เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายออมสิม ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการหลังจากถอดถอนพระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ออกจากสมณศักดิ์ ว่า แม้ได้ถอดถอนจากสมณศักดิ์แล้ว แต่ไม่ให้มีการลาสิกขาหรือสึกพระได้ทันที เพราะมีขั้นตอนนิคหกรรมที่ต้องมีพระผู้ปกครองสงฆ์มาพิจารณา ซึ่งเป็นกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วคณะสงฆ์จึงจะมีมติออกมา

ทั้งนี้ คำให้สัมภาษณ์ของตนก่อนหน้านี้ที่ออกไปเป็นข่าวว่า ไม่ใช่ตนไปฮึ่มหรือขู่ว่าเจอที่ไหนให้จับสึกเจอได้เลยนั้น ที่จริงแล้ว ตนระบุว่าการสึกพระมีขั้นตอนหรือกระบวนการของสงฆ์ ไม่ใช่เจอที่ไหนแล้วจะจับสึกทันที สำหรับการสึกจากสมณเพศ ตนคิดว่ามี 2 ส่วน คือ 1.การเปล่งวาจาขอลาสิกขาเอง กับ 2.กรณีที่พระสงฆ์ถูกตัดสินว่ากระทำผิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งทางสงฆ์จะต้องไปพิจารณาและมีมติออกมา ส่วนการทำผิดกฎหมายบ้านเมืองนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราจะเห็นว่าทางโลกเราไม่เคยจับพระสงฆ์ที่ห่มผ้าเหลืองเข้าไปในคุก เพราะต้องให้สึกก่อน

เมื่อถามถึงการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) และรัฐบาลในวันที่ 10 มี.ค.นี้ นายออมสิน กล่าวว่า น่าจะมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตน และนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่ามีวาระการประชุมเรื่องใดบ้าง

เมื่อถามว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ควรทำอย่างไรต่อไป นายออมสิน กล่าวว่า พศ.จะรอหนังสือที่แจ้งการปลดพระไชยบูลย์ออกจากสมณศักดิ์ แล้วไปกราบบังคมทูลฯ สมเด็จพระสังฆราชทรงทราบ ซึ่งคงจะมีขึ้นในเร็วๆนี้ จากนั้นพศ.จะแจ้งให้มส.รับทราบ ส่วนเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวกับการลงนิคหกรรมเป็นกระบวนการของสงฆ์ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการดำเนินการไม่ง่ายอย่างที่ทุกคนคิด โดยตอนนี้พระไชยบูลน์ยังเป็นพระ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อพระสงฆ์ถูกถอดจากสมณศักดิ์ และมีความผิดตามกฎหมายหลายคดี มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่มส.จะให้ออกจากความเป็นพระ นายออมสิน กล่าวว่า ตนไปพูดแทน มส.ไม่ได้ เพราะมส.จะต้องพิจารณาเองจากข้อเท็จจริงทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ วัดต่างๆในต่างจังหวัดให้ความร่วมมือดี ไม่มีพระสงฆ์เข้าไปสมทบในพื้นที่วัดพระธรรมกายอีก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทุกคนเริ่มเข้าใจ และตนเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น สำหรับการดำเนินการกับวัดพระธรรมกาย ควรมีการเจรจาต่อไป และเรายังเดินหน้าแนวทางนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน