กกต.ไม่หวั่น‘ธนาธร’ขู่ฟ้องมาตรา 157-ท้าโชว์หลักฐาน

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ขู่ฟ้องมาตรา 157 กกต.หลังเข้าชี้แจ้งข้อกล่าวหากรณีถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด เข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการสมัครเลือกตั้งส.ส.ต่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของกกต.ว่า เป็นสิทธิของประชาชน ถ้ากกต.ทำไม่ถูกต้องก็ฟ้องได้ ส่วนที่นายธนาธร ระบุว่าการดำเนินการของกกต.มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองหรือมีการแทรกแซงทางการเมืองนั้น เรื่องดังกล่าวมีผู้ร้องมาตั้งแต่เดือนมี.ค. ขณะนี้ผ่านไปเดือนกว่าแล้วถ้าคิดว่าเร่งรัดก็ลองพิจารณาดูว่าจริงหรือไม่ และที่ว่าถูกแทรกแซงทางการเมืองหรือกระบวนการไต่สวนของกกต.ถูกแทรกแซงหลักฐานคืออะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายธนาธรระบุว่าการไต่สวนของกกต.ไม่เหมาะกับยุคสมัย นายแสวง กล่าวว่า กกต.ต้องทำตามกฎหมาย สิ่งที่กกต.จะดำเนินการพิจารณาได้มีอยู่ 3 กรณี 1.มีเหตุอันควรสงสัยว่า 2.ความปรากฏ และ3.มีผู้ร้อง ซึ่งกฎหมายเลือกตั้งมุ่งคุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐแต่ยังคงให้สิทธิกับผู้ถูกร้องในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา กฎหมายจึงใช้คำว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า กกต.ก็สามารถพิจารณาได้แล้วไม่เหมือนกับกฎหมายอาญาที่ต้องปราศจากข้อสงสัย จึงจะสามารถเอาผิดได้ เนื่องจากเป็นเรื่องกระทบสิทธิเสรีภาพ

ส่วนที่นายธนาธรระบุว่าคณะกรรมการสืบสวนฯไม่สามารถบอกได้ว่านายธนาธรผิดในข้อใดนั้น ความผิดอยู่ที่ข้อกล่าวหาซึ่งกกต.ได้แจ้งไปแล้วว่าอาจจะเข้าข่ายเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. แต่ผู้ที่วินิจฉัยว่าผิดอะไรอยู่ที่คณะกรรมการกกต. ในชั้นของพนักงานสืบสวนจะเป็นผู้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆแล้วนำเสนอต่อกกต.พิจารณา และคดีดังกล่าวกกต.จะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสืบสวนฯ

เมื่อถามถึงกรณีนายธนาธรเป็นหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค หากเซ็นรับรองส่งผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติลงสมัคร จะถือว่าเข้าข่ายทำให้ต้องยุบพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่ได้ดูไปถึงตรงนั้น และเป็นเรื่องของข้อกฎหมายที่สามารถมีความเห็นไปได้หลายทาง อยู่ที่กกต.จะพิจารณาว่าหัวหน้าพรรคซึ่งเป็นคนเซ็นรับรองเข้าข่ายเป็นกรรมการบริหารพรรครู้เห็นสนับสนุนหรือไม่ รวมทั้งต้องไปดูกระบวนการของพรรคการเมืองก่อนที่จะให้หัวหน้าพรรคเซ็นรับรองส่งผู้สมัคร และหากผู้สมัครรู้ตัวอยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติในการลงสมัครแต่ยังมาสมัคร เขาก็ต้องรับผิดชอบตามมาตรา 138 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน