‘จุรินทร์’ตัวเต็งหัวหน้าปชป. จับมือ‘เฉลิมชัย’กอบกู้พรรค-ผู้ท้าชิงเดินสายหาเสียง

เมื่อวันที่ 6 พ.ค.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ผู้ลงชิงหัวหน้าพรรคคนใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า การที่เลือกนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นเลขาธิการพรรคในทีม คิดว่าสามารถทำงานให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ ในทิศทางที่มีความเห็นสอดคล้องกัน เพราะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมาเป็นระยะแล้ว ซึ่งมีแนวทางตรงกัน เข้าใจปัญหาเหมือนกันว่าถัดจากนี้ไปการบ้านของพรรคไม่ได้มีเฉพาะข้อเดียวคือภาคอีสานแล้ว แต่ยังมีการบ้านเพิ่มมาอีก 4 ข้อหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมาทั้ง กทม. ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้

“การที่นายเฉลิมชัย เคยเป็นเลขาธิการพรรคมาก่อน ก็เป็นข้อดี เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาถือว่าเป็นประสบการณ์และได้ผ่านอะไรมาพอสมควร ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของนายเฉลิมชัย หากมีโอกาสได้รับเลือกจะได้ใช้จุดแข็งตรงนี้มาเป็นประโยชน์กับพรรค และหลังจากได้ประกาศชื่อออกไปเสียงตอบรับเป็นไปในทิศทางที่ดี มีเสียงตอบรับอย่างกว้างขวางในทุกภาค และเชื่อว่าถ้านายเฉลิมชัยได้มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่เลขาธิการพรรคอีกครั้งจะสามารถประสานงานและทำงานร่วมกับสมาชิกทุกภาคได้เป็นอย่างดี”นายจุรินทร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจในการปรับปรุงพรรคให้ดีขึ้น ไม่ให้เกิดความขัดแย้งในสายตาคนนอกพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า คิดว่าไม่มีอะไรยาก เพราะเชื่อมั่นว่าสมาชิกพรรคทุกคนมีความปรารถนาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอยู่แล้วที่อยากเห็นพรรคกลมเกลียวสมัครสมานสามัคคีกันในการที่จะเดินไปข้างหน้าต่อไป เพียงแต่เรื่องการแข่งขันหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เป็นเรื่องปกติของพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย และเป็นวัฒนธรรมทางการเมืองของพรรค หลังการแข่งขันเสร็จสิ้นแล้วมั่นใจว่าทุกฝ่ายพร้อมที่จะร่วมมือร่วมใจกัน

“ถ้าผมมีโอกาสได้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรค ผมจะทำเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญระดับต้น ในการที่จะแสวงหาความร่วมมือ และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสมีที่ยืนและมีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบในการที่จะช่วยกันทำงานให้พรรคเจริญก้าวหน้าต่อไป และในทีมก็มีการผสมผสานคนทุกรุ่น เพราะนี่คือจุดแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ ผมต้องใช้จุดแข็งพรรคมาใช้ในการนำพาพรรคไปสู่ความสำเร็จ แล้วเข้าไปนั่งในหัวใจของประชาชนอีกครั้งในระยะเวลาไม่นาน”นายจุรินทร์ กล่าว

ด้านนายเฉลิมชัย กล่าวว่า หากได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรค คงต้องทำให้พรรคเดินไปข้างหน้าให้ได้ โดยต้องสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ลดความขัดแย้ง ด้วยการพูดจากัน นี่คือเป้าหมายหลัก และเชื่อว่าทุกคนที่ลงแข่งขันอยากเห็นพรรคเดินไปข้างหน้าเหมือนกัน และรักษาพรรคไว้ ตนอยากเห็นพรรคเป็นองค์กรของประเทศ โดยการทำงานจะต้องมีการผสมผสานคนทุกรุ่น พรรคประชาธิปัตย์เป็นของทุกคน จึงมีหน้าที่ขอให้ทุกคนมาช่วยกันทำงาน เพราะการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคหมายถึงการเป็นตัวแทนมาบริหารพรรค ดังนั้นการที่พรรคจะเดินไปได้ทุกคนต้องมาร่วมมือกัน และเราต้องเอาอดีตมาเป็นบทเรียนที่ต้องแก้ไขปรับปรุงว่าจะทำอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่เคยเป็นเลขาธิการพรรคมาก่อนจะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่าตอนนั้นตนมีโอกาสเป็นเลขาธิการพรรคในระยะเวลาสั้น แต่ครั้งนี้ต้องรอดูการตอบรับของสมาชิก ถ้าสมาชิกตอบรับให้ความไว้วางใจ เราก็มีหน้าที่ทำงานการเมืองกอบกู้พรรคประชาธิปัตย์ ให้คืนความเชื่อมั่นคือหัวใจสำคัญ และถ้าได้รับความร่วมมือก็ทำได้ ส่วนการที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้าได้รับชัยชนะ ยังอีกยาวไป อย่างน้อยต้องให้ประชาธิปัตย์เป็นที่รักของประชาชนก่อน

“เชื่อว่าสมาชิกทุกคนมีความคิดคล้ายผม และไม่ว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคผมก็สามารถทำงานด้วยได้ เพราะผู้ที่เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรคแต่ละคนมีคุณสมบัติเป็นหัวหน้าพรรคทั้งหมด เพียงแต่ในโลกนี้คงไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ส่วนผมเข้าไปเติมเต็มให้สมบูรณ์ขึ้น และการแข่งขันก็เป็นตัวตนของประชาธิปัตย์ เชื่อว่าจะไม่เกิดความขัดแย้ง ผมก็คุยกับทุกคน ในการเมืองเราไม่มีศัตรู เราไม่ได้มองว่าเป็นความขัดแย้ง แต่มองว่าเป็นแนวทางที่จะช่วยนำพาพรรคไปเป็นอย่างไร”นายเฉลิมชัย กล่าว

รายงานข่าว เปิดเผยว่า สำหรับความเคลื่อนไหวการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ที่ขณะนี้มีผู้เสนอตัวลงเลือกตั้งได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตรองหัวหน้าพรรค และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ ล่าสุดทั้ง 4 คนได้นัดพบว่าที่ ส.ส.และสมาชิกพรรคตามกลุ่มภาค ผ่านการนัดรับประทานอาหารร่วมกัน

รายงานข่าวจากกลุ่มภาคเหนือ เปิดเผยว่าทางกลุ่มได้กินข้าวกับคณะของนายจุรินทร์ คณะนายอภิรักษ์และคณะนายพีระพันธุ์แล้ว แล้วเมื่อวันที่ 5 พ.ค.และ 6 พ.ค. ขณะที่กลุ่มของนายกรณ์ นัดพบวันที่ 7 พ.ค. ซึ่งการพบปะเป็นไปด้วยดี โดยแต่ละคณะได้แสดงวิสัยทัศน์ นโยบายที่จะขับเคลื่อนพรรคประชาธิปัตย์ไปสู่การปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงพรรคให้ดีขึ้น หลังจากที่การเลือกตั้งส.ส.ที่ผ่านมาพรรคพบความพ่ายแพ้แบบไม่เคยเป็นมาก่อน ขณะเดียวกันจากการเลือกหัวหน้าพรรคชุดที่ได้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค พรรคมีสภาพความแตกแยกกันภายใน ทำให้การแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเน้นประเด็นการผสานรอยร้าวและความแตกแยก พร้อมกับวางแนวทางการทำงานร่วมกันเพื่อให้พรรคมีความมั่นคง

สำหรับการตัดสินใจว่าจะเลือกบุคคลใดเป็นหัวหน้าพรรคนั้น จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสมาชิกกลุ่มเป็นรายบุคคล แต่เชื่อว่าทุกคนเห็นในแนวทางที่ตรงกันถึงการฟื้นสภาพความแข็งแรง และความมั่นคงของพรรค เพื่อให้พร้อมกับการเลือกตั้งส.ส.ในครั้งต่อไป แต่ตอนนี้ตอบไม่ได้ว่าใครจะได้รับเลือก เพราะบุคคลที่เสนอตัวล้วนมีบุคลิกที่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่อาจต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติของบุคคลที่ร่วมในคณะทำงาน เช่น บุคคลที่วางตัวให้เป็นเลขาธิการพรรค ประธานภารกิจ เป็นต้น ซึ่งหลังจากสัปดาห์นี้เชื่อว่าการตัดสินใจของสมาชิกพรรคจะมีความชัดเจนมากขึ้นจนถึงวันที่ 15 พ.ค.ที่จะประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

รายงานข่าวจากกลุ่มภาคเหนือ ระบุอีกว่า สำหรับปัจจัยภายนอกพรรค อาทิ การตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลนั้น ไม่เป็นประเด็นที่จะพิจารณาในขณะนี้ เพราะก่อนหน้านี้พรรคเคยมีมติร่วมกันว่า ทิศทางการเมืองของพรรคต่อจากนี้ต้องเป็นความเห็นร่วมกันของสมาชิกและส.ส.ของพรรค ไม่ใช่ให้หัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรคเป็นผู้ชี้นำแนวทาง แม้ว่าหัวหน้าพรรคจะมีส่วนสำคัญต่อการหารือเพื่อนำข้อมูลให้ที่ประชุมพรรคได้ตัดสินใจว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการตัดสินใจที่มีเป้าหมายร่วมกัน เช่น กรณีจะเข้าร่วมรัฐบาล ต้องพิจารณาถึงยุทธศาสตร์พรรคด้วยว่า จะนำนโยบายของพรรคที่ได้หาเสียงเลือกตั้งไปขับเคลื่อนอย่างไรภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ แทนการพิจารณาถึงโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีที่ได้รับเป็นหลัก

สำหรับผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่ถูกจับตาในตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น ล่าสุด ทีมของนายจุรินทร์ เสนอชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรค ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะได้รับความไว้วางใจมากที่สุด เนื่องจากมีจุดแข็งทั้งคู่ และผู้ใหญ่ในพรรคก็เห็นดีด้วย ส่วนนายกรณ์ เสนอชื่อนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ว่าที่ ส.ส.ตาก เป็นเลขาธิการพรรค ขณะที่นายอภิรักษ์ ได้ทาบทามนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แต่เมื่อสอบถามไปยังนายสาทิตย์ พบว่ายังแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะต้องรอให้นายอภิรักษ์เป็นผู้เปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค. ส่วนนายพีระพันธุ์ ก่อนหน้านี้ มีชื่อของนายถาวร เสนเนียม ว่าที่ส.ส.สงขลา เป็นเลขาธิการพรรค แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน