ศาลไม่รับฟ้อง ขอให้เปิดเผยการสรรหา ส.ว. ชี้ไม่ใช่การใช้อำนาจทางปกครอง
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของคณะราษฎรไทยแห่งชาติ โดยนายพลภาขุน เศรษฐญาบดี กับพวกรวม 34 คน ฟ้องคดีคสช.และนายกฯ ในฐานะหัวหน้าคสช. กรณีมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว.
ซึ่งมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 269 (1) และพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. มาตรา 90(1) ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์และนโยบายของคสช. โดยขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาส.ว. และให้แต่งตั้งบุคคลที่เป็นกลางทางการเมืองเป็นแทน
รวมทั้งให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ชอบด้วยมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่
ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้เป็นกรณีการฟ้องคดีเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาส.ว. อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของ คสช. และหัวหน้าคสช.ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เป็นเรื่องการใช้อำนาจทางปกครอง หรือดำเนินกิจการทางปกครอง ศาลปกครองจึงไม่อาจรับคำฟ้องไว้พิจารณาพิพากษาได้ ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง ที่นายเอกราช อุดมอำนวย คนอยากเลือกตั้ง ที่ฟ้องพล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานกรรมการสรรหาส.ว. ซึ่งมีหน้าที่สรรหา ส.ว. ตามมาตรา 269(1) ของรัฐธรรมนูญ ได้สรรหา ส.ว. โดยไม่เปิดเผยขั้นตอนและวิธีการสรรหาให้ประชาชนทราบ ทำให้ประชาชนทราบข้อมูลไม่ครบถ้วน เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จึงขอให้ศาลปกครองสั่งให้เปิดเผยขั้นตอนและวิธีการสรรหาส.ว. รวมทั้งรายชื่อคณะกรรมการสรรหา รายชื่อบุคคลที่กกต.จัดให้มีกการเลือกตั้ง และรายชื่อบุคคลที่ได้รับการสรรหา
ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า การสรรหา ส.ว.ของคณะกรรมการสรรหาดังกล่าว เป็นกระบวนการขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การกระทำทางปกครองหรือการใช้อำนาจทางปกครองจึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ดังนั้น ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเช่นกัน
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
