ประชาชาติยืนยันเคียงข้างประชาธิปไตย-ลั่นแค่มองตา‘เพื่อไทย’ก็รู้ใจกัน

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่พรรคประชาชาติ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ(ปช.) นางณหทัย ทิวไผ่งาม รองหัวหน้าพรรค พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค และนายสุพจน์ อาวาส รองโฆษกพรรค ร่วมแถลงภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ประกาศผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ และการจับมือร่วมรัฐบาล

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ปกติ กกต.ไม่มีประสบการณ์ มีข้อบกพร่องเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะการดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นสิ่งที่กกต.ไม่สามารถทำได้แบบที่ทุกคนคาดหวัง ข้าราชการหลายระดับรับใช้นักการเมืองบางพรรค ซึ่งกกต.ต้องหาทางแก้ไข และชี้แจงให้ได้ ประชาชนจำนวนไม่น้อยขาดความเชื่อมั่นในตัวกกต. แต่ไม่ได้หมายความว่า ขาดความเชื่อมั่นจากคะแนนที่ปรากฎออกมา

ผู้สื่อข่าวถามถึงความพึงพอใจต่อผลการเลือกตั้งที่ออกมา วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า พอใจในระดับหนึ่งที่ประชาชนต้านทานกระแสซื้อเสียง และอำนาจรัฐได้ พรรคประชาชาติก็ฝ่ามรสุมคลื่นลมจนได้มา 7 ที่นั่ง แต่หากเป็นการเลือกตั้งที่ปกติ เชื่อว่าจะได้เสียงมากกว่านี้ ซึ่งฝ่ายกฎหมายของพรรคคงต้องรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพราะการกล่าวหาใครต้องมีพยานชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะเป็นการใส่ร้าย เราต้องรอบคอบ และให้โอกาสผู้ปฏิบัติงานด้วยว่าทำไปโดยตั้งใจ หรือไม่รู้ โดยพรรคจะประชุมเรื่องนี้ในเร็วๆนี้

ส่วนการทาบทามจากพรรคการเมืองอื่น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนมอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี ไปพูดคุย แต่ไม่เป็นทางการ เพราะคะแนนการเลือกตั้งที่ชัดเจนควรจะรู้ในสัปดาห์นี้ เมื่อรู้คะแนนแล้วทุกพรรคคงหารือกันได้ เพราะจะเริ่มเข้าสู่การจัดตั้งรัฐบาลแล้ว จุดยืนของพรรคประชาชาติวางแนวทางไว้ว่าจะยืนเคียงข้างประชาธิปไตย เคียงข้างประชาชน คงไม่สามารถเข้าไปเชื่อมโยงการสืบทอดอำนาจของเผด็จการได้ ส่วนการที่ 2 พรรคใหญ่ประกาศเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ในส่วนของพรรคประชาชาติขอย้ำจุดยืนว่า เราจะสนับสนุนประชาธิปไตย ไม่สืบทอดอำนาจ ไม่ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ก็ตาม

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคที่ได้เสียงป๊อปปูลาร์โหวตมากที่สุด หรือพรรคที่ได้จำนวนส.ส.มากที่สุด ควรเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เสียงที่จะสนับสนุนบุคคลให้เป็นนายกฯ คือส.ส. ดังนั้น จำนวนส.ส.ที่ได้มากจึงชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล นี่คือหลักการทั่วไป แต่หากเลือกนายกฯโดยตรง แบบนั้นจึงจะใช้เสียงป๊อบปูลาห์โหวต แต่นี่เป็นการเลือกโดยส.ส.จึงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ

ต่อข้อถามถึงข้อเสนอของพรรคอนาคตใหม่ ที่ให้พรรคการเมืองรวมกันเพื่อปิดสวิตซ์ 250 ส.ว. นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า หากพรรคการเมืองรวมใจกันเป็นหนึ่งแล้วเลือกนายกฯเกิน 376 เสียง แน่นอนว่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ขณะที่ส.ว.ก็ทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย ไม่ใช่มาเลือกฝ่ายบริหาร ซึ่งผิดหลักการประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า ในฐานะอดีตประธานรัฐสภา อยากเห็นสภาใหม่เป็นแบบไหน นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ได้คนรุ่นใหม่เข้าสภาจำนวนมาก คนเก่าหายไปเยอะ ดังนั้นการพัฒนาสภาฯน่าจะดีขึ้น ส่วนการที่มีส.ส.หน้าใหม่เข้ามาเยอะสะท้อนว่าประชาชน ต้องการความเปลี่ยนแปลง ไม่อยากเห็นการเมืองแบบเก่า จึงคาดหวังกว่าทุกครั้งว่าสภาผู้แทนฯที่จะมีขึ้นจะมีศักยภาพในการพัฒนาประชาธิปไตย

ด้านพ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อยากให้ทุกพรรคการเมืองหันหน้ามาพูดคุยกัน ให้นักการเมืองเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความปรองดอง สร้างสันติภาพ และให้สภา เป็นสภาแห่งเสรีภาพ การเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะยิ่งกว่าปี 2500 ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดทุกพรรคจะต้องมาพูดคุยเพื่อตกลงกัน ซึ่งพรรคประชาชาติมีจุดยืนว่ามาในระบอบประชาธิปไตย จึงไม่อยากให้ส.ว.เลือกนายกฯ แต่อยากให้เป็นหน้าที่ของผู้แทน 500 คน
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ติดต่อมาหรือยัง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “เป็นสายประชาธิปไตยเหมือนกัน บางอย่างไม่ต้องพูดคุย แค่มองตาก็รู้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน