บิ๊กป๊อก ปฏิเสธ รัฐมนตรีช่วยลาออกไปนั่งส.ว. ให้ไปถามเจ้าตัว บอกมาถามผมหาสวรรค์วิมานอะไร บอกมีเรื่องอื่นถามไหม หลังถูกถามได้รัฐบาลใหม่ ใน 1-2 เดือนนี้หรือไม่
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยื่นใบลาออกเพื่อไปเป็นวุฒิสภา (ส.ว.) หากเป็นจริงจะกระทบต่องานในกระทรวงหรือไม่ ว่า เรื่องนี้สื่อต้องไปถามจากนายสุธีเอาเอง ไม่น่ามาถามตน เพราะตนไม่ทราบ แต่ก็เป็นสิทธิ์ของนายสุธี เป็นเรื่องธรรมดาไม่เห็นแปลกอะไร
“เข้าใจว่าจะต้องมีการแจ้งจากคสช.เพื่อให้มาทำหน้าที่ ถ้าใครผ่านการพิจารณาจากคสช. ก็ต้องทำคุณสมบัติให้ครบถ้วนตามลักษณะที่จะต้องไม่เป็นข้าราชการหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็คงเป็นเรื่องส่วนบุคคล แม้กระทั่งหากคสช.แจ้งไปแล้ว จะลาออกหรือไม่ก็อยู่ที่ตัวบุคคล ผมไม่ทราบ เพราะไม่ได้มาลาออกกับผม ต้องลาออกต่อนายกฯ และจริงหรือไม่ โดยมารยาทผมคงตอบไม่ได้ เพราะผมไม่เห็นหนังสือและก็ไม่ได้ถามนายสุธี วันนี้นายสุธีก็มาประชุมครม. สื่อก็ไปถามนายสุธี มาถามผมทำไม มาถามเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของผม”
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุธี ได้มาเรียนให้ทราบหรือมาหารือหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า “ยังครับ ต้องลาออกใน 1-2 วันนี้ใช่หรือไม่ จะต้องมาเรียนผมด้วยหรือ ผมไม่ทราบ แล้วคุณจะว่าไป ท่านสุธีอยู่ตรงนี้จริงๆ เดี๋ยวผมจะเชิญมาให้ถาม คุณจะถามผมให้เกิดสวรรค์วิมานอะไรขึ้นมา แหม..ถามเรื่องอื่นดีกว่า เดี๋ยวพอรัฐมนตรีท่านอื่นมา ก็ถามอีกสิ คนที่ไม่ใช่ล่ะ คนใช่ก็ไม่ถาม”
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากนี้จะเข้าสู่โหมดการเมืองที่เข้มข้นขึ้นต้องรับมืออย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่เข้มหรอก ธรรมดา ตอนนี้แจ่มชัด เรื่องการเมืองก็ว่ากันไป ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ว่า กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. จะเข้มข้นหรือไม่เข้มข้นก็ว่าไปตามนั้น หากมีการมาร้องก็สอบแล้วแจ้งผลออกมา ตนไม่ถือว่าเข้มข้น ก็เป็นไปตามนั้น ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นก็เป็นไปตามกลไก
เมื่อถามว่าจากการข่าวในแต่ละพื้นที่จะต้องเตรียมรับสถานการณ์อย่างไร รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่มี ประชาชนอยู่ดีหมด เขาต้องการความเรียบร้อย เขาให้ทำอย่างไรก็ได้ แต่ให้เสร็จ ให้จบสิ้นแล้วทำให้ประเทศชาติเจริญเศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนเขาคิดแค่นั้น เขาไม่มานั่งเข้มคนด้วยหรอก
เมื่อถามว่าจะได้รัฐบาลภายใน 1-2 เดือนนี้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ หัวเราะแล้วกล่าวสั้นๆ ว่า “ถามเรื่องอะไรอีกไหม มีอะไรอีกไหม” จากนั้นเดินขึ้นห้องประชุมไป
