คสช.มีไว้ทำไม คอลัมน์ ใบตองแห้ง

คสช.มีไว้ทำไม อ๊ะอ๊ะ ถามอย่างนี้เดี๋ยวโดนปรับทัศนคติ ก็มีไว้รักษาความสงบนะสิ เด็กอนุบาลยังรู้เลย ถ้าทำความผิดต้องถูกคุณครูปิดตามัดมือ เพื่อปลูกฝังให้รู้จักหวาดกลัวคำสั่งและกฎหมาย

ที่ถามอย่างนี้ไม่ใช่เพิ่งสงสัย แต่เพราะ คสช.อยู่มาใกล้ 3 ปีแล้วยังอาจต้องอยู่ต่อไปเรื่อยๆ อย่างที่ พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธ์ ถามว่าวันข้างหน้าไม่มี คสช.ไม่มี ม.44 คนไทยจะอยู่กันอย่างไร นั่นนะสิ ฟังคำถามแล้วน้ำตาจะไหล เหมือนฟังเพลง “วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก วันไหนสำนึกแล้วเธอจะเสียใจ”

แม้โฆษก คสช.ยกอุทาหรณ์เรื่องธรรมกาย ว่ากฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย แต่ก็ชวนให้คิดถึงทุกปัญหาในประเทศไทย ทุกวันนี้อะไรๆ ก็ต้องใช้ ม.44 ถ้าไม่มี ม.44 ประเทศนี้คงหายใจไม่ได้ ใครบางคนคงเส้นเลือดแตกตาย นี่ถ้ามีเลือกตั้ง มีรัฐบาลใหม่เมื่อไหร่ อาจมีประชาชนไปชูป้าย ร้องหา ม.44

นึกภาพไม่ออก ประเทศนี้จะอยู่โดยไม่มี คสช.ม.44 ได้อย่างไร เพราะจาก “ขอเวลาอีกไม่นาน” ยิ่งนานยิ่งใช้ ม.44 จากปี 2557 ที่มีคำสั่งเดียว ปี 2558 มี 48 คำสั่ง ปี 2559 เพิ่มเป็น 78 คำสั่ง ปี 2560 แค่ 2 เดือนจัดไปแล้ว 12 คำสั่ง คงได้ลุ้นกันว่าถึงปลายปีจะทำลายสถิติกินเนสส์ หรือยกระดับเป็น ม.88 ก็ได้

ประเทศนี้จะเลิกใช้ ม.44 ได้ไง ในเมื่อกลายเป็นยาวิเศษรักษาทุกโรค แก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ได้ การเมืองก็ได้ ศาสนา ก็ยังได้ ย้าย ผอ.สำนักพุทธฯ คนก็แซ่ซ้อง ปลดผู้ว่ารถไฟฯ ก็โห่ร้องไชโย นับแต่นี้การประมูลจะโปร่งใส อ้าว แล้วเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ไม่โปร่งใสหรือไร แล้วใครตั้งใครดูแล ทั้ง สำนักพุทธฯ ทั้งผู้ว่ารถไฟฯ

โปรดอย่าถามว่า ม.44 เป็นกฎหมู่หรือกฎหมาย ให้ดูว่าอะไรได้ผลชะงัดกว่า ศักดิ์สิทธิ์กว่า อย่าไปสนใจว่าเราอยู่ในระบอบอะไร ระบอบการปกครองด้วย ม.44 หรือระบอบการปกครองด้วยกฎหมาย

แต่คำถามคือเราจะกลับไปสู่ระบอบปกติได้หรือไม่ ระบอบที่ไม่มี คสช.ม.44 ได้หรือไม่ ซึ่งในทางกลับกัน คือคำถามว่า คสช.จะลงจากอำนาจได้หรือไม่ หรือต้องอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ เพราะคนไทยชินเสียแล้วว่านี่แหละคือ “ระบอบปกติ”

ก็นั่นนะสิ ไม่มีเลือกตั้งก็ไม่เห็นมีใครเดือดร้อน นอกจากนักการเมือง ซึ่งยังต้องใช้เวลาปรองดองอีกเป็นปี อยู่อย่างนี้ สภาก็มี สนช.เปิดประชุมลงมติอย่างขยันขันแข็ง ปีๆ หนึ่ง ลงมติตั้ง 1,264 ครั้ง ขยันกว่านักการเมืองหลายเท่า ใครว่าขาดประชุม ท่านก็ลาอย่างถูกต้อง แค่ใบลาเป็นความลับเท่านั้นเอง เพราะต้องทำงานหนักเพื่อชาติทีเดียวพร้อมกันหลายๆ ตำแหน่ง (แต่อย่าเผลอลาประชุมบอร์ดรัฐวิสาหกิจนะ เดี๋ยวไม่ได้เบี้ยประชุม)

พอท่านผู้นำขู่ว่า ถ้าโรดแม็ปถูกขวางก็จะขยับออกไป จึงไม่มีใครเดือดเนื้อร้อนใจ ดีเสียอีก ท่านจะได้บริหารประเทศต่อไปอย่างมีหิริโอตตัปปะ สั่งสอนประชาชน ทำอะไรอย่าให้คนสาปแช่ง ดูอย่างท่านสิ เห็นไหม อยู่มา 3 ปีไม่มีใครกล้าสาปแช่ง

คนไทยจำนวนมากก็พอใจนะครับ ที่จะให้ คสช.ม.44 อยู่ต่อไปเรื่อยๆ อย่าไปหาว่าเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจ เพราะ ม.44 นี่แหละสนองอำเภอใจคนไทย โดยเฉพาะคนดีมี ศีลธรรม คนชั้นกลางในเมือง ที่เกลียดชังความชั่วร้าย อึดอัดกับระบอบการปกครองด้วยกฎหมาย ที่ต้องใช้เหตุผล ต้อง ทนเสียงข้างมาก ต้องยึดหลักขันติอดกลั้น ต้องเคารพสิทธิ มนุษยชน ฯลฯ โอ๊ย ยุ่งยากวุ่นวาย ใช้ ม.44 ลุยธรรมกายเลยดีกว่า พระศาสนาจะได้พิสุทธิ์ผ่องใส สร้างสังคมไทยที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม

แต่ทางกลับกัน คสช.ม.44 ก็อย่าไปขวางอำเภอใจนะ ต้องทันอารมณ์ที่พลิกไปพลิกมา เดี๋ยวจะหาว่าสุจินดา-อิสระพงศ์ไม่เตือน

สังคมไทยในภาวะอับจน อับภูมิปัญญา คนใช้อารมณ์เสียงดังกว่าคนใช้เหตุผล ก็ต้องมี คสช.ม.44 ไว้สนองความสะใจไปเรื่อยๆ ละครับ เพราะมองข้างหน้า ถ้ามีเลือกตั้ง มีรัฐบาลนักการเมือง เกิดขัดอำเภอใจก็คงตั้ง “ธรรมกรวย” กันอีก อยู่กับรัฐบาลทหารนี่แหละดี ตรวจสอบไม่ได้ วิจารณ์ไม่ได้ เลือกก็ไม่ได้ ไล่ก็ไม่ได้ ไม่ต้องมีวาระ มีแต่เพลง “ขอเวลาอีก ไม่นานๆๆๆ”

เพียงแต่มีคำถาม ทุกรัฐบาลต้องมีวงจร “ขาลง” ถ้าทุกปัญหาประดัง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม ขัดแย้งมากขึ้นๆ คสช.ที่ไม่มีทางลง มีแต่ต้องอยู่ไปเรื่อยๆ จะทำอย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน