‘สมชัย’ ชี้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรธน.ตีความ จะได้เกิดข้อยุติ กันฟ้องร้องภายหลัง
จะได้เกิดข้อยุติ – วันที่ 12 เม.ย. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และอดีตผู้สมัครส.ส. จ.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี กกต.มีมติส่งเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณ เพื่อจัดสรรจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคการเมืองจะพึงมีได้ ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ว่า ต้องติดตามว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่ เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 (2) ที่ กกต.ใช้เป็นช่องทางในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ สามารถมองได้สองทางคือ ศาลรัฐธรรมนูญอาจจะรับไว้พิจารณาก็ได้ หรืออาจจะไม่รับไว้พิจารณาก็ได้ หากเห็นว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่ชัดเจนอยู่แล้ว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญ รับเรื่องนี้ไว้วินิจฉัยจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้ได้ข้อยุติเกี่ยวกับการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่เหมาะสมควร และจะเป็นผลดีต่อบ้านเมือง เพราะไม่ว่าคำวินิจฉัยจะออกมาในทางใด ก็จะไม่เกิดการฟ้องร้องกันในภายหลัง แต่จะเป็นผลดีในระยะยาวหรือไม่ เป็นเรื่องของตัวกฎหมาย ที่สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่จะต้องไปคิดเองว่า ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแบบนี้ จะเป็นผลดีต่ออนาคตการเมืองไทยหรือไม่
นายสมชัย กล่าวว่า ข้อสรุปของ กกต.ที่ว่า มีเพียงแนวทางการคำนวณของ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ไปเติมส.ส.บัญชีรายชื่อให้พรรคเล็กเท่านั้น จึงจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อครบ 150 คน ถือเป็นการสรุปที่แสดงให้เห็นว่า ยังมีความพยายามน้อยเกินไป ในการพิจารณารายละเอียด ซึ่งวิธีการของคนอื่นๆ รวมถึงในส่วนของตน มีการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 รอบ คือ รอบแรกจัดสรรให้ตามทศนิยม 4 หลัก จากนั้นที่เหลืออีก 1 คน ค่อยมาจัดสรรให้พรรคต่างๆ ในรอบที่ 2 เนื่องจากยังมีโควตา จำนวน ส.ส.พึงมีเหลืออยู่ การเติมตรงส่วนนี้ไม่ได้ขัดกฎหมาย เพราะยังเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ที่กำหนด คือไม่ให้เกินจำนวน ส.ส.พึงมี ซึ่งในส่วนของกฎหมายคงไม่สามารถเขียนให้ครบถ้วนได้ว่า จะต้องจัดสรรกันกี่รอบ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ กกต.จะตัดสินใจ
“ผมจะทดสอบโมเดลใหม่ภายใต้แนวทางเดิมของ กรธ. แต่อยู่บนสมมติฐานที่ว่า เกิดโอเวอร์แฮงก์ 50 คน แล้วจะเกิดอะไรขึ้น และผู้เกี่ยวข้องจะยอมให้เกิดสถานการณ์แบบนั้นหรือไม่ หรือจะปล่อยให้การจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อให้กับพรรคที่ได้คะแนนไม่ถึงจำนวน ส.ส.พึงมี ไปแค่ไหน ถ้าไหลไปให้พรรคที่ได้คะแนนไม่กี่พันคะแนน จะเอาต่อด้วยหรือไม่” นายสมชัย กล่าว
