้องดำเนินการกับคนที่ไม่รักษาอุดมการณ์ของพรรค เพราะถือว่าขัดกับข้อบังคับพรรค ตนมั่นใจว่าจัดการได้ ไม่มีงูเห่าแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน