ใครเผากรุง ปี53? บก.ลายจุด เผยชัด หลังศาลฎีกามีคำสั่ง ไม่ใช่ก่อการร้าย เสื้อแดงสลาย ก่อนควันไฟพวยพุ่ง

จากกรณีที่ เมื่อวานนี้ (1 พฤษภาคม 2562) ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ศาลอ่านฟังคำพิพากษาศาลฎีกา มีคำสั่งให้บริษัทประกัน ใช้ค่าสินไหมทดแทน จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ ตลาดหลังทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเกิดในช่วงการชุมนุม ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทั้งนี้ศาลฏีกา ยังชี้ชัดว่า ไม่ใช่การก่อการร้าย และกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อ สลายการชุมนุมก่อนเกิดเหตุ ตามที่ได้เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น

และก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2556 ที่ผ่านมา ที่ห้องพิจารณา 403 ศาลแพ่ง ถ. รัชดาภิเษก ศาลแพ่งได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ที่ ผบ.4326/54 ที่กองทุนรวมธุรกิจไทยสี่ โจทก์ที่่ 1 กับพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ที่่ 2 ,บริษัทเซ็นทรัลเวิลด์ จำกัด ที่่ 3 และบริษัทห้างเซ็นทรัล ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ จำกัด ที่่ 4

ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัทเทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยในความ ผิดสัญญาประกันวินาศภัย จากกรณีเหตุไฟไหม้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ ระหว่างการกระชับพื้นที่เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53 ของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ในการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการณ์แห่งชาติ (นปช.)

โดยคำฟ้องระบุว่าโจทก์ทั้งสี่่่ ได้ทำกรมธรรม์ประกันภัยไว้กับจำเลย เมื่อมีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงและยุติลง มีการบุกรุกเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเซน ใช้ไฟเผาตามจุดต่าง ๆ ด้วยความคึกคะนอง เปลวไฟที่ลุกไหม้ได้ผ่านเข้าไปยังศุนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด เป็นเหตุให้ทรัพย์สินที่โจทก์ทั้งสี่เอาประกันไว้ได้รับความเสียหาย ขอให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิด ให้โจทก์ทั้งสี่่่ และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นเงิน 2,848,448,119.08บาท ให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยธุรกิจหยุดชงักให้โจทก์ที่ 1และ 3เป็นเงิน 989,848,850.01 บาทและให้จำเลยชำระดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของค่าเสียหายทั้งสอง

ศาลมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าความเสียหายที่โจทก์ได้รับเป็นข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทางนำสืบของจำเลยไม่ปรากฏชัดว่าเป็น การกระทำของผู้เข้าร่วมชุมนุมคนใด หรือสั่งการจากแกนนำ ส่วนที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงปราศรัยมีเนื้อหาส่งเสริมความรุนแรงนั้น ถ้ามีการทำร้ายคนเสื้อแดงก็จะเกิดความรุนแรงขึ้น แต่ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลจะสลายการชุมนุมเมื่อใดการปราศรัยจึงเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการสลายการชุมนุม

ส่วนเรื่องที่รัฐบาลประกาศให้ยุติการชุมนุมแต่ผู้ชุมนุมไม่ได้ยุติและก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น จะมีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายใดย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และจะเห็นว่ากลุ่มคนร้ายที่บุกรุกและเผาทรัพย์ในห้างสรรสินค้าเซนมีจำนวนไม่มาก ใช้วิธีการไม่สลับซับซ้อน ไม่ได้ใช้ทักษะพิเศษใด ๆ ที่เป็นความชำนาญ สำหรับถังแก๊ส น้ำมัน ยางรถยนต์ ก็หยิบฉวยได้ในบริเวณใกล้เคียง

ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ ที่สำคัญขณะมีการเผาห้างเซน แกนนำก็ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว คนร้ายที่เผาห้างสรรพสินค้าเซน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็มิได้ต้องการให้ข่มขู่รัฐบาลยุบสภาหรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากนายกรัฐมนตรี จึงไม่ใช่เป็นการประทำที่หวังผลการทางเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฟังไม่ได้ว่าเป็นการก่อการร้าย

อย่างไรก็ดี การกระทำดังกล่าวเป็นการไม่นำพาต่อคำสั่งรัฐบาล ก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย ไม่มีระเบียบ จนไม่สามารถควบคุมได้ ถือได้ว่าอยู่ในความหมายของคำว่า “จลาจล” เมื่อความเสียหายที่โจทก์ได้รับเป็นภัยที่เกิดจากการจลาจลซึ่งเป็นภัยที่ได้รับการคุ้มครองจากกรมธรรม์ จำเลยจึงต้องชดใช้ค่าเสียหายทดแทนแก่โจทก์ทั้งสี่

พิพากษาให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงทุกชนิดให้แก่โจทก์ทั้งสี่ หรือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นเงิน 2,719,734,975.29 บาท และให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักให้แก่โจทก์ที่1และ 3 เป็นจำนวนเงิน 989,848,850.01 บาทและให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของค่าเสียหายทั้งสองแก่โจทก์ทั้งสี่และหรือสำนักงานส่วนทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ กับโจทก์ที่1และ3ตามลำดับ นับแต่วันที่ 31 มี.ค. 2554 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยชำระค่าธรรมเนียมต่อศาลในนามโจทก์กำหนดค่าทนายความให้ 60,000 บาท

ต่อเนื่องจากกรณีทั้งสองนี้ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้

ใครเผา CTW

เมื่อศาลแพ่งสรุปชัดว่าการเผา CTW ไม่ใช่การก่อการร้าย แต่อาจเป็นการจลาจล ไม่ใช่การเตรียมการหรือมีการสั่งการ

ที่สำคัญ จนถึงบัดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังหาบุคคลในภาพที่ถูกบันทึกได้ว่าเป็นผู้กระทำการเผาไม่ได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ ขนาดคดีปล้นร้านทองใส่หมวกกันน็อคยังตามจับได้ นี่เห็นหน้าเห็นตาชัดเจน และจะเป็นหลักฐานสำคัญว่าใครคือผู้กระทำหรือสั่งการ หรือมีแรงจูงใจจากเรื่องใด กลับไม่สามารถตามเจอได้ แน่นอนว่า ย่อมมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นผู้ชุมนุม

แต่เชื่อไหมว่า คนเสื้อแดงไม่มีใครรุ้จักคนในภาพเหล่านั้นเลย


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน