โพลชี้ ประชาชนกังวลหลัง 9 พ.ค. สถานการณ์การเมืองวุ่นวาย ติงกกต.ทำงานบกพร่อง ผิดพลาด ระบุอยากเห็นบ้านเมืองปรองดอง

ประชาชนกังวล – วันที่ 5 พ.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจเรื่อง ความคาดหวังของประชาชน กรณีการรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตและส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของ กกต. จากประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 1,239 คน สำรวจระหว่างวันที่ 30 เม.ย. – 4 พ.ค. เพื่อสะท้อนความคิดเห็นประชาชน ตามที่กกต.ยืนยันจะประกาศผลรับรองส.ส.ในวันที่ 7-8 พ.ค.เพื่อให้เสร็จตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ภายในกรอบ 150 วัน แต่สถานการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะประเด็นการเลือกตั้งยังคงอยู่ในกระแสและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง พบว่า

ก่อนจะมีการเลือกตั้งส.ส. สิ่งที่ประชาชนคาดหวัง ร้อยละ 42.08 ระบุกระบวนการและขั้นตอนของ กกต.มีความชัดเจน โปร่งใส ตรงไปตรงมา ร้อยละ 29.46 ผลการรับรอง ข้อมูลเป็นจริง ถูกต้อง ตรวจสอบได้ ร้อยละ 18.44 ประกาศผลรับรองส.ส.ได้ครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนด ร้อยละ 13.53 การเลือกตั้งไม่เป็นโมฆะ ร้อยละ 9.22 บ้านเมืองเดินหน้าไปต่อได้

หลังจากเลือกตั้งแล้ว สิ่งที่วิตกกังวล ร้อยละ 43.15 กลัวว่ากกต.ทำหน้าที่บกพร่อง ผิดพลาด ไม่โปร่งใส ผลคะแนนไม่ชัดเจน ร้อยละ 41.09 การประกาศผลไม่น่าเชื่อถือ ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ร้อยละ 25.98 การใช้สูตรคำนวณส.ส.ไม่ได้รับการยอมรับ

ส่วนความวุ่นวายทางการเมืองหลังวันที่ 9 พ.ค. ร้อยละ 45.20 มองว่ายังคงวุ่นวายเหมือนเดิม เพราะการเมืองไทยยังมีความขัดแย้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย จ้องจับผิด โจมตีกันไปมา การแก่งแย่งอำนาจและผลประโยชน์มีอยู่ตลอด

ร้อยละ 36.56 น่าจะวุ่นวายมากขึ้น เพราะกฎหมายไทยยังมีช่องโหว่ การบังคับใช้ไม่เป็นธรรม สองมาตรฐาน ทำให้เกิดการต่อต้าน การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งขันดุเดือด รุนแรง ทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ขณะที่ร้อยละ 18.24 น่าจะวุ่นวายลดลง เพราะกกต.สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ให้คลี่คลายได้และจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ

อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 39.27 อยากเห็นการเมืองไทยหลังวันที่ 9 พ.ค. มีความสามัคคีปรองดอง ร่วมมือร่วมใจกันทำงาน ร้อยละ 32.23 การเมืองมีเสถียรภาพ เป็นประชาธิปไตย ร้อยละ 23.37 การบริหารประเทศให้เจริญก้าวหน้า ร้อยละ 17.50 มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน และร้อยละ 11.10 มีการตรวจสอบ คานอำนาจจากฝ่ายค้านและประชาชน

ส่วนกรณีผลการนับคะแนนใหม่ของนครปฐมเขต 1 และทำให้จำนวนคะแนนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมานั้น ร้อยละ 50.72 มองว่าเกิดความไม่โปร่งใส ส่อในทางทุจริต ไม่ชอบมาพากล ร้อยละ 29.19 ไม่มีมาตรฐาน ร้อยละ 22.81 กระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน