เปิดสูตรมหัศจรรย์! วิธี กกต. หา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ทำไมพรรคคะแนนต่ำจึงได้ ส.ส.

วันที่ 8 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงาน กกต. ว่า สำหรับวิธีการคำนวณที่กกต.นำมาคำนวณจัดสรรส.ส.แบบบัญชีรายชื่อให้พรรคการเมืองทั้ง 26 พรรค โดยคิดจากผลคะแนนที่พรรคการเมืองส่งผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใน 349 เขตเลือกตั้ง รวม 74 พรรคการเมือง เป็นคะแนนทั้งสิ้น 35,441,920 คะแนน

เมื่อกกต.ประกาศส.ส.ในระบบแบ่งเขต 349 เขต จึงต้องนำ 349 มาหาร จำนวนส.ส.เขตเต็ม 350 จะได้ ค่าเฉลี่ย 0.9971 จากนั้นนำจำนวนดังกล่าวมาคูณด้วยส.ส.ทั้งสภาคือ 500 คน จะได้ จำนวนส.ส.ที่จะประกาศผลทั้งหมด 498.5714 คน ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ถือเอาเฉพาะจำนวนเต็ม จึงเหลือ 498 คน เมื่อหักส.ส.เขต 349 จึงเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ 149 คน

จากนั้นนำคะแนนรวมที่ 74 พรรคการเมืองได้รับคือ 35,441,920 มาหารด้วย 498 คน ก็จะได้ค่าเฉลี่ยต่อส.ส.1 คน คือ 71,168.5141 คะแนน แล้วนำจำนวนดังกล่าวมาหารคะแนนรวมของแต่ละพรรคก็จะได้จำนวนส.ส.พึงมีเบื้องต้น จากนั้นนำจำนวนส.ส.พึงมีเบื้องต้นไปลบกับส.ส.เขตที่แต่ละพรรคได้รับก็จะได้จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะได้ในเบื้องต้น

เมื่อรวมแล้วพบว่าจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะได้ในเบื้องต้นเกินเป็น 174.2629 คน ซึ่งถือว่าเกินจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะจัดสรรแค่ 149 คน ทั้งนี้เป็นผลมาจากพรรคเพื่อไทยได้ส.ส.เขตเกินกว่าจำนวนส.ส.ที่พึงมีได้

ดังนั้นจึงต้องนำมาปรับและใช้การคำนวณใหม่ โดยนำจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคได้ในเบื้องต้นมาคูณด้วย 149 แล้วหารด้วย 174.2629 ก็จะได้จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่ปรับให้เหลือ 149 คน

ซึ่งจะต้องจัดสรรที่นั่งให้กับพรรคการเมืองตามจำนวนเต็มก่อน ส่งผลให้การจัดสรรรอบแรกมีพรรคการเมืองได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ 15 พรรคการเมือง เมื่อรวมแล้วจะจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อได้เพียง 129 ที่นั่ง ยังขาดอีก 20 ที่นั่ง จึงต้องนำเศษทศนิยมมาจัดสรรให้พรรคการเมืองโดยเรียงตามคะแนนทศนิยมจากมากไปหาน้อยจนได้ครบ 20 ที่นั่ง

ก็จะมีผลให้พรรคอนาคตใหม่ ภูมิใจไทย เสรีรวมไทย เศรษฐกิจใหม่ และประชาชาติ ซึ่งได้รับการจัดสรรในรอบแรก ไปแล้ว ได้รับการจัดสรรเพิ่มอีกพรรคละ 1 ที่นั่ง และมีพรรคการเมืองที่คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ส.ส. 1 คน ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคละ 1 คน อีก 11 พรรคการเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน